12 Rules for Life: An Antidote to Chaos หรือ กฎ 12 ข้อที่จำนำพาชีวิตให้ห่างไกลจากความวุ่นวาย โดย จอร์แดน บี พีเตอร์สันคุณหมอจิตแพทย์ที่ผันตัวมาเป็นนักเขียน อย่างดอกเตอร์ จอร์แดน บี พีเตอร์สัน ได้รวบรวมข้อมูลที่เขาได้ศึกษามาทั้งชีวิตทั้งจากตำนาและจากประสบการณ์จริงจากการรักษาผู้ป่วยที่มีปัญหาทางจิตมาหลายปี โดยแยกออกเป็นกฎ 12 ข้อที่จำนำพาชีวิตให้ห่างไกลจากความวุ่นวายวิธีการสื่อสารของดอกเตอร์ จอร์แดน ในหนังสือเล่มนี้จะไม่ใช่แค่การให้ข้อมูลเท่านั้นแต่จะมีการล่าเรื่องราวแบบติดตลกให้ผู้อ่านได้หัวเราะกันด้วย ( ถ้าเกทมุขนางอะนะคะ เพราะบางมุขก็ขำไม่ออกเหมือนกัน ) ไม่อยากสปอยมาก เอาแค่ว่า กฎ 12 ที่ถูกบรรจุอยู่ในหนังสือเล่มนี้มีอะไรบ้างก็พอเนอะ กฎข้อที่ 1 ยืนตัวตรงอย่างสง่างามกฎข้อที่ 2 ดูแลตัวเองเหมือนดูแลใครซักคนที่คุณต้องรับผิดชอบชีวิตเค้ากฎข้อที่ 3 เป็นเพื่อนกับคนที่ต้องการเห็นคนประสบความสำเร็จในชีวิตกฎข้อที่ 4 เปรียบเทียบตัวเองกับตัวเองเมื่อวานนี้ ไม่ใช่กับคนอื่นกฎข้อที่ 5 อย่าอนุญาตให้ลูกของคุณทำอะไรที่คุณจะทำให้คุณไม่ชอบลูกตัวเองกฎข้อที่ 6 ก่อนที่คุณจะตัดสินโลกใบนี้ จัดการดูแลบ้านของตัวเองให้ดีก่อนกฎข้อที่ 7 ตามหาสิ่งที่มีความหมายกับตัวคุณจริง ๆ ไม่ใช่เพื่อความสบายกฎข้อที่ 8 พูดความจริง หรือไม่ก็อย่าโกหกกฎข้อที่ 9 คิดเสมอว่าคนที่คุณกำลังฟังเค้าพูดอะไรบางอย่างอยู่ เค้าอาจจะมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อคุณก็ได้กฎข้อที่ 10 พูดแบบ สั่น ๆ ได้ใจความกฎข้อที่ 11 อย่าไปรบกวนหรือขัดเด็กที่เค้ากำลังเล่นสเกตบอร์ตอยู่กฎข้อที่ 12 หยุดเล่นกับแมวข้างถนนภาพจาก pixabayสำหรับคนที่อ่านหนังสือภาษาอังกฤษอยู่แล้ว หนังสือเล่มนี้มีความยากง่ายแบบปานกลาง ศัพท์เฉพาะทางมีค่อนข้างเยอะ วิธีการอธิบายของคุณหมอจะค่อนข้างไปในเชิงวิทยาศาสตร์หน่อย ๆ สำหรับมือใหม่หัดอ่านหนังสือภาษาอังกฤษไม่อยากแนะนำเล่มนี้เท่าไร เพราะอาจจะอ่านยากไปและเป็นไปได้ว่าอาจจะอ่านไม่จบเล่มหรืออ่านไปเปิดดิกชันนารีไป แต่ถ้าชอบความท้าทายแบบนี้ก็จัดเลยคะ ไม่ติด! สิ่งที่ได้จากหนังสือเล่มนี้ซิที่น่าสนใจที่สุด (สำหรับผู้เขียนนะคะ) เพราะตอบโจทย์มากสำหรับคนที่กำลังหาคำตอบให้กับตัวเองว่า ฉันจะอยู่บนโลกนี้ยังไงให้ใจสงบ ฉันจะจัดการกับความวุ่นวายรอบกายของฉันอย่างไรให้ไม่กระทบกับชีวิตส่วนตัวมากจนเกินไป หรือจะอยู่ยังไงให้สุขทั้งกายและใจ คำตอบที่ผู้เขียนได้จากกฎแต่ละข้อหลัก ๆ แล้วคือการเริ่มมองกลับมาที่ตัวเอง ยกตัวอย่างเช่นกฎข้อที่ 2 คือโดนมาก เราดูแลคนที่เรารักได้ดีมากแต่เราลืมที่จะหันมามองว่าเราดูแลตัวเองได้ถึงครึ่งที่เราดูแลคนที่เรารักหรือไม่ คำตอบคือไม่เลย แปลกที่เรามักจะลืมว่าเราสำคัญที่สุดสำหรับเรา ในกฎข้อนี้ถึงได้บอกว่า ดูแลคนอื่นยังไงก็ดูแลตัวเองอย่างนั้น หรือสิ่งที่ได้จากกฎข้อที่ 6 คือการเน้นย้ำความจริงที่ว่าไม่มีใครถูกตัดสินแต่เราชอบตัดสินคนอื่นจัง ข้อดีทำให้ผู้เขียนนึกขึ้นได้ว่า เราเอาเวลามาทำให้ตัวเราดีขึ้นกว่าเดิมดีกว่าจะไปนั่งติคนอื่น เพราะมันไม่ได้ก่อประโยชน์ใด ๆ ให้ใครเลย ทั้งนี้ทั้งนั้น แต่ละคำตอบที่ได้จะขึ้นอยู่กับมุมมองของการมองโลกของแต่ละคนนะคะ ต้องบอกอย่างนี้ก่อน สิ่งที่ผู้เขียนได้จากหนังสือเล่มนี้อาจจะไม่เหมือนกับผู้อ่านท่านอื่น และนี่แค่ส่วนหนึ่งที่ผู้เขียนอยากจะนำมาแชร์ ยังมีอะไรดีดีอีกเยอะในหนังสือเล่มนี้ที่อาจจะเป็นประโยชน์กับตัวคุณเองหนังสือดีดีแบบนี้ไม่หยิบมาอ่านไม่ได้แล้ว!ภาพจาก pixabayขอบคุณภาพหน้าปกจาก pixabay