รีวิวหนัง "Twisters ทวิสเตอร์ส" ไฉนเป็นทอร์นาโดรัก ที่พระนางออกล่าพายุเป็นการเดต

ถ้าย้อนกลับไปเมื่อเกือบ 30 ปีที่แล้ว มีหนังหายนะพายุหมุนที่ขึ้นแท่นเป็นหนังบ็อกซ์บัสเตอร์สุดคลาสสิกในตำนานของฮอลลีวูดได้ถือกำเนิดขึ้น หนังที่สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการหนังในยุคนี้ พร้อมกับงานสร้างที่ตื่นตาตื่นใจ แล้วบัดนี้มันก็กลับมาอีกครั้งกับเวอร์ชันใหม่และเป็นหนังเรื่องใหม่ ที่ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับต้นฉบับใน "Twisters" ที่เป็นการตีความใหม่ของตำนานนักล่าพายุ ที่มาพร้อมกับการพัฒนาด้านงานสร้างที่เข้ากับยุคสมัยได้เป็นอย่างดี  

สำหรับในหนังเวอร์ชันนี้จะเล่าเรื่องราวของ เคท หญิงสาวที่หลงใหลในสภาพอากาศ แต่เคยเผชิญหน้ากัพายุทอร์นาโดสุดอันตรายในเมื่อสมัยเรียนมหาวิทยาลัย ทำให้ตอนนี้เธอเป็นนักอุตุนิยมวิทยาที่เฝ้าศึกษารูปแบบสภาพอากาศแค่เพียงที่หน้าจอในนิวยอร์กซิตี้ เธอถูกเพื่อนของเธอ ฮาวี ได้ชักชวนให้กลับไปลงสนาม ทำการทดสอบระบบติดตามพายุสุดล้ำ ที่นั่นเธอได้บังเอิญพบกับไทเลอร์ โอเวนส์ ซูเปอร์สตาร์โซเชียลมีเดียผู้มีเสน่ห์และบ้าบิ่นที่ประสบความสำเร็จในการโพสต์การผญภัยไล่ล่าพายุไปพร้อมกับทีมของเขา ที่ยิ่งอันตรายมากเท่าไรก็ยิ่งดีสำหรับพวกเขา

โดยหนังฉบับล่าสุดนี้ได้ผู้กำกับดีกรีเข้าชิงรางวัลออสการ์ อย่าง "อี ไอแซก จอง" (จากหนัง Minari) มารับหน้าที่ดูแลงานสร้าง พร้อมกับได้ "โจเซฟ คอซินสกี" (จาก Top Gun: Maverick) กับ " มาร์ค แอล. สมิธ" (จาก The Revenant) มาช่วยกันประกอบร่างปั้นบทหนังเรื่องนี้ออกมาอย่างเต็มกำลัง โดยที่ยังอ้างอิงและหยิบแรงบันดาลใจมาจากตัวละครในหนังฉบับปี 1996 ที่ยังคงความคลาสสิกได้เป็นอย่างดี

Twisters ฉบับปี 2024 ถือว่ายังเป็นหนังที่มีคอนเซ็ปต์และสตอรีที่แข็งแรงดี เพียงแต่ว่าองค์ประกอบต่าง ๆ ค่อนข้างสำเร็จรูปไปหน่อย แต่ก็เป็นสูตรสำเร็จที่ยังหล่อเลี้ยงอรรถรสและความบันเทิงที่หนังควรจะพึงมีได้ตามมาตรฐาน นั่นก็ทำให้การเล่าเรื่องของหนังนี้ก็ชวนตื่นตาตื่นใจตามไปด้วย โดยเฉพาะแค่เรืองราวของการตามล่าพายุก็นับว่าเป็นพาร์ทที่ชวนหลงใหล และสามารถตรึงใจคนดูได้เป็นอย่างดี

ขณะที่งานสร้างใน Twisters ก็ทำออกมาได้ดี อี ไอแซก จอง ยังคงมีมุมมองการสะท้อนภาพความชนบทของอเมริกาได้ทรงเสน่ห์อีกเช่นเคย เหมือนกับที่เขาเคยถ่ายทอดออกมาได้น่าสนใจผลงานเรื่องที่แล้ว ถึงหนังจะเต็มไปด้วยแพ็คเกจความเป็นหนังสตูดิโอและหนังบ็อกซ์บัสเตอร์ทั่วไป แต่งานสร้างที่ยิ่งใหญ่ก็ช่วยบิวท์อารมณ์ให้กับคนดูได้เป็นอย่างดี

แน่นอนว่าไฮไลต์ก็คืองานสร้างพายุทอร์นาโด ที่เป็นเหมือนพระเอกหลักของเรื่องนี้ ต้องยอมรับว่าทำออกมาได้น่าประทับใจไม่น้อย ถึงแม้ว่าจะไม่ถึงกับเนียนกริบขนาดนั้น ยังมีข้อบกพร่องเล็ดลอดออกมาอยู่บ้าง แต่ก็นับว่าเป็นองค์ประกอบที่ทำออกมาได้ถึงใจถึงอารมณ์ด้วยดี และยิ่งเมื่อได้สัมผัสประสบการณ์กับบนจอใหญ่ ๆ ที่รองรับกับงานสร้างที่ตื่นตาเช่นนี้ โดยเฉพาะจอยักษ์ของโรงไอแมกซ์ ระบบภาพ-เสียงก็รองรับและกระตุ้นอารมณ์ให้กับคนดีได้อย่างชวนว้าว

และอีกหนึ่งสิ่่งที่ทำให้ Twisters เรื่องนี้ทรงเสน่ห์ยิ่งขึ้น ก็คือเคมีของทีมนักแสดงที่เจิดจรัสมาก "เดซี เอ็ดการ์-โจนส์" มาพร้อมกับการแสดงที่น่าประทับใจอีกครั้ง ทั้งท่วงท่าและเสน่ห์ของเธอ ช่วยผลักดันมนต์เสน่ห์ให้กับหนังเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี จากอินเนอร์การแสดงอันเป็นธรรมชาติของเธอโดยแท้ นี่กลายเป็นอิกหนึ่งชิ้นงานที่พิสูจน์ให้เห็นว่าดาราสาวดาวรุ่งมีของ และมีศักยภาพในหนังระดับบ็อกซ์บัสเตอร์ได้เช่นกัน

ที่ขาดไม่ได้เลยคือ "เกลน พาวเวลล์" ที่เล่นไม่ธรรมดาอีกแล้ว เขาคือตัวพ่อเคมีสาธารณะในฮอลลีวูดยุคนี้จริง ๆ เพราะไม่ว่าจะโคจรไปจับคู่กับใครก็เป็นเรื่องไปหมด เช่นเดียวกัน เกลนกลายเป็นนักแสดงที่สามารถขับเสน่ห์ออกมาได้อย่างเปี่ยมล้น และทำให้หนังเรื่องนี้เต็มไปด้วยรสชาติที่เหมาะเจาะ โดยเฉพาะหนังเรื่องนี้ที่เขาดันขับความโรแมนซ์ออกมา ที่นับว่าเป็นอีกหนึ่งความฟุ้งเฉพาะตัวของเขา ที่มักจะเผลอพุ่งพล่านออกมาแบบไม่รู้ตัว แต่มันจัดได้ว่าเป็นเคมีที่ดี

นอกจากนี้ยังมีนักแสดงดาวรุ่งคนอื่น ๆ มาสมทบอีกเพียบ ไม่ว่าจะเป็น "แอนโทนี รามอส" ที่เป็นอีกบทที่ค่อนข้างแตกต่างจากบทบาทเดิม ๆ ของเขาไปเหมือนกัน รวมทั้ง "เดวิด คอเรนสเว็ต", "แบรนดอน พีเรีย" หรือ "ซาชา เลน" ที่นับว่าเป็นตัวละครเสริมที่เข้ามาเติมเต็มหนังได้เป็นอย่างดี ถึงแม้ว่าแอร์ไทม์ของพวกเขาจะไม่ได้มีอะไรเยอะแยะมากมาย แต่หนังก็ขับเสน่ห์และทำให้คนดูรู้สึกตัวละครเหล่านี้ได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน

ดังนั้นคงจะต้องบอกเลยว่า Twisters ฉบับปี 2024 เป็นการกลับมาเดินตามรอยของหนังหายนะพายุหมุนของฮอลลีวูดได้แจ่มจรัสอีกครั้ง หลังจากที่หมุนหายไปจากวงการไปได้สักสิบปีแล้ว และการกลับมาครั้งนี้ก็ใส่เครื่องและรสชาติมาได้แบบเกินความคาดหมาย แทนที่จะเป็นหนังแอคชันล่าพายุแบบระทึก ๆ มีของแถมเป็นฟีลแบบหนังรักเพราะเคมีที่คู่กันดีของนักแสดง นี่อาจจะยังไม่ใช่หนังที่สมบูรณ์แบบในทุก ๆ ด้าน แต่แง่ความบันเทิงก็สามารถตอบโจทย์คนดูได้ในระดับที่ดีเชียว