รีเซต

เดฟ บอติสตา ชอบ "Glass Onion" ถึงขั้นยกเข็มขัด WWE ให้ผู้กำกับหนังไป

เดฟ บอติสตา ชอบ "Glass Onion" ถึงขั้นยกเข็มขัด WWE ให้ผู้กำกับหนังไป
แบไต๋
31 ธันวาคม 2565 ( 12:30 )
214

อีกสีสันของ ‘Glass Onion: A Knives Out Mystery‘ หนังแนวรหัสคดีฆาตกรรมเรื่องล่าสุดของ Netflix ภาคต่อหนังสุดฮิต ‘Knives Out’ (2019) คือบรรดานักแสดงชุดใหม่ที่ต้องมาเผชิญกับคดีฆาตกรรมลึกลับซับซ้อนหัวจะปวด

โดยเฉพาะหนึ่งในนักแสดงที่มีบทบาทและมีความสำคัญต่อคดีฆาตกรรมกลางลานบาร์ ‘Glass Onion’ ก็คือนักแสดงอดีตนักกีฬามวยปล้ำ WWE วัย 53 ปีอย่าง เดฟ บอติสตา (Dave Bautista) เจ้าของบทบาท ดูค โคดี (Duke Cody) ยูทูบเบอร์กล้ามล่ำที่คลั่งความเป็นชายแท้แ แต่กลับเป็นลูกแหง่สุดน้อนกับแม่ตัวเอง ที่สร้างสีสันให้กับหนังได้อย่างโดดเด่นน่าจดจำ

เพื่อเป็นเกียรติในการฉายรอบปฐมทัศน์ของหนังเรื่องนี้ เนื่องจากเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน Netflix ได้นำเอาหนังเรื่องนี้ไปเข้าฉายในโรงภาพยนตร์แบบจำกัดโรงฉาย 696 โรงในสหรัฐอเมริกา และเข้าฉายเพียง 1 สัปดาห์เท่านั้น

รวมทั้งยังเป็นการแสดงความชื่นชอบต่อตัวหนัง และแสดงความขอบคุณบรรดาทีมงานและผู้กำกับอย่าง ไรอัน จอห์นสัน (Rian Johnson) ในฐานะนักแสดงผู้มีโอกาสร่วมงาน เบาติสตาได้โพสต์วิดีโอสั้นผ่านทาง Twitter และ Instragram พร้อมกับแคปชันขอบคุณทีมงานที่มีส่วนร่วมกับหนังเรื่องนี้

โดยในคลิปปรากฏภาพของเบาติสตา ที่มาพร้อมกับเข็มขัดแชมป์มวยปล้ำ WWE World Heavyweight Championship เดินเข้ามายังกองถ่าย ก่อนที่เขาจะเดินเข้าไปมอบเข็มชัดแชมป์เส้นนี้ให้กับจอห์นสัน ทั้งคู่ได้สวมกอดกัน ก่อนที่เขาจะกล่าวกับทีมงานทุกคนว่า :-

“ผมไม่ชอบพูดสุนทรพจน์นะ มันเป็นส่วนที่ผมชอบน้อยสุดในหนังแล้วล่ะ เพราะผมไม่ชอบให้ใครต้องมานั่งปรบมือให้อะไรแบบนี้ เพราะทุกคนในห้องนี้ทำงานโคตรหนักกับหนังเรื่องนี้ยิ่งกว่าผม ตอนนี้ผมรู้สึกเหมือนคนหลอกลวงที่ยืนอยู่ตรงนี้ แล้วพูดเหมือนผมกำลังทำบางอย่างที่พิเศษ ขอบคุณทุกคนมากครับ”

ผลงานอันโดดเด่นของเขาในหนังเรื่องนี้คงต้องยกเครดิตให้กับผู้กำกับอย่างจอห์นสันที่ได้เลือกเขา ทั้งที่ภาพแรก ๆ ตอนที่เขาจินตนาการถึงบท ดูค โคดี นั้น เขาแทบจะไม่มีภาพของอดีตนักมวยปล้ำคนนี้เลยด้วยซ้ำ แต่เขาก็เลือกเบาติสตามาร่วมแสดงบทนี้ในท้ายที่สุด โดยจอห์นสันได้เปิดเผยในบทสัมภาษณ์กับเว็บไซต์ The Atlantic ว่า “ตอนที่ผมออกแบบตัวละครของเขา ตอนแรกผมนึกถึงภาพผู้ชายรูปร่างผอมบางที่ดูมีความทะเยอทะยานมาก ๆ น่ะครับ แต่พอผมนึกถึงเบาติสตา ผมเลยเปลี่ยนใจทันที เพราะผมเป็นแฟนตัวยงในด้านการแสดงของเขา”

และผลที่ได้ก็เรียกได้ว่าไม่ผิดหวัง เพราะเบาติสตาก็เป็นนักแสดงอีกคนหนึ่งที่ทำให้จอห์นสันรู้สึกเซอร์ไพรส์ และน่าจะเป็นเพราะนิสัยส่วนตัวของเบาติสตาที่จริง ๆ แล้วเป็นมิตรมาก จนถึงขั้นกล่าวยกให้เขานั้นเป็นนักมวยปล้ำที่ผันตัวมาเป็นนักแสดงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลของฮอลลีวูด ถึงระดับที่ว่าเขาน่าจะคู่ควรกับหนังสายรางวัลสุดเข้มของผู้กำกับมือทอง พอล โธมัส แอนเดอร์สัน (Paul Thomas Anderson)

“ผมเชื่อแบบร้อยเปอร์เซนต์เลย ผมคิดว่าสักวัน คนอย่าง พอล โธมัส แอนเดอร์สัน น่าจะพาเขาไปแสดงหนังสักเรื่องแน่ ๆ ในความคิดผม ผมรู้สึกว่าเบาติสตาเป็นคนที่ ถ้าคุณรู้จักเขาจริง ๆ คุณจะรู้ว่าเขาเป็นคนอ่อนไหวมากนะ และนั่นเป็นสิ่งที่ผมหลงไหลในตัวเขา เขาเป็นคนตัวใหญ่ที่เปี่ยมไปด้วยอารมณ์อันอ่อนไหวในทุกบทบาท”

เบาติสตาเริ่มก้าวเข้าสู่อาชีพนักแสดงในปี 2006 ด้วยการเป็นนักแสดงรับเชิญในทีวีซีรีส์ซูเปอร์ฮีโร ‘Smallville’ (2006) ซีซันที่ 6 และร่วมแสดงในผลงานต่าง ๆ ในขณะที่ยังคงประกอบอาชีพนักกีฬามวยปล้ำไปด้วย บทที่สร้างชื่อให้กับเขาในฐานะนักแสดงคงหนีไม่พ้นบท แดร็กซ์ เดอะ เดสทรอยเยอร์ (Drax The Destoryer) ในหนังซูเปอร์ฮีโร ‘Guardians of the Galaxy’ (2014) ของ Marvel Studios และรับบทวายร้าย มิสเตอร์ฮิงซ์ (Mr. Hinx) ในหนังสายลับเจมส์ บอนด์ ภาค ‘Spectre’ (2015) ก่อนจะปิดฉากอาชีพนักมวยปล้ำ WWE อย่างถาวรหลังแพ้ให้กับ ทริปเปิล เอช (Triple H) ในศึก WrestleMania 35 เมื่อปี 2019 ก่อนจะหันไปเอาดีทางด้านการเป็นนักแสดง และหันไปเล่นกีฬาศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน หรือ MMA ในเวลาต่อมา

โดยเฉพาะในปี 2023 ที่จะถึงนี้ ถือเป็นอีกปีสำคัญของเบาติสตาด้วยเช่นกัน เพราะเขาเตรียมรับบทในหนังระดับบล็อกบัสเตอร์มากถึง 3 เรื่องในปีเดียวกัน ทั้งการรับบท Drax The Destoryer ใน ‘Guardians of the Galaxy Vol. 3’ รับบทใน ‘Knock at the Cabin’ หนังเขย่าขวัญจิตวิทยาเรื่องใหม่ของผู้กำกับสายเขย่าขวัญ เอ็ม ไนท์ ชยามาลาน (M. Night Shyamalan) และภาคต่อหนังไซไฟมหากาพย์ ‘Dune: Part Two’ โดยผู้กำกับ เดอนี วีลเนิฟ (Denis Villeneuve)


ที่มา: The Atlantic, Screen Rant, Comicbook, CBR