รันทดมาเยอะ! ตุ๊กตา อุบลวรรณ เผยอาการพ่อป่วยเส้นเลือดตีบ ยังไม่ดีขึ้น (มีคลิป)
ข่าวบันเทิงวันนี้
เปิดชีวิตต้องสู้ของอดีตนางเอกยุค 90 "ตุ๊กตา อุบลวรรณ บุญรอด" ที่วันนี้มาเล่าชีวิตในวัยเด็กสุดแสนจะรันทด คุณพ่อ คุณแม่ ทำงานก่อสร้าง เคยรับจ้างดูดส้วมพับถุงกล้วยแขกขาย แสนลำบากถึงขั้นแย่งข้าวหมากิน และเผยเส้นทางในวงการบันเทิงที่ยาวนานกว่า 28 ปี พร้อมอัปเดตอาการป่วยของคุณพ่อหลังป่วยด้วยเส้นเลือดในสมองตีบ ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่องวัน 31 ที่มีหนิง ปณิตา และชมพู่ ก่อนบ่าย เป็นพิธีกรดำเนินรายการ
อาการป่วยของคุณพ่อ ณ ตอนนี้มีอาการขาลีบ?
ตุ๊กตา : ณ ปัจจุบันนี้คือขาพ่อลีบลง คือเล็กกว่าแขนตุ๊กตาอีก แล้วก็ยังรักษาเส้นเลือดที่ขาตีบไม่ได้ เนื่องจากว่าพ่อเป็นหลายโรคมาก ตอนนี้ขาจะต้องเอาไว้สุดท้ายส่วนที่สำคัญที่สุดตอนนี้ต้องกลับมาที่สมองอีกครั้ง ต้องเล่าให้ฟังก่อน ก่อนหน้านี้วันที่16 มกราคม พ่อเส้นเลือดในสมองตีบทางด้านขวา เลยทำให้กล้ามเนื้อด้านซ้ายอ่อนแรง
ปากเบี้ยว น้ำลายไหล ตกใจมากไปส่งโรงพยาบาล ถ้าวันนั้นส่งไม่ทันภายใน 3 ชั่วโมง พ่อก็จะนอนเป็นผักเลย แต่ว่าโชคดี ตุ๊กตาต้องขอบคุณธัญญ่า เพราะตอนนั้นทำอะไรไม่ถูกโทร.หาธัญญ่า เพราะมันดึกแล้ว แล้วธัญญ่าก็ประสานกับทางโรงพยาบาลให้ ก็เลยทำให้พาพ่อไปฉีดยาทัน ก็เลยกลับมาพูดได้ แต่ช้าๆ ลิ้นจะไม่ปกติเหมือนเรา ออกจะแข็งๆ นิดนึงตอนนั้นทราบแล้วว่าเส้นในสมองตีบ แต่ไม่ได้ตีบแค่เส้นเดียว แต่จริงๆ มีหลายเส้น แต่เส้นนั้นมันตียถึงขั้นสุดแล้ว ตอนนั้นเราก็พยายามรักษาแล้วก็ทำกายภาพ แล้วก็ทำทีซีสแกนทั้งตัว ปรากฎว่าสิ่งที่เจอลำดับต่อมา คือเส้นเลือดหัวใจตีบ เส้นเลือดหัวใจของคนเรามี 4 เส้นใช่ไหม พ่อตีบ 3 เส้น เส้นนึงตีบ 60 %เส้นนึงตีบ 70 % อีกเส้นตีบ 90% หมอเลยรีบทำเส้นที่ตีบ 90% ก่อน เส้นสมองยังไม่จบนะ กลายเป็นว่าเจอที่หัวใจ แล้วมาเจอเส้นเลือดที่ขาพ่อตีบ ถ้าพ่อไม่ทำกายภาพหรือไม่ดูแลตัวเอง หมอใช้คำว่าต้องตัดขาพ่อ
ขอบคุณคลิปจากรายการ คุยแซ่บshow
ก่อนหน้านี้คุณพ่อเองก็ไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่ แต่สาเหตุอะไรที่ทำให้อยู่ๆ เป็นหนักขนาดนี้?
ตุ๊กตา : ต้องบอกว่า เบาหวาน ความดัน ไขมัน เป็นโรคที่ทุกคนไม่ควรมองข้าม เมื่อมันเป็นแล้ว มันสามารถเป็นจุดเริ่มต้นของโรคทุกโรค การเป็นเบาหวานน้ำตาลจะทำให้เลือดหนืดแล้วเลือดจะไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกายไม่ได้
ในฐานะที่เป็นลูก เห็นคุณพ่ออาการหนักขนาดนี้รู้สึกยังไงบ้าง?
ตุ๊กตา : คิดอย่างเดียวว่า ยังไงก็ได้ขอให้ไม่เสียพ่อไป ต้องเล่าก่อนว่าเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว พ่อเคยหัวใจหยุดเต้นไปแล้วครั้งนึง พี่พาไปส่ง ICU ทันแล้วปั๊มหัวใจขึ้นมาตอนนั้นก็เกี่ยวกับเรื่องเบาหวาน ความดันนี่แหละ แต่พอมันผ่านมา 10 กว่าปี เราก็คิดว่ามันน่าจะไม่มีอะไรแล้ว แล้วอยู่ ๆ วันนึงพ่อปากเบี้ยว น้ำลายไหล เราเลยรู้สึกแบบเกิดอะไรขึ้นอีกแล้วเหรอ ตอนแรกคิดว่าเป็นที่หัวใจ แต่ปรากฎมันเป็นที่สมอง ซึ่งมันแน่มาก ดีที่เป็นซีกขวา ถ้าเป็นซีกซ้าย กล้ามเนื้อด้านขวาส่วนใหญ่ที่สำคัญของคนจะอยู่ฝั่งขวาอันนั้นต่อให้ฉีดยาเข้าไปก็ไม่สามารถกู้พ่อคนเดิมกลับมาได้แน่นอน ต้องนอนเป็นผู้ป่วยอัมพฤกษ์ อัมพาต
ตั้งแต่มกราคม จนถึงวันนี้ครึ่งปี มันดีขึ้นบ้างไหม?
ตุ๊กตา : มันไม่ดีขึ้น มันแย่ตรงที่ว่าเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน ที่ผ่านมา อยู่ ๆ พ่อก็ปากเบี้ยวอีกครั้ง น้ำลายไหล ล้มในห้องน้ำแต่ไม่แรง ก็รีบพาพ่อไปห้องฉุกเฉินซึ่งมันมีสัญญาณเตือนมาอีกว่าสมองเส้นอื่น ๆ ที่มันพร้อมจะตีบตามมา น่าจะส่งอาการมาแล้ว ก็เลยพาส่งห้องฉุกเฉินเสร็จ หมอก็ช่วยพ่อขึ้นมา แล้วก็นัดทำ MRIสมองอย่างละเอียดในวันที่ 5 สิงหาคมนี้
ตุ๊กเป็นคนเข้มแข็ง น้ำตาไม่ค่อยมี แต่รอบนี้เห็นว่าร้องไห้เยอะมาก?
ตุ๊กตา : ใช่ค่ะ เพราะวันไปส่งพ่อที่โรงพยาบาล คุณหมอให้เซ็นใบว่าถ้าฉีดยาเข้าไป มันจะมีผลทำให้เลือดในสมองออก 2-3 % แล้วถ้ามันออกพ่ออาจจะเสียชีวิตแล้วต้องยอมรับที่จะเซ็นว่าในการรักษานี้ถ้าพ่อเสีย ต้องไม่โทษทางโรงพยาบาล อันนี้เป็นภาษาบ้าน ๆ นะคะ จริงๆ เขาจะมีคำที่สวยงามกว่านี้ วันนั้นร้องไห้แบบที่ไม่เคยร้องมาก่อน
เพราะกลัวการเสียพ่อ ตั้งแต่ตุ๊กตาเข้าวงการมา ชีวิตมีแค่พ่อกับแม่ แล้วตัวเองไม่ได้มีลูกอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นความสำคัญทั้งหมดในชีวิตคือเขาเลยอยากจะดูแลเขาให้ดีที่สุดเท่าที่ชีวิตคนคนนึงจะทำได้
ปัจจุบันวิธีประคองการรักษา และความรู้สึกเราเป็นยังไงบ้าง?
ตุ๊กตา : พยายามค่ะ แต่ทุกคนรู้นะคะว่าพ่อแม่เรา ไม่ใช่เฉพาะพ่อแม่ตุ๊กตาหรอกโคตรดื้อเลย แม่อย่ากินหวานซิ กิน คนเป็นเบาหวานมันต้องอยากหวาน หรือเวลาพ่อไปหาหมอหมอบอกว่าอย่าทำอย่างนี้นะ ครับ แต่ไม่ทำ เหมือนกันจัดยาไว้ให้พ่อ เพราะบางวันเราทำงาน เราจะจัดเป็นชุด ๆ เขียนไว้ชัดเจน ก็ไม่กิน สมมติแม่หยิบให้ก็แกล้งวางลืม
หรือบางทีก็กินแล้วคายทิ้ง ก็จัดให้เขาตลอดโดยที่ไม่ท้อ ต้องบอกว่าพ่อแม่ตุ๊กตาไม่ได้มีประกันนะคะ คือตุ๊กตาให้เงินพ่อแม่ไปทำประกันพอเขาไปเขาเห็นคนรอเยอะในการตรวจสุขภาพ เขาก็กลับ แล้วบอกว่าไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวก็ตายทำแต่ประกันชีวิตก็พอนี่คือคำพ่อ แม่ ไม่อยากให้ลูกต้องมาเสียเงิน ส่งทุกเดือน ทุกปี เพราะฉะนั้นสุขภาพไม่เป็นไรหรอก วันนึงมันสำคัญจริง ๆ นะ ตุ๊กตาจะบอกว่า ณ วันนี้มันทำให้เรารู้ว่าค่ารักษาทุกอย่าง ทุกบาทเยอะมาก แต่สู้ไหม โคตรสู้ เฉพาะค่ายาพ่อทุกวันนี้เดือนละ 36,000 บาท ไม่รวมค่ารักษาอื่นๆ ส่วนคุณแม่ เส้นเลือดดำในตาอุดตันและอักเสบถ้าเราไม่รักษาเส้นเลือดนี้มันจะบวมขึ้นมาและบดบังการมองเห็น ไม่สามารถผ่าตัด ไม่สามารถรักษาอะไรได้เลย นอกจากใช้เข้มฉีดยา ฉีดเข้าไปในลูกตาสดๆครั้งนึงในการใช้เงินร้กษาดวงตาแม่เดือนละเกือบ 30,000 บาท ก็เกือบ 100,000 บาทต่อเดือน
เคยท้อบ้างไหม?
ตุ๊กตา : มันมีแต่บอกตัวเองว่าท้อไม่ได้ ถ้าเราท้อพ่อแม่จะทำยังไง ต่อให้มันรู้สึกแย่แค่ไหน จะพูดอย่างเดียวว่าจะสู้ พูดกับตัวเองว่าถ้าเราท้อ พ่อแม่เราตาย แต่ถ้าเราสู้ทุกอย่างมันต้องผ่านไปได้ซิ
ตอนนี้ยุคโควิดที่มันแย่ มันมีผลเยอะขึ้นอีกไหมในการดูแล?
ตุ๊กตา : แย่ค่ะ ในเรื่องของการไปพบแพทย์ ของพ่อไปหาหมอเดือนนึงประมาณ 5 ครั้ง คุณแม่อย่างน้อย 2 ครั้ง ถามว่าโควิดกระทบไหม ในเรื่องการไปพบหมอกระทบเพราะบางทีหมอจะต้องมีทด เขาเรียกว่าตรวจคนไข้ระยะไกล แต่ถ้าถามในเรื่องของรายได้ก็ค่อนข้างกระทบเหมือนกัน แต่ตุ๊กตาโชคดี ตรงที่ผันตัวเองมาทำเบื้องหลังในตอนนี้ให้กับเจ้าของสินค้าหลายๆ ตัวที่อยากจะทำการตลาดทีวีหรือโฆษณา ก็ยังมีเจ้าของสินค้าให้งานเรา แล้วเราทำในส่วนของเบื้องหลังตรงนี้บางทีเราสามารถคิดสคริปต์ให้เขาได้ หรือว่าติดต่อรายการได้ ถามว่าน้อยลงไหม ก็น้อยลง แต่ยังมี เราก็พยายามบริหารเงิน มีเงินเก็บอยู่พยายามใช้มันอย่างคุ้มค่าและประหยัดที่สุดเท่าที่จะทำได้
ถ้าคุณพ่อ คุณแม่ดูอยู่ อยากจะบอกอะไรไหม?
ตุ๊กตา : อยากจะบอกพ่อก่อนนะคะพ่อดื้อไปเถอะ พ่อดื้อแค่ไหนก็ยินดีที่จะดูแลพ่อต่อไป พ่อไม่ต้องรักตุ๊กตาก็ได้ แต่อยากให้พ่อรักตัวเองให้มากที่สุดเพราะว่าถ้าพ่อไม่ดูแลตัวเอง แล้วพ่อเป็นอะไรไป มันไม่ใช่แค่พ่อ มันคือหนูที่อาจจะตายตามพ่อไปก็ได้
เหนื่อยมากไหม?
ตุ๊กตา : เหนื่อยมาก เหนื่อยกายไม่เท่าไหร่ แต่การเหนื่อยใจ บางครั้งการที่เรามีพ่อ แม่ ที่เราต้องดูแลแล้วเขาดื้อ แล้วเราไม่สามารถดุคนเป็นพ่อแม่เราได้1.ด้วยความที่้ขาเป็นพ่อ แม่ เรา เราไม่สามารถว่าเขาได้ เพราะฉะนั้นมันจะเหนื่อย เพราะเราต้องคิดตลอดเวลาว่าเราจะทำอย่างไรให้เขาฟังเราโดยที่ไม่เหมือนเราไปสอนเขา เพราะสอนพ่อ แม่ ไม่ได้
เห็นว่าเด็กๆ ก็สู้มาเหมือนกัน?
ตุ๊กตา : ใช่ค่ะ ต้องใช้คำว่าสู้ที่สุดเท่าที่จะสู้ได้เลย เพราะว่าชีวิตของตุ๊กตาเป็นแค่ลูกของคนงานก่อสร้าง กรรมกรเลย พ่อเป็นช่างไม้ แม่เป็นช่างปูน ทำงานในชีวิตไม่เคยมีบ้าน บ้านเป็นบ้านสังกะสีตามไซต์งานก่อสร้าง เราอยู่แบบนั้นเลยเขาย้ายไปไหน เราก็ไปที่นั่น ชีวิตวันเด็กไม่รู้จักคำว่าเล่นกับเพื่อนเพราะเราอยู่ตรงนั้นก็จะถูกสอนว่า เห็นตะปูไหม เห็นถุงปูนไหม ไปเก็บแล้วเอามาขาย ชีวิตที่อยู่ก่อสร้างคือทำแบบนั้นตลอด แล้วหลังจากนั้นที่อยู่แล้วย้ายไปเรื่อยๆ มันมีงานอะไรก็ตามในชีวิตที่เราทำได้ เราทำ ไปรับจ้างล้างจานในมหาลัย ในโรงเรียน รับจ้างกดน้ำ หรือว่าขายน้ำแข็งไสตามงานวัดขายผักในตลาด ขายบัวลอย ไปรับจ้างเลี้ยงลูก ทำงานบ้าน ทำทุกอย่าง แล้วพ่อแม่ไปทำอะไรก็ไปทำ หนึ่งในนั้นคือสิ่งที่สะเทือนใจจนถึงวันนี้แล้วทำให้เราสู้ก็คือการดูดส้วม สมัยก่อนไม่มีรถดูดส้วม แล้วมันจะเป็นส้วมเป็นถังๆ ตามบ้าน พ่อก็จะกระโดดลงไปในส้วม ตักขึ้นมาให้ตุ๊กตาแล้วตุ๊กตาก็รับไปเท หนอนอะ มันคือส้วม มันคืออุจจาระ
ตอนนั้นกี่ขวบ?
ตุ๊กตา : ตอนนั้นไม่น่าจะถึง 10 ขวบ คือกลางวันทำก่อสร้าง กลางคืนเราต้องหาอาชีพเสริมที่คนจะไม่ทำกัน ก็คือดูดส้วม การไปตักส้วมขึ้นมาแล้วหนอนก็ไต่ตัวพ่อมาถึงเราแต่เพราะงานนี้ทำให้เรามีเงิน
ตอนนั้นยอมทำ?
ตุ๊กตา : ยอม เพราะเราไม่มีจะกินกันจริงๆ แล้วเราลำบาก ในแต่ละวันเราต้องดูว่าพรุ่งนี้เราจะมีข้าวกินไหม
แลกกับรายได้เท่าไหร่?
ตุ๊กตา : ตอนนั้นได้ไม่กี่บาท ถ้าย้อนไปตอนนั้นได้เกือบ 20 บาท ก็ถือว่าเยอะ เพราะสมัยเราไก่ไม้ละ 2 บาท น้ำอัดลม หรือก๋วยเตี๋ยวก็ชามละ 2 บาทเอง
ก็ทำมาเรื่อย ๆ?
ตุ๊กตา : ก็ทำมาเรื่อย ๆ แต่อีกงานที่สะเทือนใจคือพ่อต้องเชือดไก่ รับจ้างเชือกไก่ พอพ่อเชือดเราต้องม่บีบเลือดไก่ เพื่อรองเลือดออกมา
บางวันของมื้ออาหารก็ไม่ได้กินดี ๆ นะ ข้าวบูดก็กินมาแล้ว?
ตุ๊กตา : ใช่ค่ะ เพราะว่าหุงข้าวทีนึงต้แงให้ได้หลายวัน แล้วข้าวสมัยก่อนไม่ได้เสียบไฟฟ้า มันคือหุงหม้อ เตาแล้วอยู่ตามไซต์งานก่อนสร้าง มันต้องเป็นหม้อที่หุงข้าว มีซาวน้ำ มีเช็กน้ำข้าว เพราะฉะนั้นพอข้าวมันบูดทำยังไง แม่ก็ไปตากแห้งแล้วเอามาล้างน้ำแล้วเอามาต้มเป็นข้าวต้ม แล้วแม่ก็เอาเนื้อข้าวให้ตุ๊กตากับพ่อกินเพื่อจะได้มีแรง ส่วนแม่จะกินเฉพาะน้ำข้าว
กินไปเราได้กลิ่นของความบูดไหม?
ตุ๊กตา : ต่อให้ได้กลิ่นก็ต้องกิน เพราะเราไม่มีจะกิน
กับข้าวก็ต้องไปแย่งสุนัข?
ตุ๊กตา : ชีวิตตอนที่อยู่ก่อสร้าง ฝันอยากกินไก่ย่างมาตลอด ซี่โครงไก่ไม้ละ 2 บาท แต่ไม่มีเงินที่จะซื้อ กับข้าวของเราคือพริกป่นผักบุ้งพริกป่นผักตำลึงลวก อะไรก็ได้ที่มันเก็บได้ ต้องประหยัด เห็นเขาซื้อไก่โยนให้หมา พอเขาไปก็เข้าไปไล่หมา แล้วก็เก็บไก่ที่พื้นขึ้นมาล้างน้ำแล้วก็มากินเพราะอยากกินมากๆ แต่เราไม่มีเงินซื้อ
ตอนคุณพ่อโดนตำรวจจับ?
ตุ๊กตา : คือคุณพ่อ ตอนหลังลูกเริ่มจะโตเป็นสาว ไม่อยากให้ลูกอยู่ในไซต์งานก่อสร้าง ก็เลยไปกู้เงินมาก้อนนึง เพื่ออยากจะสร้างบ้านตอนนั้นเริ่มอยากจะเป็นผู้รับเหมาแล้ว ก็มีผู้รับเหมามาจ้างให้พ่อเป็นหัวหน้างาน เสร็จปุ๊บผู้รับเหมาก็ไปรับเงินเจ้าของบ้านไปแล้ว เขาไปซื้อของจริงแต่ไม่เยอะแล้วเอามาฝากไว้ที่บ้าน แล้วเชิดเงินทั้งหมดหนีไป ของกลางอยู่ที่บ้าน หิน ดิน ทราย เจ้าหนี้มาเลย ของกลางอยู่ที่บ้าน แล้วเงินที่เหลือทั้งหมดอยู่ที่ไหนทำไมไม่มาทำบ้านฉัน จำนนด้วยหลักฐาน มีหิน ดิน ทราย อยู่ที่บ้าน ก็เลยจับพ่อเข้าคุก 6 เดือน เรื่องนี้ยัวอยู่ในใจเราและเข้าใจเวลาเราเห็นข่าวคนถูกจับเข้าคุกแล้วเขาไม่ได้ทำผิด นั่งดูข่าวแล้วแบบพ่อเราเลย
ตอนนั้น 6 เดือน แล้วพ่อเป็นเสาหลักของบ้านด้วย แล้วเรากับแม่ทำยังไง?
ตุ๊กตา : ตอนนั้นพอพ่อโดนจับ แม่เหมือนกับกรีดร้องออกมา แล้วอยู่ๆ แม่ก็ล้มไปขยับร่างกายไม่ได้เป็นอัมพฤกณ์ แล้วเราตอนนั้นประมาณ 12 ปีเราทำอะไรไม่ได้เลย เราจะทำยังไงดี บ้านหลังนี้ที่เพิ่งสร้างก็ไปกู้เงินเขามา เจ้าหนี้มาด่าที่บ้านทุกวัน ตอนนั้นคิดในใจแล้วจะทำยังไงเก็บอะไรในทุ่งนาได้ก็เอาไปขาย แต่มันก็ไม่พอกับเงินที่อยากเก็บไปรักษาแม่ ตอนนั้นก็เลยคิดว่าอยากไปขอพระ ขอเป็นเด็กวัด แต่ท่านไม่ให้เพราะเราเป็นผู้หญิง ก็เล่าให้ท่านฟังว่าตอนนี้แม่แย่มาก ไม่มีข้าวกิน นู่นนี่ ท่านเลยเมตตา ทุกเช้าที่บิณฑบาต เอาข้าวมาแขวนที่หน้าบ้านและมาแขวนให้ถุงใหญ่มาก เราดีใจมากเลือกเก็บไว้กินครบ 3 มื้อที่เหลือเอาไปขาย เพื่อจะได้มีเงินมาต่อตรงนี้
แล้วเข้ามาในวงการบันเทิงได้ยังไง?
ตุ๊กตา : พอพ่อออกจากคุก เพราะเขาจับคนร้ายตัวจริงได้ พ่อก็ถูกปล่อยตัวออกมา เราก็ยังทำงานอะไรของเราอยู่ กิจวัตรประจำวันของตุ๊กตาคือตื่นตี3 คือตอนเย็นของอีกวันจะไปเก็บกระดาษหนังสือพิมพ์มา ตี3 จะต้องตื่นมาพับถุงกล้วยแขก ได้ 100 ใบ 3 บาท ซึ่งในระหว่างที่พับถุงอยู่เราเห็นประกาศรับสมัครประกวดดาราทอง ของนิตยสาร ดาราไทย ทีวี รางวัลที่1 ได้รถยนต์ เอาไปขายดีกว่า ตอนนั้นไม่ได้คิดอยากเป็นดาราก็เลยเขียนจดหมายส่งพร้อมรูปนักเรียนที่ถ่ายติดบัตร ได้รับการคัดเลือกเข้ารอบ 1,000 คน เขาส่งจดหมายกลับมา หลังจากนั้นก็ไปประกวดคัดแต่ละรอบๆ จนได้ที่1
ตอนนั้นเอาความสามารถอะไรไปแสดง?
ตุ๊กตา : ร้องเพลง ร้องไม่เป็นเลย เล่นละคร ก็เล่นไม่เป็นเลย แล้วก็เดินแบบ อาศัยดูจากคนที่เขาอยู่หน้าเรา เขาทำอะไรก็ทำตามเขา
ใช่อันนี้ไหมครับที่บอกว่าถ้าชนะจะได้มาเล่นภาพยนตร์กับพี่เต๋า สมชาย?
ตุ๊กตา : ใช่ค่ะ
เหมือนพลิกชีวิตเลย?
ตุ๊กตา : ตอนนั้นประกวดก็ถ่ายทอดช่องนึง แล้วในที่สุดก็ได้รับการติดต่อให้มาเล่นภาพยนตร์กับพี่เต๋า สมชาย
เห็นว่าพอประกวดเวทีนี้ชนะ ก็ไปประกวดอีกเวทีนึง แล้วจะโดนส่งไปต่างประเทศด้วย?
ตุ๊กตา : ใช่
แต่เราเลือกที่ตะกลับมา?
ตุ๊กตา : ใช่ค่ะ เพราะตอนนั้น1.คืออยากทำงานอะไรก็ได้ที่ได้อยู่กับพ่อ กับแม่ แล้วไม่ทิ้งพ่อแม่ไป
แต่ตอนนั้นตุ๊กจะโดนคนว่า ว่าดำ ลูกเป็ดขี้เหร่?
ตุ๊กตา : เรียกว่าหน้าเหมือนไข่นุ้ย ไม่สวย มาเป็นนางเอกได้ยังไง นางเอกจะมีแต่คนสวย ๆ
แล้วผ่านตอนนั้นมาได้ยังไง?
ตุ๊กตา : ต้องขอบคุณกำลังใจจากพี่เต๋า สมชาย พี่เต๋าโคตรน่ารัก พี่เต๋าพูดว่าอย่าคิดมากลูก เราทำงานให้คนที่รักเรา คนไหนที่เขาไม่รักเรา เราก็ไม่ต้องไปสนใจเหมือนพี่ พี่ไม่ได้คิดว่าพี่เป็นคนร้องเพลงเพราะ แต่มีคนอยากฟังเสียงพี่นะ เพราะฉะนั้นพี่ก็อยากร้องเพลงให้คนที่อยากฟังเสียงพี่ ไอตุ๊กสู้ ใครว่าเรายังไง มึงก็คือน้องพี่
แฟนคุณเป็นถึงพระเอกค่ายดัง?
ตุ๊กตา : คุณชิน สุเวท เจตน์จํารัส คือต้องบอกว่าเป็นเพื่อนกันมาก่อน เป็นเพื่อนกันมา 7 ปีแรกเนี่ยเป็นเพื่อนกัน บังเอิญได้ทำงานร่วมกันก็คือได้จัดรายการวิทยุด้วยกัน พอปีที่8 เขาบินไปเรียนต่อที่อังกฤษ หลังจากนั้นรู้สึกว่าชีวิตมันขาดหายไป พี่กับพี่ชินเวลาคุยกัน กู มึง อยู่ในเวอร์ชันที่เขามีแฟนทุกคน เป็นที่ปรึกษาให้ด้วย ไปจัดเซอร์ไพรส์ให้แฟนเขาด้วย ปล้วช่วงนั้นมีแต่ผู้หญิงเข้ามา แบบตุ๊กตาอยากกินชินจัง เราก็แบบติดต่อให้เลยนะคือเราเป็นผู้หญิงคนเดียวที่ได้สนิทกับเขา เนื่องจากเรานิสัยแมน ๆ
แล้วมันเปลี่ยนสถานะไปเป็นแฟนกันตอนไหน?
ตุ๊กตา : พอเขากลับมาจากอังกฤษ ก็เจอกัน ตอนนั้นเขาก็ไม่มีแฟน เราก็เลยบอกว่า เห้ยๆ มึงกับกูลองคบกันปะ คือพอตอนเขาอยู่เราไม่เห็นค่า แต่ตอนที่เขาไม่อยู่เขาไปอังกฤษเรารู้สึกอะไรในชีวิตมันขาดหายไป จนวันที่เขากลับมา ก็เลยตัดสินใจบอกกับเขาว่าลองคบกันไหม
จากวันนั้นจนวันนี้คบกันมากี่ปี?
ตุ๊กตา : ถ้ารวมเป็นเพื่อนด้วย เป็นแฟนด้วย 17 ปี
แล้วพอเราพูดไปว่าเป็นแฟนกันไหม เขาว่ายังไง?
ตุ๊กตา : เขาก็นิ่ง ๆ แล้วตอบ อืม
แพลนจะแต่งเมื่อไหร่?
ตุ๊กตา : ไม่คิดแต่งงาน ไม่อยากมีลูก ตั้งใจกัน เพราะว่าพ่อแม่แฟนก็ป่วย พ่อแม่เราก็ป่วย เราคิดกันว่าเราจะดูแลพ่อแม่ของกันและกันให้ดีที่สุดเพราะเราคิดว่าถ้าเรามีลูก เราจะถูกแบ่งเวลา อันนี้เป็นความคิดส่วนตัว แล้วเราจะไม่มีเวลาดูแลพ่อแม่ ได้เต็มที่ ส่วนเรื่องของแต่งงานไม่คิดแต่ง เพราะเรารู้สึกว่าคนเราถ้ารักกัน เราอย่าเอาอะไรมาครอบเราทั้งสอง ถ้ามันไม่รัก ทำยังไงมันก็อยู่ด้วยกันไม่ได้
ติดตามชมรายการ “คุยแซ่บShow” ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา13.40-14.40 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama
กดเลย >> community แห่งความบันเทิง 📸เมาท์ข่าวดารา กับเจ๊รุงรังขังรวม
ทั้งข่าว หนัง ซีรีส์ 🍿ละคร ดนตรี และศิลปินไอดอล 😍ที่คุณชื่นชอบ บนแอปทรูไอดี