cr. warnerbros , majorcineplex ภาพยนตร์เก่า ๆ ที่เราเคยดูและต้องบอกว่า น้ำตาแตก น้ำตาซึม ที่ยังประทับใจที่อยากจะนำมาเล่าสู่กันฟังคือ I am sam VS เอ๋อเหรอ ภาพยนตร์สองเรื่องจากสองประเทศ ที่ทำให้เราดูแล้วติดใจกับการนำเสนอความรักของพ่อ ในอีกมุมหนึ่ง แม้ว่าทั้งสองเรื่องจะมีความคล้ายกันอยู่บ้าง ในการยกประเด็นความรักของพ่อที่มีให้ลูก แต่ก็เป็นการนำเสนอในบริบทที่แตกต่าง นำเสนอแง่มุมในประเด็นที่สอดคล้องกับสังคมของแต่ละประเทศ cr warnerbros I am sam (2001)ภาพยนตร์จากฝั่งฮอลีวู้ด ที่เล่าถึง แซม ดอว์สัน พ่อที่มีปัญหาในเรื่องสมรรถภาพความสามารถในการเลี้ยงลูก เพราะเขามีปัญหาทางสมอง (อาการคล้ายออทิสติกอ่อน ๆ ) และเป็นผู้ปกครองตามกฎหมายเพียงคนเดียวของ ลูซี่ ซึ่งเขาต้องการที่จะเลี้ยงดู ลูซี่ ด้วยความพยายามและความสามารถของเขา และความช่วยเหลือของเพื่อนบ้าน แต่นั่นมันเกือบจะเป็นไปไม่ได้เพราะ ลูซี่ โตขึ้นทุกวันและเธอก็มีสังคม เมือ่ไปโรงเรียนก็ถูกล้อและโดนกลั่นแกล้งจากการที่มีพ่อที่สติไม่สมประกอบ และแซมก็ได้รับคำแนะนำจากเพื่อน ๆ ที่อยู่ในกลุ่มที่เขาเข้ารับการบำบัดและพัฒนาตัวเองในการใช้ชีวิต เพื่อให้หาทางดูแล ลูซี่ ให้ได้อย่างถูกกฎหมาย แต่ระหว่างการสู้คดีนั้น แซม และ ลูซี่ ต้องแยกจากกัน เด็กน้อยวัย 7 ขวบต้องไปอยู่กับครอบครัวอุปถัมภ์ แต่สุดท้ายด้วยความช่วยเหลือของทนายความ ริต้า แฮร์ริสัน ทำให้ แซม ได้เป็นผู้ปกครองของ ลูซี่ cr. monomax. เอ๋อเหรอ (2005) ภาพยนตร์ไทย ที่เล่าเรื่องผ่านการเด็กสองคนคือ ต๋อง เด็กดาวน์ซินโดรม ลูกชายของ สำรวย และ แอ๋ว กับ ลูกแก้ว ลูกสาวของ ปรีชา และ วรรณ สองครอบครัวในชนบท ซึ่ง สำรวย และ ต๋อง เป็นพ่อลูกที่มีความพิเศษ แม้จะดูมีลักษณะของ ดาวน์ซินโดรม แต่ทั้งคู่เป็นคนดี เป็นที่รักของหลาย ๆ คนในชุมชน แต่ ปรีชาไม่ชอบสองพ่อลูก และไม่อยากให้ ลูกตัวเองไปสนิทด้วย แต่เด็กก็คือเด็กทั้งคู่เป็นเหมือนพี่น้องกันอยู่ด้วยกัน แต่แล้ววันหนึ่ง เด็กสองคนก็จับพลัดจับพลูติดมาในรถทัวร์ที่เข้ากรุงเทพ เรื่องราวจึงเริ่มต้นขึ้น สำรวย ออกตามหาลูก ปรีชาโทษว่าเป็นความผิดของ ต๋อง ในขณะที่ผู้ใหญ่กำลังกังวล เด็ก ๆ ก็ต้องเอาตัวรอกจากแก๊งค์ค้ามนุษย์ แต่สุดท้าย สำรวยก็มาช่วยเด็ก ๆ ให้ปลอดภัย cr warnerbros ความเหมือนในเรื่องราวความรักของพ่อ I am sam เน้นประเด็นการต่อสู้เพื่อรักษาสิทธิ ความเป็นพ่อของแซม ที่มีต่อ ลูซี่ และการสื่อให้เห็นว่าแม้ แซม จะบอกพร่องทางสมอง แต่เขามีจิตวิญญาณความเป็นพ่อ เขารักลูซี่ด้วยใจบริสุทธิ์ ต้องการที่จะเลี้ยงดูเธอให้เติบโต ด้วยความสามารถ แต่ในอีกมุมหนึ่ง หนังก็สื่อให้เห็นถึงสังคม การยอมรับ บุคคลที่มีความบกพร่องในด้านนี้ ว่ามันยากที่ใคร ๆ จะให้การยอมรับได้เต็มร้อย แม้ว่าจะมีงานทำ มีบ้านอยู่ มีสวัสดิการ มีหน่วยงานดูแล แต่สังคม ยังบูลลี่คนที่รูปลักษณ์ภายนอก สังคมเด็ก ๆ ที่เหมือนจะบริสุทธิ์ แต่ ก็มีการกลั่นแกล้งซึ่ง ลูซี่ เป็นหนึ่งในนั้น จนทำให้เธอคิดว่าพ่อของเธอคือปัญหา แต่สุดท้าย ความรักความผูกพันของพ่อก็ช่วยให้เธอเข้าใจ เอ๋อเหรอ หนังนำเสนอในสองมุม ความเป็นพ่อของสำรวย ที่พยายามทุกอย่างที่จะช่วย ต๋อง แม้จะบกพร่องแต่มีครอบครัวที่ดี มีภรรยาที่เข้าใจ ผู้คนรอบข้างยังให้ความเป็นมิตร แม้ว่าจะมีคนเกลียดชัง อีกมุมคือการตีแผ่แก๊งค์ค้ามนุษย์ ที่มาในคราบคนดีแต่มีเบื้องหลังที่แอบแฝง มิตรภาพระหว่างเด็กสองคน ที่ต้องคอยช่วยเหลือกัน ความสัมพันธ์ของสองครอบครัว ที่ตกอยู่ในชะตากรรมเดียวกัน สุดท้ายก็เข้าใจกัน ความต่างในการนำเสนอcr.majorcineplex เรื่องราวในการนำเสนอ I am sam เน้นในเรื่องความสัมพันธ์ กฎหมาย อารมย์ระหว่างพ่อลูก และ คนรอบข้าง การเรียนรู้ที่จะยอมรับ ความพยายามของ แซม ที่หวังจะเป็นพ่อที่ดี และ การยอมรับในตัวตนของเขาเองว่าเขาทำอะไรได้แค่ไหน เขาเป็นพ่อของลูซี่เพียงลำพังไม่ได้ การยอมรับที่สุดท้ายกลายเป็นการสร้างความสัมพันธ์ใหม่ การสอนให้คนรอบข้างค่อย ๆ ปรับตัว ค่อย ๆ ยอมรับ ทิ้งอดีตที่ผ่านมาเพื่อเริ่มต้นใหม่ การเน้นอารมย์ ความผูกพันของ ลูซี่ กับ แซม ที่ทำให้น้ำตาซึมในหลาย ๆ ฉาก ในส่วนของ เอ๋อเหรอ เน้นที่เด็กประแกนหลัก ทำให้อารมย์ในบางช่วงมันลุ้นมากกว่าซึ้งในความสัมพันธ์ของ สำรวยและต๋อง เพราะมีส่วนที่หนังปูประเด็นความพิเศษของสองพ่อลูก และในบางช่วงหนังเล่นกับความรู้สึกที่ สำรวยออกมาตามหาลูกต้องเจอกับคนร้าย ต้องหาความช่วยเหลือจากบุคคลต่าง ๆ ทั้ง ๆ ที่ตัวเองทำได้แค่ในระดับหนึ่ง แต่ความรักลูกทำให้สู้ทุกทาง แต่ด้วยการที่เล่นสองประเด็น เลยทำให้อารมย์มันขาด ๆ หาย ๆ ไปบ้างในบางตอน cr warnerbros นักแสดงหลักฝีมือทั้งสองเรื่อง I am sam นักแสดงหลักคือ ฌอน เพนท์ กับบทแซม ที่ต้องบอกว่าเล่นได้เนียนชนิดไม่มีข้อตำหนิใด ๆ ในสายตาเราเลย กับความเป็นคนพิเศษ ลักษณะท่าทาง การพูด การส่งอารมย์กับตัวละครอื่น ๆ ทำได้เยี่ยมบางซีนดูแล้วน้ำตาแตกจริงๆ แม้ว่าเขาจะไม่ได้รับรางวัลจากการเสนอชิงเข้าชิงในออสการ์หรือรายการอื่น ๆ แต่ต้องยอมรับว่าบทนี้ของเขามันติดตาติดใจคนดูหนังหลาย ๆ คน ดาโกต้า เฟนนิ่ง กับบท ลูซี่ ซึ่งตอนนั้นเธออายุไม่มากจากบทที่ได้รับสักเท่าไหร่ ดังเป็นพลุแตกและได้รางวัลออสการ์จากบทนี้นี้ด้วย เธอเป็นลูซี่ที่สมบูรณ์แบบ ทั้งความฉลาด น่ารัก ไร้เดียงสา และ การแสดงที่รับส่งอารมย์กับ ฌอน เพนท์ ได่ดีทำให้ไม่มีใครปฎิเสธกับการคว้าออสการ์ในครั้งนั้นเอ๋อเหรอ นักแสดงหลักคือ โหน่ง ชะชะช่า กับบทสำรวย ที่ต้องบอกว่า ทำได้เกินคาด แม้เจ้าตัวจะเป็นนักแสดงตลก แต่กับเล่นบทอารมย์ได้อย่างสมจริง และกับความเป็นคนพิเศษ ลักษณะท่าทาง การพูด ดูเป็นธรรมชาติ การแสดงที่จังหวะพอดี ทำให้เราชอบในการแสดงของดาวตลกคนนี้ วีรภักดิ์ แก่นสุวรรณ กับบทต๋อง ซึ่งเป็นเด็กพิเศษอยู่แล้วได้มาแสดงในเรื่องนี้ ทำให้เห็นว่าเด็กกลุ่มนี้เขามีความน่ารัก มีความสดใส การแสดงที่เป็นตัวเอง แต่ฉายให้เห็นว่าเขาก็มีความสามารถไม่แพ้คนอื่น ๆ นวรัตน์ เตชะรัตนประเสริฐ กับบทลูกแก้ว เด็กซน ๆ ที่คอยปกป้องต๋อง กับบทนี้ถือว่าสอบผ่านในตอนนั้น กับการเป็นนักแสดงเรื่องแรก แม้ว่าจะโดนเสียงวิจารณ์ในเรื่องการได้รับรางวัล นักแสดงนำหญิง จากรางวัลสุพรรณหงส์ในปีนั้นก็ตาม บทสรุปของ I am sam VS เอ๋อเหรอ เป็นภาพยนตร์ที่นำเสนอความรักของพ่อในอีกรูปแบบหนึ่ง ผ่านเรื่องราวที่น่าสนใจในเนื้อหาที่สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงของสังคมของทั้งสองประเทศ เป็นภาพยนตร์ที่ดูแล้วต้องอมยิ้ม กับความพิเศษของตัวละคร ซึ้งน้ำตาซึมกับความรักที่สัมผัสได้จริง แม้จะเป็นพล็อตหลักที่คล้ายกัน แต่บอกเลยว่าต่างทำออกมาได้ดีทั้งสองเรื่อง เป็นภาพยนตร์ที่ควรหาโอกาสชมสักครั้ง