รีวิวหนัง "Finding Joy พาใจไปหาจอย" เดินทางสู่ความจอย ที่อยู่ตรงไหนของหนังเรื่องนี้เอ่ย?
แม้ว่าในยุคสมัยนี้ชื่อผลงานที่แปะตัวชื่อ "ไทเลอร์ เพอร์รี" จะไม่สามารถการันตีได้อีกต่อไปแล้วว่า จะเป็นผลงานที่เปรี้ยงปังและเปี่ยมด้วยอรรถรส เหมือนกับเมื่อสมัยยุคเรืองรองของเขาเมื่อทศวรรษก่อน เพราะยุคของเขาได้ผ่านพ้นไปแล้ว แต่ก็ยังคงได้รับความไว้วางใจจากสตูดิโอสตรีมมิงต่าง ๆ ให้รังสรรค์ผลงาน ล่าสุดก็เป็นคิวของ "Finding Joy พาใจไปหาจอย" นี่คือผลงานหนังและซีรีส์เรื่องที่ 7 ในรอบปี 2025 เป็นนักสร้างที่ผลงานชุกชุมจริง ๆ
จอย ดีไซเนอร์สาวผู้เปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์ แต่กลับถูกอะไรหลาย ๆ อย่างบดบังออร่าของเธอ การงานที่ไร้โชค ความรักของเธอก็อับจนขั้นสุด เพราะหลังจากเลือกที่จะติดตาม โคลตัน หนุ่มที่นึกว่ากำลังคบหาดูใจกันอยู่ไปทริปที่โคโลราโด เธอหวังว่าจะได้พบกับมนตร์วิเศษในช่วงวันหยุด แต่กลับต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่พลิกขั้ว ซ้ำยังติดแหง็กกับพายุหิมะถล่ม ท่ามกลางเวลาที่ไร้ที่พึง เธอได้พบกับ ริดจ์ หนุ่มผิวสีสุดฮอตจากต่างถิ่น ที่เขามาสอนและเปลี่ยนมุมมองชีวิตกับความรักที่แตกต่างออกไป
เช่นเคย ไทเลอร์ เพอร์รี รับหน้าที่ทั้งกำกับหนัง จากบทหนังที่เขารังสรรค์ขึ้นมาเอง แต่ให้ตายเถอะ...พล็อตหนังเหมือนกับยุคออกมาจากหนังสือหลักสูตรเขียนบทหนังขั้นพื้นฐาน เมื่อ 20-30 ปีที่แล้ว เพราะเส้นเรื่องก็คือความเฉิ่มเชยแบบละครน้ำเน่ากับปมสตอรี่ง่าย ๆ ที่ไม่ได้มีอะไรซับซ้อนเลยสักนิด พล็อตหนังง่ายแบบหลับตานับหนึ่ง..สอง..สาม ยังไปได้ถูกทาง เป็นกิมมิกความง่ายที่แม้จะเป็นบทหนังขั้นพื้นฐาน แต่ก็ยังเป็นสิ่งที่พยายามมองหาและค้นหาว่าความสนุกอยู่ตรงไหน
บทหนังที่อาจจะถูกเซ็ตและตั้งค่าไร้ความเป็นธรรมชาติไปทั้งหมด ยังมาผสมปนเปอยู่กับการเซ็ตฉากแบบเฉิ่ม ๆ ที่ตะโกนออกมาว่า..ฉากกกกกก ยิ่งมาพร้อมกับการออกแบบตัวละครที่ตื้นเขินและไม่มีมิติใด ๆ ทุกอย่างถ่ายทอดออกมาเพียงแค่ด้านเดียวไปเรื่อย ๆ จึงทำให้หนังยิ่งดำเนินไปเรื่อย ๆ แบบไร้ชีวิตชีวาและไม่รู้ว่าจังหวะที่ควรจะเอ็นจอยไปกับมันจะไปในทิศทางใด
แล้วยังเสริมด้วยทิศทางการแสดงแบบเล่นใหญ่เล่นโตแบบยกแก๊ง "แชนนอน ธอร์นตัน" ให้แอคติ้งแบบเข้ากับบทได้ดี ด้วยการเล่นใหญ่ไว้ก่อน แต่โชคดีที่เสน่ห์ของเธอก็พอจะส่องแสงออกมาได้อยู่บ้าง แม้ว่าพวกไดอะล็อกบทพูดต่าง ๆ จะออกมาเป็นละครไปหน่อย พรรณาภาษาที่สวยเกินกว่าที่มนุษย์ทั่วไปจะพูดสื่อสารกัน จึงเป็นจุดที่ทำให้ยิ่งไม่เป็นธรรมชาติยิ่งเข้าไปอีก
"โทซิน โมโรฮุนโฟลา" เป็นพระเอกหนุ่มสไตล์บ้าน ๆ ดิบ ๆ ที่หยิบจับมาค่อย ๆ ปัดฝุ่นให้เป็นเทพบุตรบ้านนาได้ทีละน้อย ยังเสริมด้วยแก๊งเพื่อนซี้ที่เล่นใหญ่ไว้ก่อน อย่าง "บริตตานีย์ ฮอลล์" และ "อินอายาห์" เป็นส่วนที่คอยช่วยกระตุ้นให้หนังที่ไร้ความจอยเรื่องนี้ ได้ฟื้นคืนสติได้ที่เรื่อย ๆ เป็นจังหวะอย่างต่อเนื่อง โดยที่ภาพของการแสดงในหนังเรื่องนี้ค่อนข้างจืดชืดเกินไปที่จะผลักดันทำให้หนังเปล่งปลั่งได้ควรจะเป็นกว่านี้
สารภาพตรง ๆ เลยว่า Finding Joy เป็นหนังที่แทบจะไม่มีแรงขับเคลื่อนที่อยากจะดูไปถึงตอนจบ เพราะเพียงแค่หนังร้อยเรียงเรื่องราวผ่านไปแค่ 20 นาทีกว่า ๆ กลับทำให้รู้สึกทำไมยาวนานเหลือเกิน กลายเป็นหนังที่เต็มไปด้วยอะไรซ้ำ ๆ เดิม ๆ ความคลีเช่ในแบบที่ไม่มีเสน่ห์อะไรตรงไหนเลย เนื้อเรื่องไม่ได้นำพา ความสนุกที่ยังค้นหาไม่พบสักเท่าไหร่ เป็นหนังเรื่อย ๆ ที่จืดชืดจนรสชาติที่ยังมองหาความอร่อยยังไม่ค่อยพบ
ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง Finding Joy พาใจไปหาจอย
- ประเภท: ดรามา / โรแมนติก
- ผู้กำกับ: ไทเลอร์ เพอร์รี
- นำแสดงโดย: แชนนอน ธอร์นตัน, โทซิน โมโรฮุนโฟลา, บริตตานีย์ ฮอลล์, อินอายาห์
- ความยาว: 107 นาที
- กำหนดฉายในไทย: 5 พฤศจิกายน 2025 (ที่ Prime Video)
Movie.TrueID METRIC: Finding Joy พาใจไปหาจอย
- ภาพรวม
⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰✰✰ (5.7/10) - การเล่าเรื่อง
⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰✰ (6.1/10) - การแสดง
⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰✰ (6.6/10) - เทคนิคงานสร้าง
⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰✰ (6.4/10) - บทภาพยนตร์
⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰✰✰ (5.2/10)
คุณสามารถรับชม Prime Video ได้ง่าย ๆ จากกล่อง TrueID TV ตอบโจทย์ความบันเทิงได้ครบ!
-------------------------------------
>> ดูหนังออนไลน์ได้ที่ Movie.TrueID <<
หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับทรูไอดีสามารถเข้าไปได้ที่ TrueID Help Center เป็นช่องทางใหม่ที่ให้ข้อมูลและการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นเกี่ยวกับทรูไอดี คลิกเลย >> https://bit.ly/3xEgdAa