รีเซต

[รีวิวซีรีส์] Shadow and Bone Season 2 – ปมเรื่องอัดแน่น แฟนตาซีข้นคลั่ก

[รีวิวซีรีส์] Shadow and Bone Season 2 – ปมเรื่องอัดแน่น แฟนตาซีข้นคลั่ก
แบไต๋
20 มีนาคม 2566 ( 09:30 )
170

หลังปล่อยให้รอมา 2 ปีในที่สุด ‘Shadow and Bone’ อีกหนึ่งซีรีส์แฟนตาซีเรือธงก็ได้ฤกษ์ลงสตรีมมิงกันไปแล้ว ซึ่งตัวซีรีส์ก็กำลังตามติดหายใจรดต้นคอแชมป์เก่าอย่าง ‘The Glory’ มาอยู่อันดับ 2 ในสุดสัปดาห์นี้ได้อย่างสมศักดิ์ศรี คราวนี้การผจญภัยของอาลีนา สตาร์คอฟ ผู้เรียกสุริยะกับการพยายามทุกทางเพื่อโค่นจอมมารอย่างนายพลคีรีแกนจะคุ้มค่าการรอคอยหรือไม่ Beartai Buzz รีวิวภาพรวมของซีรีส์ในซีซันนี้มาให้แล้ว

เรื่องราวจะเดินหน้าต่อจากซีซันที่แล้ว คราวนี้ อาลีนา สตาร์คอฟ (รับบทโดย เจสซี เหมย ลี, Jessie Mei Li) ที่ตกเป็นเป้าการตามล่าของราฟก้าจำต้องลี้ภัยไปกับ มัลเย็น โอเรตเซฟ (รับบทโดย อาร์ชี เรอโนซ์, Archie Renaux) นายทหารและคนรักหนุ่มหนีการตามล่าและรวบรวมไพร่พลเพื่อต่อสู้กับ นายพลคีรีแกน (รับบทโดย เบน บาร์นส์, Ben Barnes) ที่พยายามแผ่อำนาจของแดนพยับเงาเพื่อครองโลก

อาลีนากับคีรีแกนได้พบนิโคไล แลนท์ซอฟ (รับบทโดย แพทริก กิบสัน, Patrick Gibson) สลัดหลวงที่อาสาพาพวกเขากลับคาฟก้าเพื่อหยุดยั้งการแผ่ขยายของแดนพยับเงา ด้านกลุ่มโครว์ กบฏที่เคยช่วยเหลืออาลีนาก็กำลังดำเนินแผนการโค่นเพ็กกา โรลลินส์ (รับบทโดย ดีน เลนน็อกซ์ เคลลีย์ , Dean Lennox Kelly) มาเฟียที่เคยสร้างแผลเป็นวัยเด็กให้กับ คาซ (รับบทโดย เฟรดดี คาร์เตอร์, Freddy Carter) ส่วน อิเนจ กาห์ฟา (รับบทโดย อมิตา ซูมาน, Amita Suman) มือมีดบินก็ต้องต่อสู้กับอดีตที่ตามหลอกหลอนเธอ

โดยคาซและพรรคพวกได้รับความช่วยเหลือจาก นีนา เซลนิก (รับบทโดย แดเนียล กัลลิแกน, Danielle Galligan) ผู้บงการจิตที่ทำทุกทางเพื่อช่วย แมทไธอัส (รับบทโดย คาลาฮาน สคอกแมน, Calahan Skogman) คนรักของเธอออกมาจากคุกแบล็กเกตส์ ในขณะเดียวกัน คิต ยัง (รับบทโดยเจสเปอร์ ฟาเฮย์, Jesper Fahey) มือปืนประจำกลุ่มก็เริ่มสัมผัสกับความรักครั้งใหม่กับ ไวแลน เฮนดริคส์ (รับบทโดยแจ็ก วูลฟ์, Jack Wolfe) นักเคมีที่ประดิษฐ์ระเบิดให้คาซในภารกิจนี้

สำหรับซีซันสอง เอริค ไฮเซอร์เรอร์ (Eric Heisserer) กลับมาเล่นใหญ่กว่าเดิมด้วยความมั่นใจทั้งฉากแอ็กชันแฟนตาซีและฉากบู๊ต่าง ๆ แบบจัดเต็ม แถมคราวนี้ยังขยายเรื่องราวปลีกย่อยในหนังสือมาบอกเล่าเพื่อซีนให้ตัวละครที่เคยเป็นเหมือนสีสันให้ซีซันแรกได้มีโอกาสโดดเด่นขึ้นมาซึ่งก็ต้องยอมรับนะครับว่าเรื่องราวในซีซันนี้มีความหลากหลายและเข้มข้นไม่แพ้กันเลย

แต่นั่นก็ต้องแลกมาด้วยโครงเรื่องหลักที่เหมือนจะดำเนินช้าเกินไปเสียหน่อยจนคนที่ตั้งหน้าตั้งตารอการดวลพลังเวทระหว่างอาลีนากับนายพลคีรีแกนอาจมีเบือนหนึก่อนจะถึงฉากสำคัญได้ แต่ก็พอเข้าใจได้เพราะระหว่างทางกว่าอาลีนาจะเข้าถึงตัวคีรีแกนได้ต้องผ่านทั้งเรื่องการแต่งงานเพื่อการเมืองในการรวบรวมกำลังพลและยังมีเรื่องรักกุ๊กกิ๊กระหว่างเธอกับมัลเย็นและนำไปสู่พลอตรักสามเส้ากับนิโคไล แลนท์ซอฟ

ยังดีที่ไฮเซอร์เรอร์ไม่กั๊กการผจญภัยสุดตื่นเต้นของอาลีนาไว้เพราะพอซีรีส์ดำเนินไปครึ่งทาง พลอตหลักก็เดินหน้าอย่างรวดเร็วมีหลายเหตุการณ์ที่กระตุ้นให้เรื่องราวสนุกขึ้น และแน่นอนว่างานวิช่วลเอฟเฟกต์สุดอลังการก็ไม่ถูกกั๊กเช่นเดียวกัน

ส่วนงานเทคนิคต้องบอกว่า ‘Shadow and Bone’ ซีซันแรกก็สร้างมาตรฐานไว้สูงอยู่แล้ว และงานในซีซันสองก็เห็นได้ชัดว่าไฮเซอร์เรอร์เองก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เวลา 2 ปีที่หมดไปถูกนำไปพัฒนางานวิช่วลจนได้มาตรฐานที่โดยภาพรวมเชื่อว่ายังสามารถนำไปฉายโรงภาพยนตร์ได้เลย และอยากจะบอกว่าใครที่สมัครแพ็คเกจ 4K Ultra HD ของ Netflix ไว้จะฟินมาก เพราะงานภาพของซีรีส์มีให้โชว์ประสิทธิภาพการแสดงผลของจอทีวีทั้งเรื่องตั้งแต่สีสันของเสื้อผ้าการจัดแสดงไปจนถึงวิช่วลเอฟเฟกต์ต่าง ๆ ที่ทำได้อย่างยอดเยี่ยม

สรุปแล้ว ‘Shadow and Bone’ ในซีซันที่สองยังคงเป็นซีรีส์แฟนตาซีที่คงความสนุกไว้ได้ไม่แพ้กับซีซันแรก แต่ความสดใหม่และปมของเรื่องราวที่มากขึ้นอาจทำให้การชมซีรีส์ใน 4 ตอนแรกต้องอาศัยความอดทนเสียหน่อย แต่ไม่ใช่ว่าไม่สนุกนะครับเพราะมันก็ยังมีฉากแอ็กชันแฟนตาซีสุดตื่นเต้นคอยเลี้ยงอารมณ์คนดูอยู่ตลอด เลยทำให้ภาพรวมของซีรีส์เองก็ยังอยู่ในระดับที่น่าพอใจ