หลังจบคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกในเมืองไทยของวงร็อกที่อันตรายที่สุดในโลก Guns N Roses 2 ปีให้หลัง Slash มือกีตาร์หัวฟูก็กลับมาเยือนไทยอีกครั้ง แต่ครั้งนี้มาในนามของ Slash ft. Myles Kennedy & The Conspirators วงที่ Slash ฟอร์มขึ้นมาใหม่ หลังจากแยกทางกับ Guns นับว่าเป็นการเยือนไทยครั้งที่ 2 ของ Slash และชาวคณะหลังจากเคยมาแล้วเมื่อปี 20117 ปีให้หลัง Slash และชาวคณะออกอัลบั้มใหม่ในชื่อ Living The Dream ( 2018 ) นับว่าเป็นอัลบั้มที่ 3 ของทางวงต่อจาก Apocalyptic Love ( 2012 ) และ World On Fire ( 2016 ) พร้อมประกาศทัวร์รอบโลกในชื่อ Livng The Dream Tour และมีไทยแลนด์อยู่ในชื่อจุดหมายปลางทางของทัวร์เอเชีย มือกีตาร์ระดับโลกมาเยือนไทยทั้งที มีหรือเราจะพลาด10 มกราคม 2019 ณ GMM Live House Central World แน่นขนัดไปด้วยแฟนเพลงไทยสายเลือดร็อก ที่มารอชมคอนเสิร์ตครั้งนี้ ทันทีที่ Slash สะพาย Lespaul กับหมวกทรงสูงอันเป็นเอกลักษณ์ขึ้นเวที ความมันก็ระเบิดขึ้นทันที เปิดฉากด้วยแทร็คใหม่สุดมันจากอัลบั้มล่าสุด The Call Of The Wild ตามมาด้วยเพลง Halo, Standing in the sun และ Back from cali เป็นเพลงเดียวจากอัลบั้มเดี่ยวที่ Slash หยิบมาเล่นในค่ำคืนนี้ เล่นเอาคนดูร้องตามกันลั่นฮอลล์ไม่รอช้าปลุกความมันต่อด้วย My antidote ในเพลงนี้ Slash ได้แสดงให้เห็นถึงฝีมือโซโลกีตาร์ของเค้าว่ามันร้ายกาจแค่ไหน ต่อด้วยเพลง Serve you right, Between the lines และ Fall to pieces เป็นอีกหนึ่งเพลงจากวงเก่า Velvet Revolver ที่ถูกหยิบมาเล่นในโชว์นี้ สนุกและร้องตามกันมันมากครับผ่านมาครึ่งทาง Myles Kennedy เข้าไปพักเสียง ส่งไมค์ต่อให้ Todd Kerns มือเบสร้องแทนในเพลง We’re all gonna die และ Dr. dlibi ซึ่ง Todd ก็ไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆ ร้องคอรัสก็เยี่ยม เสียงสุดยอดมาก หลังจากพักเสียงดื่มน้ำดื่มท่า Myles ก็ขึ้นมาร้องต่อ 5 เพลงรวด Too far gone, Mind your manner, Driving rain, Wicked stone เพลงที่มีท่อนโซโล Outro ยาวนานหลายนาที ฟังเสียงกีตาร์ของน้าแกจุใจเลยล่ะครับNight train เป็นเพลงเดียวจาก Guns ที่ถูกหยิบยกมาเล่นในค่ำคืนนี้ เสียงตะโกนร้อง Night train! ดังลั่นฮอลล์ น่าจะเป็นเพลงที่คนดูร้องตามได้มากที่สุด ( แน่ล่ะสิ ก็พี่แกเล่นแต่เพลงใหม่ๆ 555 ) สนุกและกระโดดกันมันมากครับหลังจากเล่นเพลงเร็วมาต่อเนื่อง ถึงคิวเพลงช้า The great pretender, By the sword และ Starlight ที่คนดูต่างพร้อมใจกันเปิดแฟลชโบกมือตามเพลง เล่นเอา Myles ถึงกับยิ้มเลย ตามมาด้วยเพลงเร็ว You’re a lie และ World on fire เป็นอีกหนึ่งเพลงที่มันมากๆ ของทัวร์นี้ครับช่วง Encore 2 เพลง เริ่มด้วยเพลง Shadow life และปิดท้ายคอนเสิร์ตด้วย Anastasia ร็อกดุดัน ท่อนริฟท์มันๆ และช่วงโซโล Outro ที่ยาวนานแต่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพ ทำให้คนดูทึ่งไปกับความสามารถอันเหลือล้นของมือกีตาร์หัวฟูคนนี้จริงๆ ครับ เป็นคอนเสิร์ตร็อคที่ดุดันตลอด 1 ชม.ครึ่ง แม้จะมากับ Setlist ที่หลายคนอาจไม่ค่อยคุ้นหูนักเพราะ Slash แทบไม่เล่นเพลงของวงเก่าเลย แต่ด้วย Performance ของวงที่เล่นเข้าขากันเป็นอย่างดี เสียงร้องอันทรงพลังของ Myles Kennedy บวกกับเสียงกีตาร์อันเกรี้ยวกราดของ Slash ทำให้นี่คือคอนเสิร์ตที่สมบูรณ์แบบครับ