สวัสดีค่ะทุก ๆ คน บทความนี้เป็นบทความแรกของเราเลย ซึ่งในวันนี้นะคะเราจะมาพูดถึงภาพยนต์เรื่อง “พจมานสว่างคาตา” ซึ่งเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกที่เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ หลังจากเกิดสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด - 19 จนทำให้ทางโรงภาพยนต์ต้องปิดให้บริการไปชั่วคราว “พจมานสว่างคาตา” ภาพยนตร์ของผู้กำกับมือทอง “พชร์ อานนท์” ซึ่งภาพยนต์เรื่องนี้เป็นภาพยนต์ไทยแนวคอมเมดี้ตามแนวของผู้กำกับ “พชร์ อานนท์” ที่มีผลงานภาพยนต์โด่งดัง เป็นที่ชื่นชอบของใครหลาย ๆ คน นั่นก็คือภาพยนตร์เรื่อง “หอแต๋วแตก” ที่มีมาแล้วถึง 6 ภาค “พจมานสว่างคาตา” เป็นภาพยนตร์ภาคแยกของภาพยนตร์ “หอแต๋วแตก” แต่เนื้อเรื่องในภาพยนตร์ “พจมานสว่างคาตา” นั้นไม่มีเนื้อเรื่องหลักของภาพยนตร์ “หอแต๋วแตก” แต่อย่างใด หากใครที่ไม่เคยดูภาพยนตร์เรื่อง “หอแต๋วแตก” เราขอรับรองว่าไม่งงแน่นอนค่ะ (แต่ถ้าใครมีเวลาว่างก็ลองไปดูภาพยนตร์เรื่อง “หอแต๋วแตก” ย้อนหลังในYoutube channel “Major Group” ดูนะคะ ถูกลิขสิทธิ์แน่นอนค่ะ) “พจมานสว่างคาตา” เป็นภาพยนต์ที่มีมุขตลก ๆ มาอย่างเต็มที่ และบทต่าง ๆ ในภาพยนต์ก็มีความทันสมัย ทันเหตุการณ์ และทางผู้กำกับ “พชร์ อานนท์” เคยได้ให้สัมภาษณ์ว่าภาพยนต์เรื่องนี้จะเป็นเรื่องที่จะทำให้ทุกคนที่มาดูนั้นได้ขำกันจนท้องแข็ง และเรียกความสุขกลับมาอีกครั้งหลังจากผ่านสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และเราก็บอกได้เลยว่าภาพยนตร์เรื่องนี้นั้นสนุก ตลก ขำกันจนท้องแข็งอย่างที่ทางผู้กำกับ “พชร์ อานนท์” เคยพูดไว้จริง ๆ ค่ะ เรื่องย่อภาพยนตร์ "พจมานสว่างคาตา" "พจมานสว่างคาตา" เป็นภาพยนตร์ที่เป็นการล้อเลียนภาพยนตร์เรื่อง “บ้านทรายทอง” นั่นเอง เรื่องราวความวุ่นวาย และความสยองขวัญทั้งหมดได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อ “พจมาน”(โก๊ะตี๋ อารามบอย) ได้เข้าไปอาศัยอยู่ในคฤหาสน์บ้านดอกไม้ทอง กับครอบครัวของ “หม่อมอัมราภาแพรวพรรณนารายณ์พรรณาโวหารสมานจิต หรือ คุณหญิงแม่”(จาตุรงค์ โพธาราม) ซึ่งมีศักดิ์เป็นหม่อมป้าของพจมาน และพจมานก็ยังต้องพบกับ “หญิงเบ้อเริ่มเทิ่ม”(เอกชัย ศรีวิชัย) , “หญิงจิ๊ดริด”(ยิ่งศักดิ์ จงเลิศเจษฎาวงศ์) , ชายน้อยหนึ่ง(วีรดิษฐ์ ศรีมาลัย) และเหล่าบรรดาคนรับใช้ในบ้านดอกไม้ทอง “แม่ช่อมณี”(พชร์ อานนท์) หัวหน้าคนใช้ในคฤหาสน์บ้านดอกไม้ทอง ผู้กุมความลับทุกอย่างของคนในคฤหาสน์แห่งนี้ แม่ช่อมณีได้ร่วมวางแผนกับหม่อมอัมราภาเพื่อฆ่าพจมาน เพราะหม่อมอัมราภาไม่อยากให้พจมานแย่งมรดกไป แต่แผนการฆ่าพจมานกลับไม่ล้มเหลวทุกครั้ง แต่พจมานกลับตายง่ายๆ เพราะพจมานนั้นลื่นและตกบันได ต่อหน้าต่อตาคนในคฤหาสน์ไปเสียอย่างนั้น แต่พินัยกรรมของตระกูลนี้นั้นจะสามารถเปิดได้ก็ต่อเมื่อคนในตระกูลอยู่ครบเท่านั้น และในตอนนี้ “ชายกลาง”(ชาลี ไตรรัตน์) กำลังจะเดินทางกลับจากต่างประเทศ แต่ก็จะไม่สามารถเปิดพินัยกรรมได้เพราะพจมานนั้นได้ตายไปแล้ว หม่อมอัมราภาจึงมอบหมายให้แม่ช่อมณีไปหาคนที่จะมาปลอมตัวเป็นพจมาน เพื่อที่จะสามารถเปิดพินัยกรรมได้ และคนที่จะมาสวมรอยเป็นพจมานนั้นต้องแต่งงานกับชายกลาง มรดกทั้งหมดก็จะได้ตกเป็นของหม่อมอัมราภา แม่ช่อมณีได้แนะนำ “แพนเค้ก”(เขมนิจ จามิกรณ์) ให้กับหม่อมอัมราภาเพื่อมาสวมรอบเป็นพจมาน และจะมอบเงินก้อนโตให้กับแพนเค้ก เพื่อที่เธอจะได้นำเงินไปเป็นค่ารักษาพยาบาลของแม่ แพนเค้กจะต้องทำการอ่อยคุณชายกลางให้เขาตกหลุมรักและแต่งงานกับเธอให้ได้ และเธอยังต้องจัดการกับ 4 สาวของคุณชายกลาง นั่ก็คือ "เจนนี่"(แอร์ ภัณฑิลา) , "ลิซ่า"(จิ๊บ ปกฉัตร) , "จีซู"(สิตางศุ์ บัวทอง) และ"โรเซ่"(ซอโซ่ เดอะเฟส) และยังมีเรื่องราวของความสยองขวัญเล็กอยู่เล็กน้อย เมื่อพจมานตัวจริงที่ตายไปแล้วมาหลอกหลอนคนในคฤหาสน์แห่งนี้ มาหาแพนเค้กพร้อมบอกให้เธอระวังตัวพวกคนในคฤหาสน์แห่งนี้ และพยายามบอกความจริงให้กับคุณชายกลางได้รู้ความจริงว่าเธอนั้นคือพจมานตัวจริง เรื่องราวของภาพยนตร์เรื่อง “พจมานสว่างคาตา” ไม่ได้จบเพียงเท่านี้นะคะ ยังมีเรื่องราว ความลับต่าง ๆ และตัวละครอื่น ๆ มาเซอร์ไพรส์ มาเฉลยกันตอนท้ายเรื่องอีกด้วยค่ะ สรุปความรู้สึกต่อภาพยนตร์เรื่อง “พจมานสว่างคาตา” ก่อนอื่นเราขอพูดถึงความรู้สึกต่อนักแสดงในภาพยนตร์เรื่องนี้ก่อนนะคะ เรารู้สึกประทับใจ “แพนเค้ก เขมนิจ” เป็นที่สุดเลยค่ะ เพราะปกติเราจะเห็นแพนเค้กรับบาทนางเอก เรียบร้อย สวย ๆ น่ารัก ๆ แต่ในภาพยนตร์เรื่องนี้นั้นแพนเค้กได้สลัดบทพวกนั้นออกหมดเลย ทำให้ได้เห็นแพนเค้กในบทที่หยาบ ๆ ตลก ๆ อย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน แสดงได้อย่างตลก เป็นธรรมชาติ ไม่ห่วงสวยเลยค่ะ แพนเค้กกินขาด เด่นที่สุดในเรื่องเลยค่ะ เราบอกเลยว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้เรารู้สึกหลงรักแพนเค้กมากขึ้นนะคะ ส่วนนักแสดงนำคนอื่น ๆ และนัดแสดงรับเชิญ นักแสดงประกอบ ในเรื่องก็แสดงได้ดี ตลกนะคะ ดูเป็นธรรมชาติ ไม่อึดอัดค่ะ และในส่วนของ “แน็ก ชาลี” ขอบอกเลยค่ะว่าบทคุณชายกลางในภาพยนต์เรื่องนี้สร้างมาเพื่อแน็กจริง ๆ ค่ะ เหมาะสมจริง ๆ ถ้าไม่ใช้แน็กเราก็นึกไม่ออกแล้วค่ะว่าใครที่มารับบทนี้แล้วจะเหมาะสมเท่ากับแน็ก และสุดท้ายในส่วนของเนื้อเรื่อง บทของภาพยนตร์ ถือว่าก็ยังคงเป็นสไตล์การทำภาพยนตร์ของ “พชร์ อานนท์” ค่ะ และมุขตลก และการนำกระแสต่าง ๆ ในปัจจุบันมาใส่ในภาพยนตร์ เช่น การระบาดของไวรัสโควิด – 19 , social distancing , เจน นุ่น โบว์ , ส้มหยุด นั้นถือว่าทำออกมาได้ดีไม่ได้ดูเยอะเกินไป หรือน่ารำคาญนะคะ สรุปแล้วเราให้ 8/10 เลยค่ะ ขอหักคะแนนที่เรารู้สึกว่าการเล่าเรื่องมันยังเร็ว ๆ งง ๆ ยังไงอธิบายไม่ถูก แต่รวม ๆ แล้วชอบสนุกค่ะ ใครที่ยังไม่ได้ไปดูภาพยนตร์ “พจมานสว่างคาตา” ก็รีบไปดูนะคะก่อนจะออกจากโรงภาพยนต์ ที่มารูปภาพ ภาพปก , ภาพประกอบที่1 , ภาพประกอบที่2 , ภาพประกอบที่3 , ภาพประกอบที่4 , ภาพประกอบที่5 , ภาพประกอบที่6 , ภาพประกอบที่7 , ภาพประกอบที่8 , ภาพประกอบที่9 , ภาพประกอบที่10 และ ภาพประกอบที่11