รีเซต

รีวิวกลับไปเยือนโรงภาพยนตร์(อีกครั้ง) "ตีตั๋วดูหนัง" ในยุคที่โควิดยังไปไม่ไกลตัว

รีวิวกลับไปเยือนโรงภาพยนตร์(อีกครั้ง) "ตีตั๋วดูหนัง" ในยุคที่โควิดยังไปไม่ไกลตัว
Jeaneration
8 มิถุนายน 2563 ( 19:00 )
814
1

ข่าวสารวงการหนัง

เชื่อว่ามีคนจำนวนไม่น้อยเลยที่ปรับวิถีชีวิตประจำวันของตัวเอง กลายเป็น Self-New Normal ที่ต้องระแวดระวังและพยายามไม่นำพาตัวเองไปสุ่มเสี่ยงกับ Covid-19 ถึงแม้ว่าสถานการณ์ต่างๆ ภายในประเทศ ก็ดูจะฟื้นตัวขึ้นเรื่อยๆ แต่ทุกคนก็ยังไม่รู้สึกไว้วางใจ เพราะเป็นกังวลว่าหากเกิดการระบาดระลอกใหม่ขึ้นมา วิถีชีวิตของพวกเราน่าจะย่ำแย่ลงไปกว่าเมื่อ 2-3 เดือนที่ผ่านมาอีกแน่ๆ

ในขณะที่วิถีในแวดวงธุรกิจต่างๆ ก็ต้องปรับตัวไปตามเป็นมาตรการ New Normal เพื่อให้ธุรกิจยังคงดำเนินต่อไปได้ ลูกค้ายังแวะเวียนมาใช้บริการ โรงภาพยนตร์ก็เช่นเดียวกัน นับว่าเป็นภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบหนักหน่วงอยู่ไม่น้อยจากเหตุในครั้งนี้ เพราะต้องปิดให้บริการไปแบบเปล่าๆ นานกว่า 2 เดือน ทั้งที่มีจอใหญ่ฉายหนัง แต่ไม่มีลูกค้าและไม่สามารถฉายหนังได้

เป็นเหตุทำให้โรงหนังในทุกวันนี้ ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปเกือบทั้งหมด หลังจากที่ได้รับคำสั่งปลดล็อก อนุญาตให้เปิดบริการอีกได้ครั้ง บรรดาผู้ประกอบการโรงหนังก็ต้องเริ่มหาวิธีรับมือกับวิถีใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น และต้องปฏิบัติตามหลักการและมาตรการจากภาครัฐอย่างเข้มงวด หากฝ่าฝืนไปเพียงเล็กน้อยก็อาจจะได้รับผลลัพธ์ เหมือนกับข่าวดังที่เราน่าจะได้เห็นไปเมื่อวันก่อน

โรงหนังในยุคโควิด-19 นั้นเป็นอย่างไร แตกต่างไปมากน้อยแค่ไหน วันนี้ Movie.TrueID จะมาบอกเล่าถึงประสบการณ์(เอาตัวเองเข้าเสี่ยง) จากการที่กลับเข้าไปในโรงหนังอีกครั้ง นับตั้งแต่วันแรกๆ ที่กลับเปิดให้บริการ มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปบ้าง และผู้บริโภคอย่างเราควรทำตัวอย่างไร?

ความเปลี่ยนแปลงแรกที่เห็นได้ชัดเจนก็คือ ความเข้มงวดในมาตรการรักษาความสะอาดและสุขอนามัยในหลายๆ จุดของโรงหนัง เริ่มต้นจากบริเวณบ็อกซ์ออฟฟิศ หรือจุดจำหน่ายตั๋วหนัง แม้ว่าปริมาณคนจะบางตาลงไป แต่ก็ไม่ใช่ว่าโรงหนังจะเงียบเหงาไปเสียทีเดียว พนักงานทุกคนต้องสวมใส่หน้ากากป้องกัน

(ขอบคุณภาพประกอบจาก เมเจอร์ ซีนิเพล็กซ์)

ขณะที่ตู้จำหน่ายตั๋วอัตโนมัติเปิดให้บริการแบบตู้เว้นตู้ เพื่อรักษาระยะห่างทางสังคม และมีพนักงานประจำจุดให้คำแนะนำและหมั่นคอยทำความสะอาดหน้าจออยู่สม่ำเสมอ ลูกค้าบางส่วนก็เลือกที่จะเข้าแถวต่อคิวซื้อตั๋วกับพนักงานที่เคาน์เตอร์โดยตรง โดยมีการจัดโซนและเว้นระยะห่างเอาไว้อย่างชัดเจน

แต่ข้อควรทำและอยากจะแนะนำที่สุดในการซื้อตั๋วดูหนังในยุคนี้ก็คือ กดซื้อผ่านแอปพลิเคชั่น หรือ ซื้อตั๋วออนไลน์ น่าจะสะดวกสบายและปลอดภัยจากการสัมผัสต่างๆ ได้ดี อีกทั้งยังเป็นการใช้จ่ายแบบ cashless ที่ตัดผ่านบัตรเดบิตหรือเครดิตได้ทันที โดยไม่ต้องล้วงควักเงินออกมาจ่ายให้เชื้อโรคเปื้อนมือ

เมื่อได้ตั๋วออกมาอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์ตัวเองแล้ว ถึงเวลาจะเข้าไปในโรงหนัง พนักงานฉีกตั๋วจะทำการตรวจสอบเรื่อง, รอบ และโรงฉาย จากนั้นพนักงานจะทำการใช้อุปกรณ์ยิงตรวจวัดไข้ โดยจะต้องมีอุณหภูมิร่างกายที่ไม่เกินเกณฑ์ที่กำหนด หลังจากนั้นก็ผ่านฉลุย สามารถเดินเข้าผ่านด่านและไปในโรงหนังได้

(ขอบคุณภาพประกอบจาก เอสเอฟ ซีนิมา)

มาถึงด่านปราการของขนมขบเคี้ยว แม้ว่าจะมีกระแสข่าวว่ากันว่าไม่อนุญาตให้กินน้ำหรือป๊อปคอร์นในโรงหนัง แต่ทางโรงหนังก็ยังคงเปิดจำหน่ายอาหารตามปกติ และทางภาครัฐก็ออกมาชี้แจงแล้วว่า ไม่ได้สั่งห้าม เพียงแต่ไม่อยากให้ถอดหน้ากากออกระหว่างอยู่ในโรงหนังก็แค่นั้น การกินขนมและน้ำต่างๆ ยังทำได้ เพียงแต่ระมัดระวังในการทาน และควรสวมใส่หน้ากากทันที เมื่อทานเสร็จ

และก็ตามที่มีผู้แชร์ออกมาในโซเชียลมีเดีย โรงหนังบางแห่งมีการแจก "ถุงนิ้ว" เป็นถุงมือยางที่ตัดมาเฉพาะ 2 นิ้ว เพื่อเหมาะกับการหยิบจับของกินเข้าปาก บ้างก็มองว่าเป็นมาตรการที่รัดกุมดี แต่บ้างก็มองว่าไม่น่าจะช่วยแก้ปัญหาใดๆ ดังนั้นการดูหนังที่โรงหนังในระยะนี้ หากเป็นไปได้ก็ไม่ควรทานอะไรระหว่างที่ดูหนังน่าจะดีกว่า

มาถึงบรรยากาศภายในโรงหนังกันบ้าง แน่นอนว่าได้ทำการจัดระเบียบที่นั่งใหม่ทั้งหมดทุกโรง ลดปริมาณคนต่อโรงหนังไปมากกว่าครึ่ง ด้วยการจัดที่นั่งในลักษณะ 2 ที่นั่งเว้น 2 ที่นั่ง และยังจัดโซนนั่งแบบแถวเว้นแถวในทางยาว (นั่งแถว A เว้นแถว B นั่งแถว C) ที่นั่งที่ไม่อนุญาตให้นั่งจะมีเครื่องหมายกากบาทติดเอาไว้อย่างชัดเจน ทำให้ในแต่ละโรงหนังจะบรรจุคนได้อย่างเต็มที่ราวๆ 50-60 คน ของโรงหนังที่ปกติมีที่นั่งรองรับเอาไว้เกือบ 200 ที่นั่ง

(ขอบคุณภาพประกอบจาก เมเจอร์ ซีนิเพล็กซ์)

ในขณะที่การฉายตัวอย่างและโฆษณาก่อนที่จะหนังจะเริ่มฉายนั้น ก็เห็นได้ชัดว่ามีการปรับช่วงเวลาที่สั้นลง ทั้งนี้อาจจะเป็นเพราะว่าเป็นช่วงที่โรงหนังเพิ่งกลับมาเปิดให้บริการใหม่ และโปรแกรมหนังใหม่ต่างๆ ยังไม่ล็อกลงนักในช่วงนี้ แต่ก็นับว่าเป็นผลดีต่อลูกค้าที่ไม่จำเป็นต้องนั่งอยู่ในสถานที่ปิดเป็นเวลานานๆ เหมือนเก่า

แน่นอนว่านับตั้งแต่เดินเข้าโรงหนังเป็นต้นมา ทุกคนจะต้องสวมใส่หน้ากากป้องกันตลอดเวลา แม้กระทั่งโรงหนังปิดไฟและหนังเริ่มฉายแล้ว ทุกคนจะต้องสวมใส่หน้ากากอยู่เสมอ เพราะเราไม่ทราบเลยว่าจะเผลอหัวเราะเอิ๊กอ๊ากให้กับฉากไหนของหนังที่กำลังดูอยู่ ดังนั้นจึงเป็นการแสดงความผิดชอบต่อสังคม เมื่อต้องมาอยู่ร่วมกันในที่สาธารณะเช่นนี้

(ขอบคุณภาพประกอบจาก เมเจอร์ ซีนิเพล็กซ์)

โดยสรุปแล้ว การกลับมาดูหนังที่โรงหนังอีกครั้ง หลังจากการแพร่ระบาดของ Covid-19 มองว่าไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัวใดๆ บรรยากาศของโรงหนังก็ยังคงเหมือนเดิม เพียงแต่แตกต่างไปอย่างสิ้นเชิงเพราะมาตรการต่างๆ ตามวิถี New Normal แม้จะเป็นสถานที่ปิด แต่วางกฎด้านสุขอนามัยทุกอย่างเอาไว้อย่างเข้มงวด มีการทำความสะอาดพื้นที่ต่างๆ ที่ทำให้รู้สึกมั่นใจยิ่งใด

ตราบใดที่เราเริ่มจากพฤติกรรมป้องกันตัวเองก่อน และปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัดเมื่อออกไปสู่สาธารณะ การตีตั๋วดูหนังและใช้ชีวิตอยู่ในปี 2020 กลางยุคโควิดแบบนี้...ก็ไม่น่าจะใช่เรื่องที่ยาก

----------------------------------------------------

>> ดูหนัง ดูซีรีส์ออนไลน์ได้ที่ Movie.TrueID <<