7 หนังดีการันตี Best Picture รางวัลออสการ์ ได้ตุ๊กตาทองมาครอง...แต่โลกลืม
ข่าวสารวงการหนัง หนังรางวัลออสการ์
ประวัติศาสตร์ใหม่ที่ "Parasite" ได้สร้างเอาไว้บนเวทีรางวัลออสการ์ 2020 ที่ผ่านมา น่าจะเป็นช่วงเวลาที่ถูกจดจำไปตลอดกาลอย่างแน่นอน แต่เชื่อหรือไม่ว่ายังมีหนังที่ได้รับรางวัล "ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม" อีกหลายๆ เรื่องที่ไม่ได้รับการกล่าวถึงอีกเลย หลังจากที่ได้ออสการ์มาครอง ทำให้กลายเป็นหนังออสการ์ที่ถูกลืมไปโดยปริยาย
หนังออสการ์ที่ถูกลืมเหล่านี้ เกิดจากปัจจัยหลายอย่างเป็นองค์ประกอบ แม้จะยอดเยี่ยมระดับคว้ารางวัล แต่กระแสของหนัง ระดับความดังของนักแสดงนำ และการเปรียบเทียบคุณภาพกับหนังเรื่องอื่นๆ มักจะถูกนำมากล่าวถึงเสมอ บางครั้งก็กลายเป็นข้อครหาว่า "ในปีนั้นหนังเรื่องนั้นยังดีกว่า..." เราจึงคัดเลือกหนังในช่วง 10-20 ปีที่ผ่านมา ที่สารภาพจากใจจริง...บางเรื่องก็ลืมไปแล้วด้วยว่า นี่เคยเป็นหนังรางวัลออสการ์
The English Patient (1996)
ออสการ์ ครั้งที่ 69 เป็นปีที่ "The English Patient" หนังรักดราม่าสงครามโลกได้เข้าชิงรางวัลมากที่สุด 12 สาขา ก่อนจะกวาดกลับบ้านไปถึง 9 รางวัล รวมทั้งภาพยนตร์ยอดเยี่ยมในปีนั้นด้วย หนังที่พลาดรางวัลใหญ่ๆ แต่เก็บแต้มได้จากรางวัลทางเทคนิค แต่กลับกลายเป็นว่าหนังไม่ได้ค่อยรับการกล่าวถึงสักเท่าไหร่ เมื่อเทียบกับหนังที่เข้าชิงในปีเดียวกันเรื่องอื่นๆ อย่าง "Fargo" หรือ "Jerry Maguire" แต่ก็ถือเป็นหนึ่งในผลงานอันทรงคุณค่าในอาชีพผู้กำกับของ "แอนโทนี มิงเกลลา" ก่อนที่เขาจะเสียชีวิตลงในอีกไม่กี่ปีต่อมา
The King's Speech (2010)
เป็นช่วงยุคที่เน้นแจกรางวัลแบบไม่พึ่งกระแสเท่าไหร่ ในงานออสการ์ ครั้งที่ 83 รางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมตกเป็นของ "The King's Speech" หนังน้ำดีจากเกาะอังกฤษ เพราะเป็นปีที่คู่แข่งไม่ค่อยหนักแน่นมากเท่าไหร่นัก "The Social Network" อาจจะมีกระแสที่ดีกว่าด้วยซ้ำ แต่เพราะองค์ประกอบและทิศทางของรางวัลก็เกื้อหนุนทำให้มีภาษีที่ดีกว่า หนังยังได้ผู้กำกับ, นักแสดงนำชาย และบทภาพยนตร์ ทำให้ในท้ายที่สุดหนังก็ได้รางวัลสูงสุดไปครองแบบเงียบๆ แต่ก็สร้างชื่อเสียงให้กับผู้กำกับ "ทอม ฮูเปอร์" มาจนถึงทุกวันนี้
The Artist (2011)
ต่อเนื่องความเงียบมาจากปีก่อน และมาถึงงานออสการ์ ครั้งที่ 84 ที่ได้ชื่อว่าเป็นปีที่หนังสายรางวัลค่อนข้างอ่อนแรงเลยทีเดียว แต่ผลลัพธ์ในท้ายที่สุด หนังขาวดำสไตล์โรแมนซ์ "The Artist" โผล่มาคว้ารางวัลใหญ่ๆ ไปครอง ทำเอาคู่แข่งและคนดูมองตาปริบๆ เพราะคู่แข่งอย่าง "The Help" หรือ "The Descendants" ก็น่าจะพอสู้ไหว โดยเฉพาะเรื่องกระแส ทำให้หนังออสการ์ในปีนี้...ตอนนี้หลายคนคงลืมไปแล้วด้วยซ้ำ เพราะปีนี้จำได้อย่างเดียวก็คือ "ออคตาเวีย สเปนเซอร์" ได้ออสการ์ตัวแรก
Moonlight (2017)
และเมื่อไม่นานนี้ ในงานออสการ์ ครั้งที่ 89 เป็นปีที่ทำเซอร์ไพร์สอยู่ไม่น้อย เพราะอยู่ๆ ก็ให้ "Moonlight" เป็นภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ซ้ำยังมีวินาทีผิดพลาดออกอากาศสดๆ เมื่อพรีเซ็นเตอร์ทำการประกาศชื่อผู้ที่ได้รับรางวัลผิด "La La Land" คู่แข่งที่สำคัญและกระแสโดดเด่นกว่าในปีนี้ ขึ้นมาบนเวทีเพื่อรับรางวัล ก่อนจะพบเห็นความผิดปกติ เพราะที่จริงหนังอีกเรื่องได้รางวัลนี้ต่างหาก กลายเป็นโมเมนต์ประวัติศาสตร์ที่ชุลมุนบนเวทีออสการ์ แต่หนังดีๆ อย่าง Moonlight ก็ไม่ค่อยได้รับการกล่าวถึงมากนักหลังจากนั้น ทำให้บางฝ่ายมองว่าที่ออสการ์ให้ก็เพราะว่า อยากลบข้อครหาที่ว่า #OscarsSoWhite มากกว่า
Shakespeare in Love (1999)
ในงานออสการ์ ครั้งที่ 71 เป็นปีที่มีหลายๆ อย่างเกิดขึ้นเป็นโมเมนต์...อิหยังหว่า? เพราะ "Shakespeare in Love" หนังรักดราม่าเรื่องราวของวิลเลียม เชกสเปียร์ ได้รับ Best Picture ไปแบบโลกตะลึง หลังจากเข้าชิงได้สูงสุดถึง 13 สาขา และกวาดรางวัลไปถึง 7 รางวัล รวมทั้ง "จูดี เดนช์" ที่ได้รางวัลจากการแสดงที่ออกมาเพียงแว่บเดียว แต่พอเวลาผ่านไป หนังก็ได้เลือนหายไปตามกาลเวลา...กลายเป็นหนังรักทั่วไป ขณะที่ "Elizabeth", "Saving Private Ryan" หรือหนังอิตาเลียน "Life Is Beautiful" ผู้ท้าชิงในปีนั้นยังถูกกล่าวถึงมากกว่าในปัจจุบัน
The Hurt Locker (2009)
ในงานประกาศรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 82 เป็นอีกปีที่พบว่าไม่ค่อยมีหนังรางวัลไหนเรื่องที่ตระหง่านเท่า "The Hurt Locker" ที่ฉายแสงมาแต่ไกล แม้จะเป็นปีที่มี "Avatar" ติดโผเป็นคู่ต่อกร แต่ด้วยศักยภาพก็ยังไม่เหมาะกับออสการ์ ซ้ำยังดราม่าเบาๆ เพราะเป็นการต่อสู้ระหว่างอดีตคู่สามีภรรยากัน แม้ในปีนั้นจะมีการสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ "แคทริน บิเกโลว์" เป็นผู้หญิงคนแรกที่ได้รางวัลผู้กำกับฯ และด้วยองค์ประกอบต่างๆ ก็พอเหมาะพอเจาะที่จะได้ Best Picture เพียงแต่หลังจากนั้น...หนังก็ถูกกลืนเลือนหายไปตามกาลเวลา ไม่ค่อยมีใครพูดถึงอีกเลย
Crash (2004)
เป็นปีที่กระแสวิพากษ์วิจารณ์กระหึ่ม...แทบจะกลบหลุมฝัง "Crash" หนังที่ได้รางวัลใหญ่ที่สุดของออสการ์มาครองแบบงงๆ เลยทีเดียว ในงานออสการ์ ครั้งที่ 78 เป็นปีที่หนังรางวัลเด่นๆ อย่าง "Brokeback Mountain", "Crash", "Memoirs of a Geisha" และ "King Kong" ต่างกวาด 3 รางวัลไปเท่าๆ กัน แต่กระแสดีที่สุดคงจะเป็น Brokeback Mountain ที่เข้าชิงมากที่สุด ได้รางวัลผู้กำกับฯ และบทภาพยนตร์ แต่กลับพลาดรางวัลใหญ่ไปแบบเซอร์ไพร์ส ทำให้มีกระแสในตอนนั้นว่า ออสการ์เหยียดเพศที่ 3 เลยทีเดียว
----------------------------------------------------