สวัสดีค่ะคุณผู้อ่านทุกท่าน หลังจากที่กักตัวอยู่บ้านมาได้ระยะหนึ่งแล้ว ผู้เขียนก็ได้มีโอกาสดูซีรี่ย์จีนที่อยากติดตามมานานมากแล้วจบซักที ซึ่งเรื่องนี้ก็คือ ฝันคืนสู่ต้าชิง Dreaming Back to the Qing Dynasty หรือชื่อภาษาจีนก็คือ 梦回 Mèng huí เป็นไงละคะ เริ่มคุ้นหูกันรึยังเอ่ย? ด้วยความที่ผู้เขียนชอบดูซีรี่ย์ย้อนยุคอิงประวัติศาสตร์อยู่แล้วเป็นทุนเดิม แค่ได้ยินชื่อซีรี่ย์เรื่องนี้ก็ทำให้รู้สึกหลงใหล และอยากติดตามเอามาก ๆ เลยค่ะ แต่พอได้เข้ามาดูในรายละเอียดก็ยิ่งทำให้ผู้เขียนติดงอมแงมไปยิ่งกว่าเดิม เพราะซีรี่ย์เรื่องนี้นอกจากจะการันตีคุณภาพด้วยทีมงานที่เคยสร้างซีรี่ย์ในแบบเดียวกันที่โด่งดังมาก ๆ อย่างเรื่อง 步步惊心 Bù bù jīng xīn ปู้ปู้จิงซิน หรือในชื่อภาษาไทยก็คือ ฝ่ามิติลิขิตสวรรค์ ที่เคยออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 มาแล้ว แถมยังได้ทีมนักแสดงวัยรุ่นที่กำลังโด่งดังและได้รับความสนใจอย่างมากในยุคนี้ มารับบท “เสี่ยวเวย” นางเอกของเรื่องอย่าง 李兰迪 Lǐlándí หลี่หลานตี๋ นักแสดงสาวยอดฝีมือที่เข้าวงการบันเทิงมาตั้งแต่เด็ก ๆ แม้เธอจะอายุเพียงแค่ 21 ปี แต่ฝีมือการแสดงของเธอนั้นเยี่ยมยอดมาก อีกทั้งยังได้พระเอกหน้าใหม่อย่าง 王安宇 Wáng'ānyǔ หวางอันอวี่ มารับบทเป็น “องค์ชายสิบสาม” พระเอกของเรื่อง ซึ่งเล่นเอาฟินจิกหมอนขาดกันไปเลย แม้ว่าจะเป็นพระเอกใหม่แต่เสน่ห์ของความเป็นองค์ชายสิบสามไม่แพ้ใครเลยจริง ๆ โดยเฉพาะเวลาเข้าคู่กันกับนางเอกคือเคมีเข้ากันมาก ยิ่งดูยิ่งสัมผัสได้ถึงความรักและความหวังดีที่คู่พระนางมีให้ต่อกัน ภาพประกอบที่ 1 ภาพประกอบที่ 2 มาเข้าสู่เนื้อเรื่องโดยย่อของซีรี่ย์เรื่องนี้กันค่ะ ในความคิดของผู้เขียนคิดว่า เสน่ห์ของซีรี่ย์จีนย้อนยุคอิงประวัติศาสตร์ นั้นน่าสนใจตรงที่ภูมิหลังของเรื่องเป็นเหตุการณ์จริงที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในประวัติศาสตร์ มีบุคคลในประวัติศาสตร์ที่มีตัวตนอยู่จริง และตัวละครที่ถูกแต่งขึ้นมา ซึ่งอยู่ที่ว่าผู้แต่งจะหยิบยกมุมใดของประวัติศาสตร์มาแต่งแต้มเรื่องราวให้เกิดความสนุกสนานเพลิดเพลินแก่ผู้ชม ในส่วนของเรื่องนี้ จะเป็นภูมิหลังทางประวัติศาสตร์ในยุคราชวงศ์ชิง หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ ราชวงศ์แมนจู มีชุดเครื่องแต่งกายที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์ทั้งชายและหญิง ในเรื่องจะเล่าเรื่องราวของหญิงสาวที่ชื่อ “เสี่ยวเวย” สถาปนิกสาวในยุคศตวรรษที่ 21 ที่ได้พบกับ “องค์ชายสิบสามแห่งราชวงศ์ต้าชิง” ที่หลับแล้วฝันหลงทะลุมิติมายังปัจจุบัน จนทำให้ทั้งสองเกิดความรู้สึกที่ดีต่อกัน แต่นางเอกก็คิดว่าตนเองนั้นคงจะเพ้อฝันไปหลงรักคนที่ไม่มีตัวตนอยู่ในชีวิตจริง จึงอยากที่จะไปตามหาองค์ชายสิบสามโดยการไปขอพรตอนดาวตกเพื่อให้ตัวเองทะลุมิติกลับไปยังสมัยต้าชิง และเมื่อได้ทะลุมิติไปแล้วนางเอกก็ได้กลับไปใช้ชีวิตในตัวตนของ “หมิงเวย” ลูกสาวแม่ทัพที่กำลังจะเข้าวัง จึงเกิดเป็นเรื่องราวต่าง ๆ มากมายขึ้น และในระหว่างที่เหล่าองค์ชายต่างก็พากันแย่งชิงอำนาจกันนั้น การปรากฏตัวของเสี่ยวเวย จะสามารถเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ได้หรือไม่ ภาพประกอบที่ 3 สำหรับผู้เขียน...จุดที่น่าสนใจของซีรีย์เรื่องนี้ ก็คือ การดำเนินเรื่องค่ะ โดยในตอนเริ่มเรื่องที่พระเอกฝันแล้วมาโผล่ในยุคปัจจุบัน ได้เจอนางเอกในเวอร์ชั่นที่เป็นสาวยุคใหม่ เธอไม่มีกลิ่นไอของความงดงามแบบสาวโบราณในยุคราชวงศ์ชิงที่เขาจากมาเลยแม้แต่น้อย แต่กลับทำให้พระเอกประทับใจจนตกหลุมรักในตัวของนางเอกได้อย่างไม่น่าเชื่อ ผู้เขียนว่ามันน่ารักมาก ๆ ตรงนี้แหล่ะค่ะ... และในส่วนของความไร้เดียงสาของพระเอกที่หลงยุคมาในช่วงแรก ก็คงเล่นเอาสาว ๆ หลายคนใจละลายกันไปไม่น้อย ซึ่งผู้เขียนเองก็เป็นหนึ่งในนั้นค่ะ และเมื่อเรื่องดำเนินไปเรื่อย ๆ จนถึงช่วงที่นางเอกทะลุมิติไปยังอดีตเราก็ยังคงได้เห็นความเป็นสาวสมัยใหม่ผ่านความคิดและบุคลิกของนางเอกในตัวหมิงเวย ที่โดดเด่นออกมาจากเพื่อน ๆ ของนางที่อยู่ในยุคเดียวกัน ซึ่งผู้เขียนว่าตรงนี้ก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่เป็นเสน่ห์ของซีรี่ย์แนวย้อนยุคทะลุมิติค่ะ ที่ทำให้เราได้เห็นถึงพัฒนาการทางความคิด การมองโลก ของคนในแต่ละยุคสมัย เพื่อให้เรานำข้อดีของผู้หญิงแต่ละสมัยมาปรับใช้กับตัวเราเองได้ค่ะ ยกตัวอย่างเช่น ถึงแม้นางเอกในเรื่องจะมีความมั่นใจ และเฉลียวฉลาด ตามสไตล์สาวยุคใหม่ แต่ถ้ามองในความงดงาม อ่อนช้อย และมารยาททางสังคมก็อาจจะยังด้อยกว่าสาวในยุคอดีตอยู่บ้างค่ะ และหากผู้อ่านได้ติดตามไปจนจบจะได้เห็นถึงพัฒนาการของตัวละครแต่ละตัวที่เติบโตตามเวลา ซึ่งมันสมเหตุสมผลเอามาก ๆ กับเหตุการณ์หรือสิ่งที่ตัวละครเหล่านั้นประสบพบเจอมา เราจึงเข้าใจในการตัดสินใจและพฤติกรรมของตัวละครได้ดี ซึ่งมันมีความเป็นมนุษย์เอามาก ๆ และทุกตัวละครก็มีความหลากหลายในตัวเองสุด ๆ ไปเลยค่ะ... หากจะพูดถึงฉากที่ประทับใจก็คงต้องเป็นตอนจบของเรื่องเลยค่ะ เรียกได้ว่า เป็นอีกฉากที่เรียกน้ำตาจากผู้เขียนได้สำเร็จ จริง ๆ แล้วอาจจะเพราะว่าผู้เขียนเองอินกับซีรี่ย์แนวนี้มากกว่าแนวอื่น ๆ อยู่แล้วด้วยมั้งคะ เอาจริง ๆ ก่อนจบก็เป็นอะไรที่ค่อนข้างสะเทือนใจอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว แต่ที่ทำให้ประทับใจมาก ๆ เลยก็คือ หลังจากที่นางเอกทะลุมิติกลับมายังยุคปัจจุบันก็ยังตามไปค้นประวัติขององค์ชายสิบสาม และตามไปยังสถานที่ที่พระเอกอาศัยอยู่ก่อนที่จะเสียชีวิต นางเอกพยายามไปตามหาจดหมายที่พระเอกได้เขียนเอาไว้ก่อนหน้านี้มาร้อยกว่าปี ดูนางเอกอ่านจดหมายไปเล่นเอาน้ำตาไหลนองมาเป็นสายเลยค่ะ แต่ที่พีคกว่านั้นอีกก็คือ...ในตอนที่นางเอกขับรถกลับบ้าน ก็ได้บังเอิญเจอผู้ชายคนหนึ่งที่มาขออาศัยรถกลับด้วย ให้เดากันค่ะ...ว่าเค้าคนนั้นจะเป็นใครกันนะ แต่ที่แน่ ๆ การได้เจอเขาทำเอาหัวใจนางเอกของเราพองโตขึ้นมาอีกครั้งแน่นอน เรื่องราวจบที่สองคนนั่งรถไปด้วยกัน ที่เหลือคนดูอย่างเรา ๆ ก็คงต้องไปจินตนาการกันต่อเอาเองแล้วหล่ะค่ะ... ภาพประกอบที่ 4 สุดท้ายนี้...ผู้เขียนขอฝากซีรี่ย์น้ำดีเรื่องนี้เอาไว้ในอ้อมอกอ้อมใจของคุณผู้อ่านกันด้วยนะคะ นอกจากทีมสร้างและนักแสดงที่คุณภาพแล้ว เนื้อเรื่องยังน่าสนใจและน่าติดตามเอามากๆ เลยค่ะ ไม่ใช่แค่ความน่ารักของคู่พระนาง การชิงไหวชิงพริบของเหล่าองค์ชาย แต่ยิ่งดู ๆ ไปเรื่อย ๆ ก็จะยิ่งหลงรักซีรี่ย์เรื่องนี้ แถมยังได้อินไปกับเพลงประกอบซีรี่ย์ที่โดนใจเอาสุด ๆ ซึ่งเป็นการบอกเล่าความรู้สึกของตัวละครผ่านเสียงเพลงได้อย่างลึกซึ้งกินใจ เล่นเอาผู้เขียนร้องไห้ตามไปด้วยหลายฉากเลยค่ะ อย่าลืมไปสัมผัสความฟินนี้ด้วยตัวคุณเองนะคะ... ขอบคุณภาพปกบทความจาก : Website canvaเครดิตรูปภาพ : ภาพปกขอบคุณภาพประกอบบทความจาก : weibo 梦回官博เครดิตรูปภาพ : ภาพประกอบที่ 1/ ภาพประกอบที่ 2/ ภาพประกอบที่ 3 / ภาพประกอบที่ 4