Westworld เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งหนังไซไฟ ระทึกขวัญ ที่มาพร้อมประเด็นที่ว่าด้วยอันตรายของ AI หรือความน่าสะพรึงกลัวของหุ่นยนต์ ซึ่งความแปลกใหม่ของหนังเรื่องนี้ ก็ได้ต่อยอดให้ในปัจจุบันได้มีการสร้างซีรีส์ทีวี ที่ตอนนี้กำลังฉายซีซั่นที่ 3 ทางช่อง HBO แต่สำหรับโพสต์นี้เราจะขอพูดถึงเวอร์ชั่นภาพยนตร์ของหนังเรื่องนี้กัน สำหรับเรื่องราวของ Westworld จะว่าด้วยโลกอนาคต ที่ได้มีสวนสนุกแห่งหนึ่ง ที่ได้มีการสร้างโลกจำลองให้ผู้เล่นได้เข้าไปอยู่ในโลกเหล่านั้นจริง ๆ โดยมีการแบ่งออกเป็นโซนต่าง ๆ เช่น โซนยุคโรมัน และยุคโซนตะวันตกของคาวบอย หรือปลายศตวรรษที่ 19 หนังนำเสนอเหตุการณ์ผ่านตัวลร ปีเตอร์ มาร์ติน(ริชาร์ด เบนจามิน) และจอห์น เบลน(เจมส์ โบรลิน) สองเพื่อนรักที่เดินทางมาผจญภัยยังโซนตะวันตก ในช่วงแรกพวกเขาได้ใช้ชีวิตในโลกสวนสนุกนี้อย่างเต็มที่ ก่อนที่ทั้งคู่จะพบกับเหตุการณ์ไม่คาดคิด เมื่อหุ่นยนต์คาวบอยตนหนึ่ง ได้ออกตามล่าพวกเขา ในขณะเดียวกันหุ่นยนต์ส่วนอื่น ๆ ของสวนสนุกก็เริ่มมีพฤติกรรมแปลกไป จนยากเกินที่จะควบคุม ความโกลาหลครั้งใหญ่ในสวนสนุกแห่งนี้ก็เริ่มขึ้นก่อนอื่นต้องขอชื่นชมต่อไอเดียอันแสนสร้างสรรค์ของ ไมเคิล คริชตัน ผู้กำกับ และเขียนบทในเรื่องนี้ ที่นอกจากนี้เขายังเป็นคนเขียนหนังสือ Jurassic Park อีกด้วย ซึ่งใน Westworld เขาได้เติมแต่งจินตนาการของคนที่หลงไหลในการผจญภัย ให้ออกมาเป็นรูปธรรมอย่างน่าชื่นชม เพราะหากย้อยกลับไปในยุคที่หนังเรื่องนี้เริ่มฉาย มันเป็นช่วงเวลาที่หนังพีเรียต และหนังตะวันตกหลาย ๆ เรื่องกำลังเป็นที่นิยม และสิ่งที่ คริชตัน มอบให้กับคนดูคือ การพาคนดูร่วมท่องเข้าไปในโลกของภาพยนตร์ที่พวกเขาชื่นชอบ โดยถ่ายทอดผ่านมุมมองของสองตัวละครหลักของเรื่องในช่วงครึ่งแรกของหนัง เป็นการพาคนดู เข้าไปผจญภัยในโลกของสวนสนุกอันแสนน่าตื่นตาตื่นใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการจำลองโลกตะวันตกที่สมจริง ทั้งผู้คน บรรยากาศ สภาพแวดล้อม หนังได้ถ่ายทอดความพิเศษของ Westworld ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ของสองตัวละครออกมาได้น่าติดตาม ไม่ว่าจะเป็นการเข้าบาร์สั่งเหล้าดื่ม การได้ท้าดวลปืนกับคาวบอย การได้ขี่ม้าผจญภัยไปในที่ต่าง ๆ ไปจนถึงการได้มีอะไรกันกับโสเภณี(ที่เป็นหุ่นยนต์) โดยนอกจากนี้หนังได้ตัดสลับให้เราได้ส่วนอื่น ๆ ของสวนสนุก ไม่ว่าจะเป็น การถ่ายทอดมุมมองของสวนสนุกที่เป็นยุคโรมัน และการเผยให้เห็นวิธีการปฏิบัติการณ์ของเหล่าเจ้าหน้าที่ของสวนสนุกที่ดูแลความสงบเรียบร้อยความสนุกของ Westworld เรียกได้ว่ามาในสูตรเดียวกับ Jurassic Park เลยก็ว่าได้ เพราะหลังจากที่ คริชตัน ได้พาคนดูไปพบความมหัศจรรย์ของสวนสนุกที่เรารังสรรค์ขึ้นมาแล้ว สิ่งต่อไปที่จะเกิดชึ้นในสวนสนุกของเขาก็คือ การถ่ายทอดอันตราย และความน่ากลัวของสถานที่เหล่านี้ออกมาได้อย่างน่าสะพรึง เช่นใน Jurassic Park ที่ไดโนเสาร์ได้หลุดจากการควบคุม และเริ่มทำร้ายผู้คน ในขณะที่ Westworld คริชตัน ได้ถ่ายทอดถึงอันตรายแฝงของบรรดาหุ่นยนต์ตัวละครในสวนสนุก ที่ได้หันมาทำร้ายผู้เล่น และทำลายบรรดาผู้สร้างของตัวเอง ซึ่งความน่าสะพรึงกลัวของหุ่นยนต์ในหนังเรื่องนี้ เรียกได้ว่าน่ากลัวยิ่งกว่าเหล่า ไดโนเสาร์หลายเท่าหนังสามารถถ่ายทอดฉากไล่ล่าระหว่างหุ่นยนต์ และตัวเอก ออกมาได้ชวนลุ้นระทึก จนชวนให้นึกถึง Terminator หรือหนังคนเหล็กที่เราคุ้นเคย โดยเฉพาะความเหนือชั้นของหุ่นยนต์ ไม่ว่าจะเป็นการนำเสนอความสามารถที่แม่นยำ รวดเร็วกว่ามนุษย์ และความอึดตายยาก แต่แม้ว่าหนังจะมีครึ่งหลังที่ออกไปทางไซไฟ ระทึกขวัญ แต่หนังก็ยังไม่ทอดทิ้งความเป็นหนังตะวันตกไปหมดซะทีเดียว หนังยังคงความเป็นหนังคาวบอยเอาไว้ไม่ว่าจะเป็นฉากขี่ม้าไล่ล่า หรือฉากดวลปืนสุดคลาสสิก Westworld เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์ที่เปี่ยมไปด้วยจินตนาการอันล้ำเลิศของผู้สร้าง โดยเฉพาะโลกสวนสนุกของ ไมเคิล คริชตัน ที่ถ่ายทอดออกมาในอารมณ์ What If? ได้อย่างน่าสนใจ หนังยังเคารพไว้ซึ่งความเป็นหนังตะวันตก ในขณะเดียวกันก็ได้แฝงประเด็นของ AI หรือความน่ากลัวของหุ่นยนต์ ออกมาได้สมจริง ชวนติดตาม สำหรับใครที่สนใจ แต่ยังไม่เคยดูซีรีส์เรื่องเดียวกันนี้ของช่อง HBO การดูหนังต้นฉบับก่อนถือว่าเป็นการทำการบ้านที่ดีไม่น้อย Cr. ภาพ Westworld Official Trailer