รีวิว Song of the Bandits (ลำนำคนโฉด) ซีรีส์แอ็คชั่นคาวบอยจากเกาหลีที่ยิ่งใหญ่จัดเต็ม และสนุกกว่าที่คิด บทความรีวิวนี้ ถูกเขียนขึ้นมาจากความรู้สึกส่วนตัวของผม หากผิดพลาดประการใด หรือไม่ถูกใจใครต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ แต่ก่อนจะมาเริ่มการรีวิวเรามาดูเรื่องย่อกันก่อนดีกว่าเรื่องย่อ Song of the Bandits (ลำนำคนโฉด)ซีรีส์เรื่องนี้เป็นผลงานออริจินัลจาก Netflix เกาหลีใต้ ซึ่งจะพาผู้ชมย้อนกลับติดตามเรื่องราวที่เกิดขึ้นในเกาหลีเมื่อราวๆ 100 ปีก่อน ในยุคที่เกาหลีได้เสียเอกราชให้กับญี่ปุ่น โดยจะติดตามเรื่องราวของ อียุน (รับบทโดย คิมนัมกิล) อดีตทาสที่ได้รับอิสระหลังจากถูกชุบเลี้ยงโดยครอบครัวของผู้พัน อีกวังอิล (รับบทโดย อีฮยอนอุค) คนเกาหลีที่ได้เข้าร่วมกองทัพญี่ปุ่น ซึ่งอียุนเองก็เป็นทหารของกองทัพญี่ปุ่นเช่นกัน ทว่าจากเหตุการณ์การสังหารหมู่เมื่อหลายปีก่อนทำให้ อียุน เกิดคาใจ จึงตัดสินใจหนีจากกองทัพและเดินทางไปหา ชเวชุงซู (รับบทโดย ยูแจมยอง) อดีตแม่ทัพที่ครอบครัวถูกสังหารในเหตุการณ์ครั้งนั้น โดยอียุนหวังจะไถ่บาปด้วยการให้เขาปิดชีพ แต่แล้วเขากลับได้รับโอกาสจากชเวชุงซู และได้สร้างกลุ่มคนโฉดขึ้นมาเพื่อออกช่วยเหลือชาวเกาหลีที่ถูกกองทัพญี่ปุ่นคุกคาม ท้ายที่สุดแล้วเรื่องราวทั้งหมดจะจบลงอย่างไร ทุกคนต้องไปรับชมด้วยตาตัวเอง Song of the Bandits (ลำนำคนโฉด) มีทั้งหมด 9 ตอน สามารถรับชมได้พร้อมพากย์ไทยทาง Netflixตัวอย่าง Song of the Bandits (ลำนำคนโฉด)รีวิว Song of the Bandits (ลำนำคนโฉด)สำหรับซีรีส์เรื่องนี้ส่วนตัวต้องบอกก่อนว่าผมเข้าไปดูโดยไม่ได้คาดหวังอะไรเลย แต่พอได้ดูไปเรื่อยๆ มันก็สนุกใช้ได้เลย ทุกอย่างทำออกมาได้ตามมาตรฐานตามคุณภาพของเกาหลี บทเฉียบคมซับซ้อนนิดๆ มิติตัวละครที่ไม่อ่อนจนเกิดไป ถึงอาจจะไม่ใช่ซีรีส์ที่สนุกจนต้องยกขึ้นหิ้ง แต่ก็ปฎิเสธไม่ได้จริงๆ ว่ามันก็มอบความบันเทิงให้กับผมได้ไม่น้อยเลย เริ่มจากบทกันก่อน ตัวบทถือว่าเขียนมาได้ดีพอตัว มีทั้งเรื่องความรัก ความสัมพันธ์แบบเพื่อนรักเพื่อนร้ายของพระเอกและผู้พันอีกวังอิล ไปจนถึงความโหดร้ายของการเมืองที่ส่งผลกระทบต่อผู้คน พร้อมทั้งยังสอดแทรกความคอมเมดี้มาอยู่ตลอดผ่านตัวละครสมทบในกลุ่มคนโฉดของพระเอก เรียกได้ว่าครบรสทุุกอารมณ์ อีกอย่างที่อยากชมคือการออกแบบตัวละครในเรื่อง โดยเฉพาะสมาชิกในกลุ่มพระเอกที่ทุกตัวมีเอกลักษณ์ของตัวเองชัดเจนมากๆ ส่วนต่อมาคือด้านการแสดง ส่วนนี้ถือได้ว่าทำได้ดีมากๆ โดยเฉพาะเหล่าตัวละครในหลักเรื่อง ทุกคนแสดงได้ดีสมบทบาทมากๆ เหล่าตัวละครสมทบก็ทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีเช่นกัน แต่คนที่ผมอยากชมและมองว่าโดดเด่นที่สุดก็คงเป็น อีฮยอนอุค ที่รับบทเป็น อีกวังอิล เพราะเขาต้องรับบทเป็นนายทหารญี่ปุ่น ดังนั้น จึงต้องพูดทั้งเกาหลีทั้งญี่ปุ่น ไม่ใช่แค่พูดได้อย่างแนบเนียนเท่านั้น เพราะการแสดงของเขาก็ยอดเยี่ยมด้วยเช่นกัน เขาเล่นได้สมบทบาทจนทำให้คนดูอย่างเราๆ รู้สึกหมันไส้ได้จริงๆ แต่ในขณะเดียวกันเราก็เกลียดเขาไม่ลงเพราะมิติตัวละครของเขาก็มีความน่าสงสารอยู่ไม่น้อย เรียกได้ว่าทั้งรักทั้งเกลียดก็ว่าได้ อีกตัวละครที่ชอบก็คงเป็น อนนยอนอี ที่รับบทโดย อีโฮจอง นักฆ่าสาวสุดโหดที่ไล่บี้พระเอกทั้งเรื่อง แม้จะเป็นตัวสร้างสีสันแต่เธอก็ยังมีปมและเรื่องราวของตัวเอง ซึ่งอีโฮจองแสดงได้เท่และน่ารักในเวลาเดียกกันจริงๆ ในด้านของการแสดงส่วนตัวไม่มีอะไรจะติ ทำออกมาได้ดีแล้วส่วนสุดท้ายคือด้านงานสร้างและการโปรดักชั่น ส่วนนี้คือสิ่งที่ทำออกมาได้ดีเกินที่ผมคาดไว้มากๆ ทุกอย่างจัดหนักจัดเต็มจริงๆ แบบดูแล้วเราเชื่อเลยว่ามันเป็นยุคคาวบอยจริงๆ ทั้งฉากหลัง เสื้อผ้าหน้าผมที่มีความมอมแมมเหมาะกับยุคสมัยนั้น ทุกอย่างเป๊ะหมด งานซีจีเองก็ทำได้ดี ฉากแอ็คชั่นก็ไร้ที่ติ แถมยังใส่ฉากแอ็คชั่นมาเยอะด้วย และทำได้ดีทุกฉากเลยจริงๆ ส่วนนี้ผมยกให้เป็นจุดแข็งของเรื่องเลย ใครที่อยากดูซีรีส์แนวแอ็คชั่นของเกาหลี เรื่องนี้ก็ถือเป็นหนี่งในทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลย สรุปโดยรวมก็คือ ซีรีส์เรื่องนี้คือซีรีส์ที่สนุกดูเพลิน บทกำลังดี การแสดงดี แอ็คชั่นจัดเต็ม แถมยังมีพากย์ไทยอีกต่างหาก เอาเป็นว่าทุกคนไปดูด้วยตาตัวเองคงจะดีกว่า เพราะคนเรารสนิยมแตกต่างกันสุดท้ายนี้ ฝากกดแชร์ และกดติดตามด้วยนะครับช่องทางอื่นๆ ในการติดตาม ละเลงหนังFacebook Fanpage : ละเลงหนังกลุ่มสำหรับพูดคุยเรื่องหนัง : พูดคุยเรื่องหนังทุกเรื่องบนโลก By ละเลงหนังบทความอื่นๆของ ละเลงหนัง :รีวิว The Expendables 4 (โคตรคนทีมมหากาฬ 4) ภาคต่อที่ดรอปลงทุกด้านจนน่าผิดหวัง แต่ก็พอดูสนุกๆ ได้รีวิว Moving (2023) ซีรีส์เกาหลลีแห่งปีที่ดีทุกกระเบียดนิ้ว ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง!รีวิว A Time Called You (เวลาเพรียกหาเธอ) ซีรีส์เกาหลีโรแมนติกไซไฟบทยอดเยี่ยม ที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง [มีพากย์ไทย] ดูได้ทาง Netflixรีวิว Sex Education 4 (เพศศึกษา หลักสูตรเร่งรัก ซีซัน 4) ภาคต่อที่ดีเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือตอนจบอันหวานอมขมกลืนเปิดวาร์ป 5 นักแสดงจาก Moving (2023) ซีรีส์เกาหลีแนวซูเปอร์ฮีโร่ที่กำลังฮิตติดชาร์ตรีวิว The Equalizer 3 (มัจจุราชไร้เงา 3) การปิดไตรภาคที่สวยงาม ฉากแอ็คชั่นมีน้อยแต่ดุเดือดถึงใจทุกฉากแหล่งที่มาทั้งหมดจาก Netflix Kenya, NetflixTHภาพปก: ภาพที่ 1ภาพประกอบ: ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4วิดีโอ: ลำนำคนโฉด (Song of the Bandits) | ตัวอย่างซีรีส์อย่างเป็นทางการ จาก Youtube: Netflix Thailandจะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !