ด้วยความรักและความศรัทธาในอำเภอเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี ที่ “หมอริท” นายแพทย์ ฤทธ ปกกฤตยหริบุญ หมอหนุ่มในวัย 42 ปี ถ่ายทอดตีพิมพ์เขียนออกมาเป็นหนังสือส่วนตัวที่ใช้ชื่อว่า “ในอ้อมกอดเขมราฐ” อีกไม่นานเกินรอ จะถูกสานต่อบนแผ่นฟิล์ม การดำเนินงานภายใต้ “เดอะ พาลาซโซ เขมราฐ” ที่ควบตำแหน่งผู้อำนวยการสร้าง พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ลูกอีสานที่รักในถิ่นฐานบ้านเกิดได้มีส่วนร่วมในการจุดประกาย ความฝัน เตรียมฉาย ให้ได้รับไออุ่นจากอ้อมกอดอันแสนสุข ในโรงภาพยนตร์ 12 พ.ค. 2559 นี้ ทั่วประเทศ
เพื่อให้เมืองเล็กๆ สุดเขตแดนสยามริมฝั่งโขง ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ชวนหลงใหล เป็นที่รู้จักวงกว้างมากขึ้นผ่านเรื่องราว ความรักต่างวัย 3 คู่ ระหว่าง“แพทย์หญิงแพรขวัญ รับบทโดย “หมอเพื่อน” กอบกุลยา จึงประเสริฐศรี , แพทย์จบใหม่จากกรุงเทพฯ ที่เลือกมาบรรจุ อ.เขมราฐ โดยมีแรงบันดาลใจอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ แพรขวัญ แอบชอบ ก้อง รับบทโดย “กอล์ฟ” อนุวัฒน์ ชูเชิดรัตนา หนุ่มหล่อหน้าตาดีเจ้าของธุรกิจร้านกาแฟ ความสัมพันธ์ทั้งสองค่อยๆ ก่อร่างสร้างขึ้นภายใต้บรรยากาศความเครียดของก้องที่อกหักจากสาวเมืองกรุงจนไม่เชื่อในความรัก และแม่ก็ป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย ก้องมีน้องชายชื่อคนเล็กชื่อ เก้า รับบทโดย “ฟลุ๊ค” ธีรภัทร โลหนันท์ ที่เรียนม.ปลายห้องเดียวกับ ปราย รับบทโดย “ปาล์มมี่” นันทริยา นามบุญ ลูกสาวเจ้าของร้านขายข้าวมันไก่ เธอแอบชอบเก้าแต่เก้าไม่ชอบและแสดงความรำคาญทุกครั้งที่เจอหน้า ในรีสอร์ทภูห่มดาวของก้องมี เป้ง รับบทโดยนักร้องหนุ่มเสียงดี “เต๋า ภูศิลป์” เป็นผู้จัดการ เป้งได้เจอพิมมะณี รับบทโดย “พุดทะสอน สีดาวัน” สาวลาวที่มาอาศัยอ.เขมราฐ เพื่อทำงานส่งเงินกลับบ้าน ทั้งคู่ชอบพอกันผ่านความศรัทธาในแม่น้ำโขงอันเป็นสายเลือดของพี่น้องไทยลาว
จากหมอรักษาคนไข้ทำไมจึงโดดมาสร้างหนัง? ไปฟังจากปาก หมอริท กันครับ
“ผมเป็นคน จ.สุรินทร์ อ.ท่าตูม บ้านยากจนมากครับ พ่อแม่ทำนา เด็กบ้านนอกที่ต้องเสาะแสวงหา มีคนพาไปเรียนกรุงเทพฯ อยู่วัดสุทธิวราราม ตั้งแต่ ม.4-6 เป็นเด็กวัด สอบเข้ามหาวิทยาลัยได้คณะแพทย์ ม.ขอนแก่น เรียนเวชปฏิบัติทั่วไป เกรดดีอาจารย์ศัลยกรรมให้เรียนต่อด้านศัลยกรรม แต่ทางบ้านไม่ไหวแล้ว พอเรียนจบขอทำงานหาเงินก่อน เพื่อโละหนี้สินให้เร็วที่สุด ที่พ่อแม่ไปยืมญาติพี่น้องมาครับ ตอนเด็กๆ ผมชอบดูหนังกลางแปลง หนังโรง สมัยก่อนในอำเภอมีโรงหนังเล็กๆ แม่ชอบพาไปดู เปิดพัดลมร้อนๆ แต่เด็กน้อยๆ น่ะได้ดูหนังแล้วก็มีความสุข จนไม่สนใจหรอกครับว่าร้อนหรือหนาว ถามว่าความรักและความศรัทธาที่มีต่อ อำเภอเขมราฐ คือหลังจากเรียนจบแพทย์ผมเลือกลงที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ตามกลุ่มเพื่อนสนิท จากนั้นปี พ.ศ. 2543 ก็ย้ายมาประจำที่โรงพยาบาลเขมราฐ ก็อยู่มายาวไม่ได้ย้ายไปไหนเลยครับ ที่โรงพยาบาลเวลาเจอคนลาวที่ข้ามฝั่งมารักษาตัว เขาจนมากครับ จนแบบไม่มีอะไรเลย เวลาเขาหายเขาแบก เขาหอบหิ้วเอาของกินมาฝาก มันทำให้เราซาบซึ้งกับน้ำใจที่เขามอบให้พูดถึงแล้วน้ำตาไหลทุกครั้งครับ คนลาวมี 2 แบบห่างกันเลยนะ รวยมากก็ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลเอกชน คนจนมากแทบไม่มีเงินรักษาตัวในโรงพยาบาลรัฐครับ
คนเขมราฐเองก็ให้ความอบอุ่น ดูแลเราดีมาก พอใช้ทุน 3 ปีแรกหมดก็ไม่ไปเรียนเฉพาะทาง เพราะผม ตั้งใจที่จะอยู่ที่นี่เปิดคลินิกทำธุรกิจเล็กๆ เสริมที่จะทำให้ พออยู่ได้ พูดเลยว่าผมซาบซึ้งในความเป็นเขมราฐ แม่น้ำโขงที่เห็นทุกฤดูกาล หน้าฝนงามแบบหนึ่ง หน้าแล้งงามอีกแบบหนึ่ง มีอาหารการกินสมบูรณ์ แหล่งท่องเที่ยวมาก สำคัญที่สุดคนที่นี่รักและเอ็นดูเราครับ จนในที่สุดมันก็เกิดเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างหนัง ผมรู้สึกว่าที่นี่มีบุญคุณกับผม จึงอยากจะช่วยประชา- สัมพันธ์ให้เป็นแลนด์มาร์คในประเทศไทย ปัจจุบันนี้คนไม่ค่อยรู้จักเขมราฐอย่างท่องแท้ อย่างหมอไปราชการคนถามว่ามาจากไหน เขมราฐนี่ติดเขมรใช่มั้ย ความภูมิใจของคนเขมราฐก็น้อย หลายคนพอถูกถามว่าอยู่จังหวัดอุบลราชธานี เป็นคนอำเภออะไรไม่กล้าตอบว่าอยู่เขมราฐ ทั้งๆ ที่บ้านเกิดเมืองนอนของคุณสมบูรณ์มาก แรกเลยผมจึงจัดประกวดหนังสั้น ภายใต้ คอนเซ็ปต์ เขมราฐในใจฉัน เพื่อจุดประกายความคิดของเยาวชน จนวันหนึ่งสิ่งที่เราได้สัมผัสมันตกผลึกในความคิด จึงถ่ายทอดด้วยการเขียนหนังสือ เพื่อพาเขมราฐไปทั่ว ใช้ชื่อว่าในอ้อมกอดเขมราฐ เป็นนวนิยายเชิงชีวิตจริง วันหนึ่งมีความคิดว่า เมื่อเราทำนิยายแล้วก็อยากทำหนัง เลยตัดสินใจลุยเลยใช้ชื่อหนังเรื่องนี้ว่า “อ้อมกอดเขมราฐ” ครับ” นายแพทย์ ฤทธ ปกกฤตยหริบุญ ผู้กำกับ