In My MemoriesJealousy Incarnate (Don't Dare to Dream): รักเลยไม่ต้องฝัน (2016)เก่าแต่ดีของ "กงฮโยจิน" รอมคอมสดใสในมุมคมๆ ความรักและครอบครัวสำหรับกงฮโยจินหรือที่คนดูซีรีส์เกาหลีเรียกสั้นๆว่า "เจ๊กง" นั้นแม้จะเป็นนักแสดงระดับแถวหน้าของวงการที่สามารการันตีคุณภาพและความสำเร็จที่เป็นรูปธรรมให้งานที่เธอรับเล่นได้ กระนั้นที่น่าแปลกใจคือถ้านับกันที่จำนวนงานที่เธอรับเล่นกลับมีน้อยมากถ้าว่ากันที่นักแสดงระดับนี้ ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะเจ๊เลือกบทที่จะมาเล่นด้วยที่เป็นเหมือนสูตรหลักของนักแสดงชั้นนำหลายรายที่บทไม่ดีไม่เล่นประมาณนั้น ซึ่งการที่งานที่เธอแสดงมีไม่มากจึงไม่ลำบากในการตามดูงานเก่าๆของเธอ (ยกเว้นที่เก่าจัดๆ) และจากการที่ดูไปบ่นไปตามดูงานของกงฮโยจินมางานของเธอจะออกแนวรอมคอมดูสบาย และมีงานหนึ่งที่เก่าแต่ดีที่อยู่ในความทรงจำใครหลายคนที่จัดเป็นงานชั้นดีด้วยองค์ประกอบดีๆมีครบหมด แต่อาจด้วยช่วงเวลาที่ออกฉายหกปีที่แล้วแม้จัดว่าดีแต่ยังเห็นริ้วรอยบ้างแต่การเล่าเรื่องก็ยังแข็งแรงมีประเด็นคมคายมากมาย ผู้ประกาศข่าวพยากรณ์อากาศนามว่าพโยนาริ (กงฮโยจิน) ในสถานีโทรทัศน์ระดับตัวพ่อแต่ก็อยู่ในสถานะต๊อกต๋อยเต็มที การเป็นพนักงานชั่วคราวทำให้รายได้เพียงน้อยนิดไม่เพียงพอ เธอจึงรับงานทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นเรื่องการจัดการเสื้อผ้าหน้าผมในการมาถ่ายทำรายการที่ประเทศไทยกับนักข่าวประจำพื้นที่อีฮวาชิน (โจจองซอก) ในระหว่างการเดินทางพโยนาริได้เจอกับโกจองวอน (โกคยองพโย) บนเครื่อง เมื่อมาถึงด้วยความบังเอิญทำให้เธอทำหน้าอกของอีฮวาชินเป็นแผล ในขณะที่เธอพยายามเช็ดแผลเธอคลำพบอะไรบางอย่างที่หน้าอกอีฮวาชินและมันติดอยู่ในใจเธอ เพราะอีฮวาชินคือคนที่พโยนาริแอบมีใจให้ข้างเดียวในขณะที่โกจองวอนแอบชอบพโยนาริมาตั้งแต่บนเครื่องบินและเข้ามาแทรกและจีบพโยนาริอย่างเอาเป็นเอาตาย ฝั่งอีฮวาชินผู้หมางเมินกลับคล้ายจะสูญเสียอะไรในชีวิตบางอย่างในที่สุดเขาก็พบว่าแท้จริงแล้วเขามีพโยนาริอยู่ในใจเสมอ เจตนาของบทและโครงเรื่องนี้แข็งแรงมากสำหรับเรื่องนี้ ด้วยพล็อตรักสามเส้าที่ได้ผลในแบบของเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดที่มีมิติทางอารมณ์ร่วมจากอยู่ในตัวเองมัน แต่มันเจ๋งตรงที่การวางบทของอีฮวาชินที่เป็นพระเอกแต่อุดมไปด้วยพฤติกรรมน่าชังแต่ข้างในก็ยังอ่อนไหว แล้วให้บทโกจองวอนเป็นเจ้าชายผู้แสนดีที่มาทีหลังและพร้อมจะทุ่มทุกอย่างเพื่อเธอ ส่วนบทพโยนาริคือตัวกลางกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเพราะอยากเก็บเธอไว้ทั้งสองคน ทำให้คนดูหมั่นไส้อีฮวาชินแต่สงสารโกจองวอนและคนดูก็เอาใจช่วยพระรองเพื่อที่จะพิสูจน์ความผ่องแผ้วข้างในของพระเอกในภายหลัง ซึ่งแม้บทสรุปมันยังคงเป็นไปตามครรลองที่พระรองต้องเสียสละพระเอกนางเอกไม่ทรยศความรู้สึกตัวเอง แต่นั่นเป็นเพราะการที่อีฮวาชินได้ค้นพบความจริงในใจแต่อาจจะด้วยความที่ความยาวของซีรีส์ที่มีถึงยี่สิบสี่ตอนทำให้บางตอนรู้สึกหน่วงๆลงในเรื่องหลัก เหมือนวนอยู่กับเรื่องเดิมๆกับพฤติกรรมเดิมๆน่าหมั่นไส้ของพระเอกจนเหมือนกับย่ำอยู่กับที่ ยิ่งช่วงท้ายๆที่พยายามอัดปัจจัยด้านการทำงานผิดพลาดของพโยนาริเข้ามายิ่งดึงให้เรื่องหย่อนลงและดูยืดยาด ซึ่งว่ากันตามตรงเรื่องบางเรื่องไม่มีก็คงไม่เสียหายและอาจทำให้เรื่องราวโดยรวมกระชับขึ้น แต่ทั้งนี้ต้องชื่นชมเจตนาของบทที่ยังแข็งแรงในการดึงอารมณ์ร่วมแม้จะดูจงใจมากที่จะวางตัวพระเอกให้น่าหมั่นไส้ไม่จบไม่สิ้นจนกลายเป็นความน่ารำคาญสำหรับคนดูที่ความอดทนต่ำกับพฤติกรรมแบบนี้และไม่เอาใจช่วย แต่นั่นเพราะบทจงวางพระรองไว้ให้น่าเห็นใจเพื่อพิสูจน์ใจพระเอกอย่างได้ผลต่างหากที่แข็งมากอีกเรื่องคือเรื่องความชุลมุนในครอบครัวของอีฮวาชิน จนทำให้ต้องหนีไปประเทศไทยเพราะมโนธรรมในใจจรรยาบรรณแต่นั่นกลับทำร้ายครอบครัวตัวเอง อีฮวาชินมีอดีตพี่สะใภ้สองคนที่เป็นไม้เบื่อไม้เมาในที่ทำงานเดียวกันกับเขา มีแม่ที่ตัดขาดจากเขา มีหลานสาวที่มีปัญหาครอบครัวแตกแยก มีพี่ชายที่รักและรอเขาจนลมหายใจสุดท้ายของชีวิต เรื่องเหล่านี้เล่าได้แข็งแรงจนเด่นกว่าเรื่องหลักได้ในบางช่วง ด้วยความสัมพันธ์ในครอบครัวที่ชุลมุนวุ่นวายอีปัลกัง (มุนกายอง) เป็นเด็กที่ครอบครัวแตกแยกอยู่กับพ่อเพียงลำพังสองคนด้วยความขัดสน เธอเหมือนมีแม่สองคนคือคนที่ให้กำเนิดและคนที่เลี้ยงเธอมาซึ่งทั้งสองรักเธอมากกว่าสิ่งใดแต่กลับเป็นคู่รักคู่แค้นกัน และปัลกังมองว่าเธอและพ่อถูกทอดทิ้งเหตุการณ์ชิงดีชิงหัวใจลูกสาวจึงเข้มข้นไม่ต่างจากพระเอกกับพระรองแย่งนางเอก เสริมด้วยเรื่องราวรักสามเส้าในวัยทองกับเชฟรูปหล่อแต่เสื่อมสมรรถภาพ (จะซับซ้อนไปไหนหนักหนา) การทะเลาะตบตีชิงเด่นชิงดีที่น่าขันแต่คนดูเกลียดใครไม่ลงระหว่างสองแม่ และประเด็นนี้ก็สรุปอย่างลงตัวเมื่อแม่ที่ตัดขาดจากอีฮวาชินกลับมาโอบกอดเขาอีกครั้งเพราะยังไม่พร้อมจะสูญเสียและความเป็นแม่ที่ไม่ว่ายังไงก็ไม่มีทางเกลียดลูกตัวเองผ่านการรับรู้เรื่องอาการป่วยของลูกชาย บทสรุปส่งท้ายเมื่อปัลกังยิ้มอย่างมีความสุขที่จะได้อยู่ร่วมกับแม่ทั้งสองและกลับมาเป็นครอบครัวอีกครั้ง ซึ่งส่วนตัวแล้วผู้เขียนมีความรู้สึกร่วมกับเรื่องนี้มากกว่าเรื่องความรักของพระเอกนางเอกและพระรอง อาจจะด้วยวัยที่ทำให้สายตามองในมุมที่ต่างไปและที่ไม่เอ่ยถึงคงไม่ได้คือเรื่องการให้ความรู้และให้ตระหนักถึงอันตรายของมะเร็งเต้านมในผู้ชาย ซึ่งผู้เขียนก็เพิ่งทราบหลังจากดูซีรีส์ว่ามันเป็นไปได้จริงและไม่ใช่เรื่องตลก บทในส่วนนี้สามารถสร้างความเข้าใจและตระหนักให้ผู้ชายที่ได้ดูไปสืบค้นหาข้อมูลว่ามันมีจริงและอันตรายจริง แต่ก็วางไว้เป็นอารมณ์ขันเบาบนความไม่กล้า ความอับอาย และศักดิ์ศรีความเป็นชายผ่านการเล่าเรื่องชวนหัว แต่ใส่รายละเอียด สาเหตุ อันตรายและการรักษามาให้เข้าถึงและเข้าใจง่ายและประเด็นนี้ก็แข็งแรงมาก อีกอย่างที่ต้องบอกว่าดีจริงคือการที่ไม่มีตัวร้ายตัวอิจฉาแบบจริงจัง แต่ตัวร้ายตัวจริงคือใจตัวเองของตัวละครโดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวละครอีฮวาชินที่ว่เป็นตัวเดินเรื่องทั้งเรื่องเพราะทุกประเด็นของบทชี้ไปในทางเขาหมดและโจจองซอกก็รับหน้าที่ได้อย่างน่าพอใจแต่เรื่องนี้นางเอกพลังสูงเกินไปทำให้แม้จะหล่อและแสดงดีมีมิติในตัวละครที่ลึก ซึ่งถ้าหากเป็นนางเอกคนอื่นโจจองซอกจะโดดเด่นแต่เมื่อเป็นกงฮโยจินที่มิติของตัวละครอาจไม่ลึกเท่า มีรอยมากมายทั้งเรื่องของครอบครัวที่ถ้าไม่นับเรื่องน้องชายคนดูจะลืมไปหมดว่าพโยนาริยังมีพ่อมีแม่เลี้ยงวัยสาวและมีน้องชายรุ่นลูกอีกคน แต่พลังดาราการแสดงระดับเล่นเป็นใครก็เป็นคนนั้นของกงฮโยจินที่มอบการแสดงที่เป็นธรรมชาติและพลังดาราที่ดึงดูดสายตา รวมถึงเคมีที่เข้ากันได้ทั้งพระเอกพระรองที่พลังลึกลับของเธอดึงให้พระรองโกคยองพโยมีราศีขึ้นมาทั้งที่มิติตัวะลคดูแบนกว่าคนอื่น แต่ที่ขโมยซีนได้คือสองสาวใหญ่บังจายอง (พัคจียอง)กับคเยซองซุค (อีมีซุค) จนเมื่อถึงบทสรุปคนดูก็จะเชื่อหมดใจเพราะที่ผ่านมาคนดูได้เห็นพัฒนาการของตัวละครผ่านการเล่าเรื่องที่มีน้ำหนักมีจุดเปลี่ยน ทำให้แม้ว่าจะมีอืดบ้างบางช่วงแต่ถ้าดูรวมๆแล้วมีเสน่ห์ มีแง่มุมให้คิด มีความซาบซึ้ง และน่าติดตามเรื่องนี้อาจไม่ใช่ซีรีส์ที่สมบูรณ์แบบ มีบ้างบางช่วงที่เนือยและน่ารำคาญที่ไม่ยอมไปข้างหน้าแต่ถ้ามองโดยรวมๆแล้วกลับมองว่านี่คือซีรีส์ชั้นดีอีกเรื่องหนึ่งที่ความเนือยอาจเป็นเพราะความเสียดายของผู้เขียนบทมากกว่าที่ไม่กล้าตัดบางอย่างทิ้ง ซึ่งผู้เขียนมองว่าถ้าตัดเรื่องที่วนอยู่กับที่ทิ้งไปบ้างอาจจะเหลือแค่ยี่สิบตอนอาจจะกระชับและเร้าอารมณ์ได้กว่านี้ แต่เท่าที่มีก็ดีพอตัวด้วยบทที่แข็งแรงดึงอารมณ์ร่วมได้ บทที่จงใจให้คนดูหมั่นไส้พระเอกเอาใจช่วยพระรองที่ได้ผล มีความโรแมนติค มีเรื่องความรักและการยอมรับยอมเปลี่ยนตัวเองเพื่อคนที่รัก การรักใครสักคนทั้งหมดใจที่ยอมรับในสิ่งที่เขาเป็น หรือความรักของครอบครัวจะพาให้เราเอาชนะอุปสรรคได้ แต่ก่อนจะสร้างครอบครัวให้อุดมไปด้วยความรักได้ ยังไงมนุษย์ยังต้องโหยหาความรักระหว่างหนุ่มสาวเพื่อสร้างครอบครัวด้วยกันอยู่ดีดูไปบ่นไป์NETFLIX , viuขอบคุณภาพประกอบ ภาพปก / ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 / ภาพที่ 5 / ภาพที่ 6 จาก programs.sbs.co.kr หมายเหตุ ผู้เขียน "ดูไปบ่นไป" คือบุคคลเดียวกับ Facebook Fanpage ดูไปบ่นไป บทความผลงานของ กงฮโยจินรีวิวจัดเต็ม When The Camellia Blooms : วันที่ดอกไม้เบ่งบาน (2019) คำพิพากษากับฟ้าหลังฝน มรสุมชีวิตกับความเรียบง่าย งดงามและจริงใจในความทรงจำ It's Okay , That's Love : ถ้ารักกัน...มันก็โอเค (2014) "ความงดงามของความรักที่ชนะได้แม้อาการป่วย" *STAR COVER"อย่ามัวแต่ดูมาดังกัน"*ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ขอชวนทุกคนมาสนุกโคฟเวอร์ พร้อมลุ้นรับเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 7,000 บาท (5 รางวัล) โคฟคนที่ใช่ ไลค์คนที่ชอบ`ร่วมสนุกได้ที่ ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ห้อง cover บนแอปทรูไอดี` คลิกเลย >> https://ttid.co/UAnK/7y9jfqkqอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://bit.ly/3O1cmUQร่วมสนุกตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2565 - วันที่ 3 สิงหาคม 2565