หากพูดถึงซีรีส์เกาหลี หลาย ๆ คนคงนึกถึงซีรีส์โรแมนติก ดราม่า หรือแอคชั่น สูตรสำเร็จที่เน้นการขายความน่ารัก สดใส ของพระนางเป็นส่วนใหญ่ จนกระทั่งไม่กี่ปีมานี้ที่ VIU และ Netflix ได้กลายเป็นสตรีมที่สร้างกระแสซีรีส์เกาหลีให้กลายเป็นที่นิยมของคนในวงกว้างมากขึ้นกว่าเดิม ที่ได้มีการคัดสรรซีรีส์เกาหลีรสชาติแปลกใหม่มาให้ได้ชมกัน ไม่ว่าจะเป็น Kingdom หรือ Extracurricular สำหรับ Stranger From Hell คืออีกหนึ่งซีรีส์สยองขวัญ/ระทีกขวัญ ที่ฉีกกรอบจากซีรีส์เกาหลีที่คุ้นเคย ซีรีส์จะเล่าเรื่องราวของ ยุนจองวู เด็กหนุ่มวัย 26 ปีที่เดินทางมาจากบูซาน เพื่อมาทำงานกับรุ่นพี่สมัยมหาวิทยาลัยในกรุงโซล แต่ด้วยฐานะที่ไม่ได้ร่ำรวยนัก ทำให้เงินที่จะใช้ชีวิตในเมืองกรุงช่วงแรกเต็มไปด้วยความยากลำบาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการหาหอพักราคาถูก จนกระทั่ง จองวู ได้พบหอพักแห่งหนึ่งที่มีราคาที่เขาสามารถสู่ไหว ซึ่งแม้ว่าตัวอาคารจะดูเก่าทรุดโทรม และไม่สะอาดนัก แต่สิ่งเหล่านี้ในหอกลับดูเป็นเรื่องเล็กในทันตา เพราะบรรดาผู้เช่าในหอนี้ กลับเต็มไปด้วยคนที่พิลึก ชวนสยอง ไม่ว่าจะเป็น สองฝาแฝด ที่คนหนึ่งมักหัวเราะแปลก ๆ และพูดติดอ่าง ,ชายใส่แว่น ที่ชอบสะสมรูปสาวน่ารัก เพื่อมาสำเร็จความไคร่ ,ป้าเจ้าของหอ ที่มักจะมีของกินแปลก ๆ มาให้เสมอ และหมอฟัน ที่มีใบหน้าซีดเซียว และชอบยิ้มแปลก ๆ นอกจากนี้ จองวู ก็ต้องเผชิญกับเรื่องแปลก ๆ อย่างอื่นในหอแห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นเสียงจาก ชั้น 4 ที่ไม่มีคนอยู่ หรือคนในหอที่มักจะหายตัวไป ด้านตัวเขาเองก็หารู้ไม่ว่าหอแห่งนี้จะเปลี่ยนชีวิตเขาไปตลอดกวลหากให้เปรียบเทียบ Stranger From Hell กับหนังสักเรื่อง ชื่อแรกที่ผุดมาในหัวของผมคงไม่พ้น Joker อย่างแน่นอน เพราะประเด็นของทั้งซีรีส์เรื่องนี้ กับหนังเรื่องดังกล่าว หยิบมานำเสนอนั้นคือเรื่องที่ใกล้เคียงกันอย่าง "สังคมที่ทำร้ายผู้คน และสร้างอาชญากรโดยที่เราไม่รู้ตัว" ในขณะที่ Joker พาเราไปสำรวจชีวิตที่พังทลายในทุก ๆ ด้านของ อาเธอร์ เฟล็ก แต่ใน Stranger From Hell ซีรีส์ได้พาเราไปพบความพังทลายของ ยุนจองวู ที่เขาได้ถูกกลุ่มคนที่เรียกว่า "คนแปลกหน้า" ทำลายชีวิตของเขาทีละเล็กละน้อย โดย "คนแปลกหน้า" ในซีรีส์เรื่องนี้ คือใครก็ตามที่ไม่ใช่คนในครอบครัว ที่แม้ว่าจะเคยสนิทชิดเชื้อกันก็ตาม โดยซีรีส์ได้สะท้อนให้เห็นถึงการประพฤติของผู้คน ที่มีต่อคนแปลกหน้า ไม่ว่าจะเป็นตัวละครในหอพัก หรือสังคมที่ทำงานของตัวเอก ที่ล้วนแต่มีการสวมหน้ากาก และพร้อมทำร้ายกันในเบื้องหลัง ซึ่งเป็นสิ่งใกล้ตัว ที่คนแทบทุกคนในยุคนี้จะต้องเผชิญส่วนที่เป็นจุดขายของซีรีส์ที่ช่วยให้สามารถสะท้อนประเด็นที่ต้องการจะสื่อออกมาได้ทรงพลังยิ่งขึ้น คือการสร้างคาแรคเตอร์ของแต่ละตัวละครให้มีความสุดโต่ง หลุดโลก ที่แตกต่างกันไป โดยเฉพาะตัวละครในหอ ที่แต่ละคนล้วนมีความบ้า และน่าสะพรึงกลัว ที่ทำให้ทุกครั้้งที่เห็นตัวละครกลุ่มนี้ปรากฏตัว เราจะรู้สึกอึดอัด หวาดกลัวทุกครั้ง ในขณะที่ตัวเอกของเรื่องอย่าง ยุนจองวู เองก็มีความลึกลับ ความเป็นสีเทา ให้ได้ค้นหา ไม่ว่าจะเป็นภาพอดีตที่โหดร้ายที่คอยเล่นงาน รวมถึงสภาพแวดล้อมที่ทำให้ตัวละครนี้มีสภาวะอารมณ์ที่หวั่นไหว เกินคาดเดายิ่งขึ้นเรื่อย ๆ นอกจากนี้ตัวละครสมทบอื่น ๆ ในซีรีส์เอง ก็ช่วยขับเคลื่อนให้ประเด็นของเรื่องออกมาชัดเจน และน่าติดตามมากยิ่งขึ้นนอกจากพาร์ทดราม่า ระทึกขวัญ ของกลุ่มคนในหอ และชีวิตพระเอกแล้ว ซีรีส์ยังมีอีกเส้นเรื่องที่ชวนติดตามไม่แพ้กัน ได้แก้เส้นเรื่องการสืบสวน สอบสวนของ ตัวละคร โซจุงฮวา ตำรวจสาวน้อย ที่พยายามทำทุกอย่างเพื่อที่จะสืบหาความจริง จากเรื่องเล็ก ๆ ไปสู่เรื่องใหญ่ ๆ ซึ่งการสืบสวนในเรื่องนี้ ก็ทำออกมาได้อย่างน่าติดตาม ชวนเอาใจช่วยในหลาย ๆ ฉาก ด้วยวิธีการสืบสวนที่สมจริง พร้อมการผูกเรื่องทั้งสองเส้นเรื่องที่ประสานด้วยกันอย่างลงตัว ทำให้ซีรีส์ไม่ได้มีดีแค่ดราม่า หรือความระทึกขวัญเท่านั้นด้านงานโปรดักชั่นของซีรีส์ก็ทำออกมาได้อย่างน่าชื่นชมไม่แพ้กัน โดยเฉพาะการเลือกโลเคชั่นหอพัก ที่เป็นหัวใจหลักของเรื่อง โดยมีการสร้างสรรค์บรรยากาศในหอ ที่นอกจากจะมอบบรรยากาศอันน่าขนลุกแล้ว ยังสามารถสะท้อนตัวตนของตัวละครได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีการเล่นมุมกล้องแบบ Bird Eyes View ที่ถ่ายทอดบรรยากาศของแต่ละห้องในหอ ด้วยมุมจากเพดาน ที่ทำให้เราได้เห็นอิริยาบถของตัวละคร และสร้างอารมณ์ที่ชวนอึดอัดตลอดเวลา และแม้ว่าจะเล่นกับที่แคบเป็นส่วนใหญ่ แต่หลาย ๆ ฉากที่ถ่ายในหอ ก็เต็มไปด้วยลองเทคชวนสะพรึง ประกอบกับงานดนตรีประกอบที่หลอนติดหู ที่ช่วยเพิ่มบรรยากาศให้หอพักในเรื่องดูแล้วทั้งน่ากลัว ทั้งลุ้น ได้อย่างยอดเยี่ยม ด้านการแสดงของนักแสดงนำ เรียกได้ว่านักแสดงทุกคนต่างสามารถถ่ายทอดบทบาทของตัวเองได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นเหล่าตัวละครในหอ ที่ถ่ายทอดบทความจิต ความหลุดโลก ออกมาได้น่าหวาดกลัว ชวนสะพรึง แต่ด้านการแสดงที่สามารถแบกซีรีส์เรื่องนี้ได้อย่างน่าชื่นชมคือบท ยุนจองวู ของ อิม ซีวาน ที่ถ่ายทอดพัฒนาการของตัวละครนี้ได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะบริบทของเหยื่อ ที่ถูกกระทำจาก "คนแปลกหน้า" ที่เขาสามารถทำให้คนดูทั้งเห็นใจ และมีอารมณ์ร่วมไปกับชะตากรรมอันน่าหดหู่ของตัวละครตลอดทั้งเรื่องจุดด้อยของเรื่องนี้ มาจากความที่ซีรีส์ยังมีความเป็นการ์ตูน ค่อนข้างสูง ทำให้เนื้อหาเมื่อถูกนำมาสร้างเป็นซีรีส์ มีบางช่วงที่ขาดความสมเหตุสมผล ไม่ว่าจะเป็นปริศนามากมายที่ซีรีส์ พยายามขมวดปมให้ดูน่าสนใจ แต่ท้ายที่สุดก็ปล่อยปมเหล่านั้นให้เป็นปริศนา ให้คนดูคิดต่อไป แต่ส่วนที่น่าจะค่อนข้างเป็นจุดด้อยที่เห็นได้ชัด คือ EP. ท้าย ๆ ของเรื่อง ที่ทำออกมาค่อนข้างรวบรัด ตัดตอน ทั้ง ๆ ที่ช่วงแรกซีรีส์ปูเรื่องได้อย่างมีชั้นเชิง และน่าสนใจ แต่ช่วงท้ายซีรีส์กลับออกมาเป็นหนังสยองขวัญสูตรสำเร็จ ที่บางช่วงเดาทิศทางได้ง่าย หรือบางการกระทำของตัวละคร ก็ดูไร้เหตุผล ย้อนแย้งจากที่ผ่านมาโดยสิ้นเชิงอย่างไรก็ตาม Stranger From Hell ก็ถือว่าเป็นซีรีส์เกาหลี ที่มีความโดดเด่น ทั้งด้านเนื้อหา ประเด็น และวิธีการเสนอ ที่น้อยครั้งจะมีมาให้ได้ชม ตัวซีรีส์ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด แต่สิ่งที่ได้รับจากเรื่องนี้มากกว่านั้นคือ ผลกระทบทางจิตใจ ที่เนื้อหาของซีรีส์ได้บีบอารมณ์คนดูให้มีส่วนร่วมไปกับความหดหู่ ความเลวร้ายต่าง ๆ ที่ตัวละครพบเจอแบบอยู่หมัด ด้วยเนื้อหาอันรุนแรงนี้เอง ที่ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้ไม่เหมาะนักที่จะดูรวดเดียวจบได้ แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ก็ปฏิเสธไม่ได้จริง ๆ ว่านี่คืออีกหนึ่งซีรีส์น้ำดี ที่นอกจากความบันเทิง ความสนุกแล้ว ซีรีส์เรื่องนี้ยังสะท้อนสังคมปัจจุบันออกมาได้อย่างสมจริง และชวนสะเทือนใจเป็นอย่างยิ่งสามารภรับชมซีรีส์ Stranger From Hell บน Nerflix ผ่าน่ทางกล่อง True ID และช่องสตรีม VIU ได้แล้ววันนี้ Cr.ภาพ หน้าปก / ภาพ1 / ภาพ2 / ภาพ3 / ภาพ4 / ภาพ5 / ภาพ6