รีวิวหนัง "Flow" สมราคาแอนิเมชันตัวเต็งออสการ์ ไร้เสียงแต่เปี่ยมล้นไปด้วยหัวใจ

นี่ก็เป็นอีกหนึ่งคอนเทนท์หนังที่เราค่อนข้างรอคอยชมมาก ๆ อีกเรื่องในปีนี้ เพราะคำร่ำลือที่ใคร ๆ ก็บอกว่าดีงามจริง ไม่ว่าจะเป็นสื่อไทยหรือสื่อนอกต่างพูดเป็นเสียงเดียวกัน และแล้วโอกาสเล็ก ๆ นั้นก็ได้มาถึง ทำให้มีโอกาสได้ดู "Flow" หนังแอนิเมชันสรรพสัตว์ไร้บทพูด สัญชาติลัตเวีย ที่กล้าพูดได้เลยว่านี่คือหนังที่เข้าไปอยู่ความประทับใจของเราอีกเรื่องหนึ่งในปีนี้ไปเรียบร้อยแล้ว

Flow เป็นเรื่องราวของ แมวดำตัวน้อย, ลีเมอร์, สุนัขลาบราดอร์, คาปิบารา และ นก พวกมันกำลังกังวลเกี่ยวกับระดับน้ำที่สูงเพิ่มขึ้นบนโลกใบเดิมที่มันอาศัยอยู่ พวกมันไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องร่วมมือกันเพื่อเผชิญหน้ากับความทุกข์ยากที่กำลังจะเกิดขึ้นอยู่ตรงหน้า โดยที่ไม่มีทางล่วงรู้เลยว่าโลกใบนี้จะเกิดอะไรขึ้นต่อไปอีก

นี่คือหนังแอนิเมชันที่เรียกเสียงฮือฮาได้ตั้งแต่เปิดตัวฉายในเทศกาลหนังเมืองคานส์ 2024 ที่ผ่านมา พร้อมทั้ง 3 คว้ารางวัลยอดเยี่ยมจาก Annecy 2024 เวทียิ่งใหญ่ของวงการแอนิเมชันระดับโลก นี่คือผลงานใหม่ของผู้กำกับชาวลัตเวียน "กินต์ ซิลบาโลดิส" ที่ถือว่ากลับมาทำงานแนวถนัดของเขาอีกครั้ง หลังจากที่แจ้งเกิดไปกับหนังแอนิเมชันไร้เสียง อย่าง Away ไปเมื่อปี 2019 ที่ผ่านมา

แน่นอนว่าเขาสร้างและร่วมเขียนบทหนังเองเหมือนเคย อีกทั้งยังรับหน้าที่ในหลาย ๆ ภาคส่วนเองในผลงานชิ้นนี้ ไม่ว่าจะเป็น ตัดต่อหนังเอง กำหนดมุมภาพเอง ออกแบบโปรดักชันเอง ประพันธ์เพลงประกอบเอง และแน่นอนว่าเขาต้องอำนวยการสร้างหนังเรื่องนี้ด้วยตัวเองอยู่แล้ว ทำให้งานในทุกส่วนแทบจะออกมาจากฝีมือของเขาแบบล้วน ๆ เลย

แต่ถึงแม้ว่า Flow จะเป็นหนังที่ไม่มีบทพูดเลยสักประโยคเดียว มีเพียงเสียงของธรรมชาติกับเสียงร้องตามปกติของสัตว์ต่าง ๆ เท่านั้น แต่หนังกลับไม่มีปัญหาใด ๆ ในส่วนของการเล่าเรื่องและบทหนังเลย เพราะกลายเป็นว่าหนังใช้เสน่ห์ภาษาสากลของสิ่งมีชีวิตในการร้อยเรียงเรื่องราวไปเรื่อย ๆ ชนิดที่ดูได้เพลิน ทำให้คนดูรู้ถึงสถานการณ์ในลักษณะที่ตีความแตกต่างตามความเข้าใจส่วนตัวกันไป

อีกทั้งเส้นเรื่องของ Flow ยังคงค่อนข้างชัดเจนดีกับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่ใส่เข้ามา แม้ว่าจะยังมีบางจุดบางตอนที่เป็นเนื้อหาเชิงสัญลักษณ์ที่ทำให้ต้องมีการวิเคราะห์และตีความไปสักหน่อย แต่ก็นับว่าหัวใจหลักที่หนังต้องการสื่อสารยังแข็งแรงดีมากอยู่ กลายเป็นหนังที่ปล่อยให้คนดูปล่อยจอยปล่อยอารมณ์ไปกับสิ่งตรงหน้าได้อย่างแท้ทรู กับสตอรี่ที่ปั้นขึ้นมาค่อนข้างสนุกอย่างน่าพอใจ

ในแง่งานสร้างและโปรดักชันก็ถือว่าน่าพอใจ นี่อาจจะไม่ใช่แอเมชันสามมิติแบบงดงามตามสไตล์สตูดิโอใหญ่ แต่หนังก็เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ในลายเส้นลายวาดได้อย่างน่าลุ่มหลง งานออกแบบค่อนข้างน่าประทับใจดี โดยเฉพาะการสร้างแวดล้อมต่าง ๆ ที่เหมือนจะไม่ละเอียด แต่กลับใส่ใจจุดเล็ก ๆ น้อย ๆ กระทั่งจุดสะท้อนของผืนน้ำเลยทีเดียว และงานเพลงที่ผู้กำกับประพันธ์เองก็โดดเด่น และรู้จังหวะกับสตอรี่ที่เข้ากันได้ด้วยดี

อีกทั้งงานสร้างยังสามารถบิ้วท์ความผูกพันและเสน่ห์ของตัวละครหลัก ๆ ของเรื่องได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะเจ้าแมวดำตัวน้อยที่เป็นคาแรกเตอร์หลักในการดำเนินเรื่องราวทั้งหมด เป็นตัวละครที่ไม่ได้ออกแบบให้ทรงเสน่ห์ขนาดนั้น แต่เชื่อว่าคนดูน่าจะถูกเจ้าตัวนี้ตกได้เป็นแทบ ๆ เพราะผู้สร้างสามารถเก็บรายละเอียดพฤติกรรมสัตว์ หยอดใส่ความน่ารักน่าเอ็นดูเข้ามาได้ครบถ้วน เรียกว่าทาสแมวและคนรักสัตว์จะต้องเพลินกับตรงนี้เป็นอย่างมาก

ดังนั้นโดยสรุปแล้ว Flow เป็นหนังแอนิเมชันที่ค่อนมีผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจเป็นอย่างยิ่ง ทุก ๆ องค์ประกอบของหนังเรื่องนี้แข็งแรงดีมาก ถึงแม้ว่าจะไม่มีไดอะล็อกบทพูดเลยสักคำเดียวก็ตาม แต่หนังก็สามารถประคับประคองและสร้างความยิ่งใหญ่ในตัวมันเองได้อย่างมีประสิทธิผล สมราคาคุยการเป็นหนังการ์ตูนเบอรต้น ๆ ในรอบปีนี้เสียจริง และไม่แปลกใจเลยที่ถูกมองไว้ว่าเป็นหนึ่งในตัวเต็งเวทีรางวัลต่าง ๆ ในปีนี้

Flow ได้ถูกส่งเป็นตัวแทนของประเทศลัตเวีย ชิงชัยสาขาภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยมในออสการ์ 2025 ที่จะถึงนี้ และหนังก็อาจจะมีโอกาสได้ชิงสาขาภาพยนตร์แอนิเมชันยอดเยี่ยมอีกแขนงด้วย นี่คือหนังที่อยากจะแนะนำให้ชมกันมาก ๆ ในรอบปีนี้ โดยหนังได้ฉายรอบพิเศษที่ House สามย่าน ระหว่างวันที่ 15-17 พฤศจิกายนนี้ แต่หลังจากนั้นคงต้องรอฟังข่าวต่อไปอีกทีว่าจะได้มีโอกาสได้นำมาฉายอย่างเป็นทางการทั่วประเทศเมื่อใด