Short Comment: First Love รักแรก (2022): เมื่อได้ยินเพลง First Love คุณคิดถึงใคร ตราตรึง ดีต่อใจ กับว่าที่ซีรีส์ญี่ปุ่นแห่งปีเพราะทุกนาทีที่ผ่านไปในชีวิตจะมีสิ่งที่ไม่อาจเลี่ยงได้ที่จะติดตรึงไว้กับชีวิตมนุษย์คือความทรงจำ ยิ่งวันเวลาในชีวิตได้ผ่านไปมากเท่าไหร่ความทรงจำไม่ว่าดีหรือร้ายก็จะทับถมเพิ่มพูน น่าเศร้าที่มนุษย์ไม่อาจเลี่ยงหรือปฏิเสธความทรงจำได้แม้บางอย่างอาจเป็นเรื่องไม่น่าอภิรมย์อาจเพราะธรรมชาติมนุษย์มักจดจำเรื่องร้ายมากกว่าเรื่องดีและนั่นอาจเป็นเพราะความเจ็บปวดยากจะรักษา ทว่าในร้ายอาจมีดีหรือในดีอาจมีร้ายเพราะมีบางอย่างที่จะเกิดขึ้นได้เพียงครั้งเดียวในชีวิตและมักจะเกิดขึ้นเมื่อมนุษย์ยังอ่อนด้อยด้านวุฒิภาวะนั่นคือ "รักแรก" เพราะรักครั้งแรกอาจไม่ใช่ครั้งเดียวหรืออาจไม่ใช่ครั้งสุดท้ายแต่รักแรกจะตราไว้ในดวงจิตของมนุษย์ทุกคนแม้วันเดือนผ่านไปภาพอาจดูลางเลือนเพราะเส้นทางชีวิต แต่เมื่อมีอะไรมาสะกิดให้คิดถึงไม่ว่าจะเป็นเพลงที่เคยฟังหนังที่เคยดูและจะยิ่งชัดเมื่อภาพจำนั้นมีประสบการณ์ที่ดีร่วมกันจึงเป็นที่มาของหนังหรือซีรีส์ที่จะพาคนดูย้อนกลับไปหาความทรงจำเหล่านั้นด้วยอะไรก็ตามที่จะหยิบจับมากระตุ้นเช่นเดียวกับเรื่องนี้ที่ทำให้ภาพความทรงจำมากมายของดูไปบ่นไปชัดขึ้นแทบตลอดเวลายาเอะ โนกูจิ (ฮิคาริ มิตสึชิมะ) คือสาวใหญ่ที่มีอาชีพขับแท็กซี่ส่วนฮารุมิจิ นามิกิ (ทาเครุ ซาโตะ) คือเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย คนทั้งสองมีความทรงจำร่วมกันเพราะเมื่อครั้งเป็นนักเรียนมัธยมปลายยาเอะ (ริกาโกะ ยากิ) พลันได้ต้องใจฮารุมิจิ (ไทเซอิ คิโดะ) และฮารุมิจิก็เป็นเช่นเดียวกันและนี่คือ "รักแรก" ของทั้งสอง ทว่าเมื่อในปัจจุบันยาเอะหย่าร้างและมีลูกชายหนึ่งคนส่วนฮารุมิจิก็มีแฟนและกำลังจะแต่งงานกับซึเนมิ (คาโฮ) แต่เมื่อรักแรกจะมีได้เพียงครั้งดียวในชีวิตเมื่อฮารุมิจิได้เห็นยาเอะในวันหนึ่งเขาก็จำได้และพยายามตามหาเธอ กระทั่งเมื่อได้เจอเธอผ่านซุซูรุ (โทวะ อารากิ) ลูกชายของยาเอะก็คือน่าจะสมปรารถนาแต่ยาเอะกลับจำเขาไม่ได้แล้วเหตุใดภาพความทรงจำจึงกระจ่างอยู่ข้างเดียวแล้วที่ผ่านมาเหตุใดทั้งคู่จึงพรากจากกันทั้งที่รักกันมากขนาดนั้น แล้วเรื่องในอดีตก็ฉายออกมาว่าบางครั้งชีวิตก็อาจไม่เป็นดังหวังสิ่งที่คิดอาจไม่เป็นอย่างที่คิดและฮารุมิจิจึงทำได้แค่สานสัมพันธ์แบบมีระยะห่าง แล้วเมื่อไหร่ความทรงจำของคนสองคนจะมาบรรจบกันเพราะแม้ภาพจะไม่ชัดแต่ความทรงจำของร่างกายยังคงอยู่ในตัวยาเอะเล่าเรื่องปัจจุบันสลับกับอดีตได้สมดุลสวยงามลงตัวเหลือประมาณ ความจริงถ้าจะให้แจกแจงเรื่องนี้สามารถเล่าออกมาได้เป็นสองเรื่องคือเรื่องในส่วนของอดีตและปัจจุบันแต่ผสานกันได้ลงตัวเพราะคนดูจะลุ้นและสงสัยรวมถึงเอาใจช่วย เพราะบทของผู้กำกับและเขียนบทยูริ คันชิกุที่เอาเพลง First Love มาเป็นสารตั้งค้นของแรงบันดาลใจได้ทำการเล่าด้วยอารมณ์ลุ้นและเอาใจช่วยว่ายาเอะและฮารุมิจิจะเจอกันเมื่อไหร่ จนเมื่อเจอกันแล้วก็ยังไม่ให้ได้ดังใจจึงเพิ่มความสงสัยมาเพื่อใส่อรรถาธิบายด้วยการเล่าถึงจุดเริ่มต้นของความรัก ยังไม่พอยังใส่ระยะทางของชีวิตคนสองคนที่ต่างคนต่างมีทางของตนเองที่ก็ยังมาด้วยความสงสัยว่ากว่าจะมาถึงภาพที่เห็นตรงหน้าของสถานะของคนสองคนทั้งคู่ได้ผ่านอะไรมาบ้างมาเป็นตัวเชื่อโยงเรื่อราว ซึ่งการสลับไปมาของสามเรื่องที่ว่าที่น่าจะดูชวนงงและชวนสับสนหากแต่การลำดับภาพงานด้านภาพและชั้นเชิงการเล่าเรื่องกลับเชื่อมโยงร้อยเรียงกันได้โดยสมบูรณ์มีรายละเอียดจนทำให้เรื่องออกมานุ่มนวลมีที่มาที่ไปเล่าได้ลงตัวโดยไม่ทิ้งน้ำหนักไปทางหนึ่งทางใดไม่ว่าจะอดีตหรือปัจจุบัน อุ่นชื้นขอบตาในทุกตอนเพราะอดีตจะตามมาทันทุกเรื่องราว ด้วยเจตนาชัดเรื่องอารมณ์ถวิลหาอดีตแต่มาจากความรู้สึกเมื่อถูกสะกิดหาใช่จากสิ่งที่ตาเห็น เพราะโดยปกติอารมณ์ถวิลหาจะมาพร้อมกับภาพสถานที่ของใช้และเหตุการณ์ที่เป็นหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ซึ่งเรื่องนี้ก็มี แต่ด้วยอารมณ์ที่จุดเริ่มมาจากคำว่า First Love หรือ "รักแรก" เป้าหมายจึงอยู่ที่อารมณ์ถวิลหาความรักมากกว่าจะถวิลหาความทรงจำเรื่องอื่น ดังนั้นอารมณ์คนดูจะไม่แค่คิดถึงว่าในช่วงเวลาเหล่านั้นเรากำลังทำอะไรแต่จะจี้ในความรู้สึกลงไปว่าเรากำลังรักอยู่กับใคร เหตุที่นี่คืองานโรแมนติกดราม่าจึงต้องมาทางนี้เพราะเมื่อเวลาที่มนุษย์มีรักโลกจะสวยงามและเรื่องนี้ชี้ชัดลงไปกับเพลงที่เคยฟังหรือหนังที่เคยดู แล้วคนดูจะไม่มีทางปฏิเสธได้ว่าเมื่อครั้งมีรักจะมีเพลงโปรดที่ฟังแล้วสะกิดใจหรือมีหนังเรื่องโปรดที่ดูแล้วอิน และจะยิ่งถวิลหาเมื่อความรักที่ผุดขึ้นมานั้นเป็น "รักแรก" ที่ไม่มีวันลืมกับเพลงรักในดวงใจที่ต่อให้กลับมาฟังหลังจากนั้นอีกกี่ปีภาพความรักก็จะชัดเจนในความทรงจำและในที่นี้คือเพลง First Love เพราะแม้แต่ในความเป็นจริงเมื่อเพลงนั้นๆขึ้นมาให้ได้ยินก็จะอุ่นชื่นที่ตาเพราะความคิดถึงและกับเรื่องนี้ทำให้เป็นเช่นนั้นมีความเป็นผู้ใหญ่แม้จะเล่าเรื่องรักแรกทำให้เป็นโรแมนติกดราม่าที่ออกมาไม่กลวง นอกเหนือจากการรื้อความทรงจำเรื่องความรักในสมองออกมาสู่หัวใจแล้วที่ผู้เขียนชอบมากคือการเป็นงานที่ไม่กลวง เพราะนอกจากเรื่องความรักของหนุ่มสาวแล้วยังมีมิติทางครอบครัวมิตรภาพแง่มุมในการเลี้ยงดูลูกทั้งสองรุ่นรวมถึงทัศนคติในการมองโลกและความฝัน ที่มาพร้อมกับรักแรกของคนสองรุ่นหรืออาจจะรวมถึงเรื่องของชนชั้นทางสังคมที่บีบรัดที่ส่งผลต่อชีวิตคู่ที่มีตัวเปรียบเทียบ นั่นคือทุกมิติที่ว่ามาคือตัวอย่างของการเปรียบเปรยการใช้ชีวิตและการคงอยู่ในสังคมตั้งแต่อดีตเรื่อยมาจนปัจจุบัน ทำให้เรื่องความรักที่เป็นจุดขายมีอะไรมาเป็นปัจจัยมากมายจนเห็นภาวะเป็นจริงเพราะถึงที่สุดก็ไม่มีใครผิดไม่มีใครถูก ด้วยเรื่องราวจุกจิกละเอียดแต่มีผลกับการตัดสินใจที่เป็นปัจจัยพื้นฐานของการใช้ชีวิตที่แบ่งออกเป็นตอนๆและมีเป้าหมายชัดตามชื่อตอน ทำให้ในความโรแมนติกที่มีมาให้มีความเป็นผู้ใหญ่เพราะความรักมีเรื่องราวในระหว่างทางที่ผ่าน และความรักไม่ใช่แค่เรื่องของคนสองคนซึ่งโดยส่วนตัวแล้วผู้เขียนมีตอนที่ประทับใจกับตอน "ภาษามือสื่อหัวใจ" การแสดงที่ยอดเยี่ยมในแบบญี่ปุ่นทำให้ทั้งรุ่นเล็กรุ่นใหญ่ขโมยหัวใจคนดูไปจนสิ้น เมื่อตัวละครมีอะไรอยู่ข้างในแล้วไม่เอ่ยออกมาเสียทีให้ต้องลุ้นหรือมีอะไรที่คิดได้แต่ทำไม่ได้ทำให้ต้องเก็บงำความรู้สึกทางสีหน้าแต่แววตาต้องการแบบนี้ มันคือการสื่อสารจากข้างในออกมาในส่วนของนักแสดงรุ่นใหญ่ที่มีความเป็นผู้ใหญ่มีวุฒิภาวะในการเก็บความรู้สึก จึงต้องสดุดีนักแสดงทั้งสองคนคือฮิคาริ มิตสึชิมะกับทาเครุ ซาโตะที่ทำให้คนดูเชื่อในสีหน้าอย่างหนึ่งแววตาอย่างหนึ่งและภาษากายอีกอย่างหนึ่งที่เหมือนขัดแย้งแต่คนดูจะรู้ถึงความรู้สึก โดยเฉพาะคนแรกเยี่ยมเหลือคณาจะเป็นป้าก็ได้จะสวยก็ได้แล้วแต่ช่วงเวลาการใช้ชีวิตรวมถึงการแสดงให้รู้ว่าแม้ในสมองไม่มีความทรงจำแต่ร่างกายยังจดจำบางอย่างได้อยู่ ส่วนคู่รุ่นเล็กคือไม่ต้องซ่อนอะไรจึงเห็นความคลั่งรักออกมาตามประสารักแรกและความเป็นวัยรุ่นแต่ที่ยอดเยี่ยมคือริกาโกะ ยากิกับไทเซอิ คิโดะสามารถเชื่อมโยงตัวละครสองรุ่นให้เป็นคนคนเดียวกันเป็นความรักเดียวกันเป็นความสุขเดียวกันและเป็นความเจ็บปวดเดียวกันได้อย่างคู่ควรกับการเป็นตัวละครที่คนดูจะยิ้มหรือเสียน้ำตาให้ถ้าไม่ดูถือว่าพลาดเพราะเนื้อหายอดเพลงเยี่ยมและภาพสวยแม้ระหว่างทางจะหน่วงแต่สุดท้ายดีต่อใจ เอาจริงคือเรื่องนี้ดูไปจะเห็นความหวังในความหน่วงอยู่เสมอว่าจะต้องลงเอยกันได้แม้ระหว่างทางจะไม่เห็นทางหรือเดายากว่าจะมีทางออกทางไหนในส่วนของเรื่องปัจจุบัน แล้วมีความสุขและรอยยิ้มผสมความเจ็บปวดเสียใจรู้สึกผิดข้างในในส่วนของจุดเริ่มของความรักที่ทำให้คิดถึงความรักเมื่อวันวาน กระนั้นยังมีมิติที่หลากหลายให้ได้จับต้องทำให้เรื่องออกมามีหลากหลายอารมณ์ใช่ว่าจะมีแค่ความโรแมนติกหรือดราม่าของการพลัดพราก เพราะระหว่างทางเดินชีวิตยังมีอะไรให้จับต้องและที่น่าจะได้ใจคือเรื่องสามารถจบแบบไม่สมหวังก็ได้และน่าจะดีไปอีกแบบเพราะแต่ละคนก็มีทางชีวิตที่ต่างไปแต่เมื่อมันคือเรื่องของพรหมลิขิตบทสรุปที่มีมาก็ลงตัวและดีต่อใจ สุดท้ายทุกอย่างก็อยู่ในทางที่เหมาะสมไม่ทำร้ายจิตใจดีไปอีกแบบที่มาพร้อมกับเพลงที่ส่งอารมณ์ไม่เฉพาะแค่เพลง First Love พร้อมกับงานด้านภาพที่สวยและโทนสีที่อาจไม่ชัดแต่สังเกตได้ว่ากำลังเล่าเรื่องในส่วนไหนทำให้นี่คืองานที่น่าจะเป็นซีรีส์ญี่ปุ่นแห่งปีได้ไม่ยากดูไปบ่นไปขอบคุณภาพประกอบภาพปก / ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2,3 / ภาพที่ 4,5,6,7,8 จาก Instagram netflixjp ถ้าคุณชอบเรื่องนี้ คุณจะชอบเรื่องเหล่านี้ในความทรงจำ My Sassy Girl : ยัยตัวร้าย กับนายเจี๋ยมเจี้ยม (2001) ขำขัน หักมุม ซาบซึ้ง ตราตรึง กับหนึ่งในงานรอมคอมที่ดีที่สุดตลอดกาลรีวิวจัดเต็ม Twenty Five Twenty One : ยี่สิบห้า ยี่สิบเอ็ด (2022) "ความรัก ความฝัน แรงบันดาลใจ ยุคสมัย และความจริงของชีวิต"รีวิวจัดเต็ม Tune in for Love : คลื่นรักสื่อใจ (2019) "หวานละมุนอบอุ่น หากแม้ดูเรียบเรื่อยแต่เสน่ห์ของนักแสดงก็ยกระดับให้ดูดีขึ้นได้แบบไม่ธรรมดา"ในความทรงจำ Café Funiculi Funicula เพียงชั่วเวลากาแฟยังอุ่น (2018) "ละเมียดละไม งดงาม ซาบซึ้ง ตราตรึง ซับซ้อนแต่เข้าใจง่ายจนน้ำตาไหลไม่รู้ตัว"ความเห็นหลังชม 20th Century Girl : 20 เซนจูรี่ รักนี้ซาบซ่า (2022) "การพาตัวเองย้อนอดีตสู่ยุคสมัยโดยสมบูรณ์ทั้งตัวและวิญญาณจนแสนประทับใจ"เกาะติดซีรีส์เรื่องใหม่ ๆ ได้ที่ App TrueID โหลดฟรี !