สวัสดีผู้อ่านทุกท่านจ้า หายไปนานเลย เนื่องด้วยผู้เขียนมีเรื่องส่วนตัวที่ต้องรับผิดชอบมากมายเลยไม่ได้มีเวลามาเขียนบทความเท่าไหร่ แต่ที่มาเขียนบทความก็เพราะอนิเมะเรื่อง Sound! Euphonium กำลังมีหนังโรงที่จะฉายในวันที่ 30 พฤศจิกายนนี้นี่เอง จะใช้ชื่อภาคว่า Sound! Euphonium: Ensemble Contest ผู้เขียนก็เลยอยากจะมาแนะนำ รีวิวสักหน่อยว่าเป็นยังไง เผื่อใครที่อยากจะติดตามอนิเมะเรื่องนี้แต่ไม่รู้จะเริ่มยังไงก็มาอ่านบทความนี้กันได้ บทความนี้ไม่มีการสปอยเนื้อหาภายในเรื่องนะ จะเป็นเล่าความรู้สึกมากกว่า เพราะอย่างงั้นผู้อ่านสบายใจได้เลยจ้า นี่เป็นหนึ่งในอนิเมะที่ผู้เขียนชอบอีกเรื่อง ด้วยการเล่าเนื้อหาที่มันตรงกับชีวิตจริงด้วย มีหลากหลายความรู้สึกมากภายในเรื่องนี้อย่างแน่นอน ยิ่งใครอินกับแนวดนตรีอยู่แล้วจะยิ่งดูเรื่องนี้แล้วเข้าใจความรู้สึกมากยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน ผู้เขียนเองก็ห่างจากการรีวิวอนิเมะไปนานมากเลย ในบทความนี้จะเป็นการรีวิว Sound Euphonium ทุกภาครวมไปถึงภาคที่จะฉายในโรงภาพยนต์นี้ด้วย ถ้าพร้อมอ่านบทความกันแล้วก็ไปกันเลยSound! Euphonium (ซาวน์ ยูโฟเนียม) หรือชื่อภาษาญี่ปุ่น Hibike! Euphonium (ฮิบิเคะ ยูโฟเนียม) เป็นอนิเมะแนวดนตรี จะเน้นเป็นวงดุริยางค์ ธีมเรื่องจะเป็นแนวดนตรี ดราม่า ในรั้วโรงเรียน ศิลปะการแสดง ผลิตโดย สตูดิโอ Kyoto Animation อนิเมะได้ดัดแปลงมาจากนิยาย ปัจจุบันอนิเมะเรื่องนี้มีทั้งแบบที่ฉายเป็นตอนและแบบภาพยนตร์ มาดูกันว่าแต่ละภาคจะเป็นยังไงบ้าง ผู้เขียนจะเรียงลำดับเลยว่าต้องดูยังไงในแต่ละเรื่องๆ ไปดูกันเลย แต่ก่อนอื่นก็ขอเล่าเรื่องย่อก่อนนะเรื่องย่อคุมิโกะ โอมาเอะ ได้เข้ามาที่โรงเรียนคิตะอุจิเพื่อที่จะลืมเรื่องราวในอดีตของเธอที่เคยเล่นดนตรีอย่างยูโฟเนียมมาก่อน อยากจะเริ่มต้นใหม่ จนมาเจอกับ 2 เพื่อนใหม่อย่าง ฮาสึกิ คาโต้ และ แซฟไฟร์ คาวาชิมะ และได้มาเยี่ยมชมวงดุริยางค์ที่โรงเรียนใหม่แห่งนี้ แต่แล้วตัว คุมิโกะ ก็ต้องมาพัวพันกับการเล่นยูโฟเนียมเหมือนดั่งในอดีตอีกครั้ง และได้มีอาจารย์คนใหม่เข้ามาประจำที่วงดุริยางค์นี้ก็คือ โนโบรุ ทากิ ตัวเขาได้ถามสมาชิกวงดุริยางค์ทั้งหมดว่าจะเล่นดนตรีอย่างสบายใจหรือต้องฝึกซ้อมอย่างหนักเพื่อไปในระดับประเทศและคำตอบก็คือ ต้องไปสู่ระดับประเทศ และทำให้ตัวคุมิโกะก็อยากจะก้าวข้ามอดีตที่เคยอยากจะลืมในตอนที่เล่นดนตรีให้ได้ และเริ่มต้นใหม่กับเป้าหมายเดิมอีกครั้ง ภายในเรื่องก็จะเจอความกดดัน อุปสรรค เรื่องราวดราม่าที่จะเจอภายในเรื่อง รวมไปถึงการเจอกับเพื่อนในอดีตของ คุมิโกะ อย่าง เรนะ โคซากะ ที่ได้มาที่โรงเรียนคิตะอุจิเช่นกัน นำไปสู่เรื่องราวที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ ตัวละครหลักภายในเรื่อง Sound! EuphoniumKumiko Oumae (ให้เสียงพากย์โดยคุณ Tomoyo Kurosawa)ตัวเอกหลักของเรื่องที่ย้ายมาที่โรงเรียนคิตะอุจิเพื่อที่จะใช้ชีิวิตใหม่ แต่ก็ได้เข้ามาที่วงดุริยางค์และก็ได้เป่ายูโฟเนียมเหมือนที่เคยเป็นในอดีต ใจจริงเธออยากเป่าทรอมโบนแต่เหมือนโชคชะตาจะให้เธอได้เล่นยูโฟเนียมมากกว่า Reina Kousaka (ให้เสียงพากย์โดยคุณ Chika Anzai)เคยอยู่โรงเรียนเดียวกับคุมิโกะตอนช่วง ม.ต้น ย้ายมาโรงเรียนเดียวกับคุมิโกะ เพราะ มีเป้าหมายอะไรบางอย่างอยู่ มีพ่อเป็นนักดนตรีชื่อดัง เธออยากจะเป็นคนพิเศษเลยจริงจังกับการเล่นดนตรีอยู่ตลอดๆ เครื่องดนตรีประจำตัวเธอคือ ทรัมเป็ตHazuki Kato (ให้เสียงพากย์โดยคุณ Ayaka Asai)เพื่อนร่วมชั้นของคุมิโกะ เป็นมือใหม่ในด้านดนตรี เธอตั้งใจที่จะเล่นอย่างเต็มที่แม้เป็นมือใหม่ เครื่องดนตรีประจำตัวคือทูบาSapphire Kawashima (ให้เสียงพากย์โดยคุณ Moe Toyota)เพื่อนร่วมชั้นของคุมิโกะ บุคลิกเป็นบวก น่าเอ็นดู มีชื่ออีกชื่อว่า "มิโดริ" เครื่องดนตรีประจำตัวคือ ดับเบิ้ลเบส บางงานก็เล่น คอนทร้าเบส บางงานก็เล่น เบสตามรูปที่เห็นจ้าAsuka Tanaka (ให้เสียงพากย์โดยคุณ Minako Kotobuki)รุ่นพี่สาวสวยเล่นตำแหน่งยูโฟเนียมเช่นเดียวกับคุมิโกะ เป็นรองประทานชมรมดุริยางค์ มีเอกลักษณ์ชัดเจน คือ แว่นของเธอ ตอนไหนไม่ใส่แว่นจะดูไม่ออกเลยว่าเป็นเธอเปิดด้วย "Sound! Euphonium ภาค 1" หรือจะดู "Sound! Euphonium the Movie: Welcome to the Kitauji High School Concert Band" ก็ได้เหมือนกันSound! Euphonium ภาค 1 ที่เป็นฉบับดูรายตอนมีทั้งหมด 13 ตอน + ตอนพิเศษที่จะดูหรือไม่ดูก็ได้ เป็นการเล่าขยายส่วนในตอนที่ 13ความรู้สึกที่ผู้เขียนได้ดูภาค 1 เป็นรายตอน ก็รู้สึกว่าชอบทุกอย่างมากๆ เนื้อเรื่องที่ดี รวมไปถึงเรื่องราวการคัดเลือกสมาชิกที่จะเล่นในวันที่ไปแข่งขัน ซึ่งไม่ใช่ทุกคนที่จะได้เข้าไปเล่นต่อหน้าผู้คนมากมาย จะต้องผ่านการคัดเลือกจากอาจารย์ด้วย ผ่านการคัดเลือกก็ต้องมีการแข่งกันว่าใครจะเหมาะสมในการเล่นตำแหน่งสำคัญในการแข่งขันบ้าง ภาคแรกจะเป็นการปูแบบเหมือนเป็นด่านแรกมากกว่าในมุมมองผู้เขียน แต่ถึงเป็นด่านแรกก็ทำให้ผู้เขียนรู้สึกประทับใจมากทั้งตัวละครที่ต้องฝึกซ้อมเพื่อที่จะคว้าสิ่งที่อยู่ตรงหน้าให้ได้ สิ่งที่ดีสำหรับดูรายตอนก็คือ เราอยากจะรู้ว่าตอนหน้าอะไรจะเกิดขึ้นบ้าง เป็นอะไรที่อยากจะติดตามต่อๆ ไปคะแนน: 10/10Sound! Euphonium the Movie: Welcome to the Kitauji High School Concert Band (มูฟวี่ที่สรุปเนื้อหาภายในภาคแรกในรวดเดียวจบ)จะเป็นการสรุปรวมภาค 1 ภายในรวดเดียวจบเลย แต่จะไม่ละเอียดเท่าดูรายตอน แต่ภาคนี้จะเน้นส่วนสำคัญภายในเรื่องที่จะเข้าสู่ภาค 2 ต่อไป สิ่งที่เห็นชัดเลย คือ ถ้าได้ดูแบบรายตอนมาจะรู้ว่าบทบางตัวละครถูกตัดไปเลย และเขาจะเน้นแบบสำคัญจริงๆ ซึ่งมีปัญหาไหมที่บางอย่างถูกตัดจากภาครายตอนก็ต้องบอกว่าไม่นะสำหรับผู้เขียน ซึ่งผู้อ่านสามารถจบเรื่องราวภาคแรกภายใน 1-2 ชั่วโมง ได้เลยหากดูแบบนี้นะ หลังจบผู้เขียนก็รู้สึกประทับใจเหมือนกัน แต่ส่วนตัวผู้เขียนก็จะรู้สึกไปอยู่ที่ตัวอนิเมะที่เป็นรายตอนมากกว่า แต่ถ้ารีบดูแบบอยากจบเร็วๆ ก็ดูแบบภาพยนตร์ชื่อนี้ได้เลยจ้า ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้อ่านว่าจะเลือกยังไง คะแนน 8/10เพลงเปิดและปิด Sound! Euphonium ภาค 1เพลงเปิด: DREAM SOLISTER - TRUEhttps://www.youtube.com/watch?v=Gf_jJ9dpcVkเพลงปิด: Tutti! - Tomoyo Kurosawa, Ayaka Asai, Moe Toyota & Chika Anzaihttps://www.youtube.com/watch?v=zOgRFAxQJjUเพลงประกอบ Sound! Euphonium the Movie: Welcome to the Kitauji High School Concert BandDREAM SOLISTER (Movie Ver.) - TRUE https://www.youtube.com/watch?v=_l5P3INMTSMต่อด้วย "Sound! Euphonium ภาค 2" หรือจะดู "Sound! Euphonium the Movie: May the Melody Reach You!" ก็ได้เหมือนกันSound! Euphonium ภาค 2 ที่เป็นฉบับดูรายตอนมีทั้งหมด 13 ตอน ภาคนี้จะเน้นการเล่าเรื่องราวของรุ่นพี่สมาชิกวงดุริยางค์ที่ใกล้จะจบออกไปจากโรงเรียนคิตะอุจิ เรื่องจะเน้นที่ตัวรุ่นพี่ของชมรมอย่าง อาสึกะ ทานากะ กับเรื่องราวเบื้องหลังที่คาดไม่ถึงมากมายเกี่ยวกับตัวเธอและตัวคุมิโกะที่ต้องมาเกี่ยวข้องด้วย เพราะ เธอทั้งคู่เล่นยูโฟเนียมด้วยกันทั้งคู่ และปัญหาของวงดุริยางค์ที่เข้มข้นขึ้น ความรู้สึกของผู้เขียนหลังดูก็เป็นภาคที่ผู้เขียนจะจดจำมากที่สุดแล้วในบรรดาทุกภาคของอนิเมะเรื่องนี้ ด้วยเรื่องที่เล่าเรื่องแบบที่เราอยากจะรู้ว่าเรื่องราวจะลงเอยอย่างไร ความลับที่ซ่อนไว้ เบื้องหลังที่คาดไม่ถึงของตัวละคร ยกระดับจากภาคก่อนได้ดีเยี่ยม จึงไม่แปลกที่ผู้เขียนจะรู้สึกมีภาพจำของภาคนี้เยอะกว่า ตัวละครก็มีการพัฒนาการและมีภูมิหลังที่ช่วยให้ตัวละครเพิ่มมิติให้น่าค้นหามากขึ้นด้วย รวมไปถึงเพลงภาคนี้ที่ผู้เขียนชอบมากกว่าภาคแรกด้วยนะ และหลายคนก็มีคนชอบภาคนี้เหมือนผู้เขียนมากเหมือนกันคะแนน 10/10Sound! Euphonium the Movie: May the Melody Reach You! (มูฟวี่ที่สรุปเนื้อหาภายในภาค 2 ในรวดเดียวจบ)แม้จะเป็นภาคที่สรุปเนื้อหารวดเดียวจบแต่ก็ตัดทอนเนื้อหาได้ดีมากเช่นกัน แทบจะไม่มีอะไรตกหล่น มีฉากที่ถูกตัดจากภาคก่อนแต่ก็สรุปได้ดีเลย เรื่องก็จะเน้นเล่าไปที่ตัว อาสึกะ ทานากะ แทบจะเกือบ 100% เลย ต่างกับภาค 2 ที่เป็นรายตอนที่ยังมีเนื้อเรื่องอื่นที่ให้เราได้ดูบ้าง แต่ภาคนี้โฟกัสตัวละครเดียวเลย เพื่อให้เข้าใจง่ายและสามารถไปตามต่อในภาคต่อไปเร็วขึ้นได้ ความรู้สึกหลังดูของผู้เขียนก็รู้สึกชอบมากเหมือนกัน ชอบทั้ง 2 แบบเลย ทั้งแบบรายตอนกับสรุปรวดเดียว ผู้เขียนก็ดูมูฟวี่นี้เพราะส่วนนึงคือทบทวนความจำด้วย แต่หลังดูจบก็ประทับใจมาก ความรู้สึกแทบไม่ต่างจากการดูแบบรายตอนเลย อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้อ่านเลยว่าจะดูยังไง ถ้าอยากดูเรื่องราวเต็มให้ดูรายตอน แต่ถ้าจะดูรวดเดียวให้ดูมูฟวี่เรื่องนี้ได้เลยสรุปรวดเดียว แต่ส่วนตัวผู้เขียนอยากให้เน้นไปดูแบบรายตอนมากกว่า เพราะ มีเรื่องที่ตัวมูฟวี่ไม่ได้ใส่เข้ามาด้วย แต่ก็ตามที่ผู้อ่านสะดวกเลยจ้าคะแนน 9/10เพลงเปิดและปิด Sound! Euphonium ภาค 2เพลงเปิด: Soundscape - TRUEhttps://www.youtube.com/watch?v=B_3m8EPJkcMเพลงปิด: Vivace! - Tomoyo Kurosawa, Ayaka Asai, Moe Toyota & Chika Anzaihttps://www.youtube.com/watch?v=r2lNo4KwGHsเพลงประกอบ Sound! Euphonium the Movie: May the Melody Reach You!Soundscape (Movie Ver.) - TRUEhttps://www.youtube.com/watch?v=v8Iccj1ovnA"Liz and the Blue Bird" ภาคมูฟวี่ที่จะเป็น Side Story จะเลือกดูหรือไม่ดูก็ได้ Liz and the Blue Bird เป็นมูฟวี่ที่จะเป็นหลังเหตุการณ์ภาค 2 ได้ผ่านไปและสมาชิกได้เลื่อนชั้นปีกันรวมไปถึงการเปลี่ยนแปลงภายในสมาชิก เช่น ประธานชมรมใหม่ รองประทานชมรมใหม่ สมาชิกรุ่นใหม่เข้ามา และเรื่องราวจะดำเนินโดยตัวหลัก 2 ตัวละครที่เป็นรุ่นพี่สมาชิกชมรมปี 3 ที่ขึ้นมาจาก ปี 2 ก็คือ มิโซเระ โยโรยสุกะ กับ โนโซมิ คาซากิ ที่เป็นสองเพื่อนรักกัน เรื่องราวของทั้งสองก็มีเล่าในภาค 2 ด้วย แต่ภาคนี้จะเน้น 2 ตัวละครนี้เป็นหลัก Liz and the Blue Bird เป็นนิทานที่เรื่องราวดันไปตรงกับเรื่องราวความสัมพันธ์ของ 2 ตัวละครด้วย เป็นอีกหนึ่งมูฟวี่ที่ผู้เขียนเห็นหลายคนชอบกันมากรวมไปถึงผู้เขียนด้วย ผู้เขียนดูประมาณ 2 รอบ แม้ภาคนี้ไม่เกี่ยวกับเนื้อเรื่องหลักแต่ก็อิ่มเอมใจและสวยงามมาก และก็ลายเส้นตัวละครในภาคนี้ใช้คนละคนวาดกันนะ แต่ถึงอย่างงั้นก็ยังถ่ายทอดออกมาได้ดีมาก ทำให้ได้ข้อคิดมากมายเลย แนะนำให้ไปดูเองจะดีสุด ได้ซึมซับอารมณ์ บรรยากาศภายในเรื่องด้วย ผู้เขียนจะไม่สปอยเนื้อหาอะไรอยากให้ไปดูกันเองเน้อคะแนน 9.5/10ตัวละครหลักภายในเรื่อง Liz and the Blue BirdMizore Yoroizuka (ให้เสียงพากย์โดยคุณ Atsumi Tanezaki)รุ่นพี่นักเล่นโอโบที่บุคลิกเก็บตัว เงียบ ชอบซ้อมคนเดียว มาถึงห้องชมรมก่อนเพื่อน ถึงจะเงียบแต่ก็มีเพื่อน แค่เธอชอบเก็บตัว เป็นคนเงียบๆ แค่นั้นเองจ้าNozomi Kasaki (ให้เสียงพากย์โดยคุณ Nao Touyama)เพื่อนที่มิโซเระสนิทมาก มีเครื่องดนตรีประจำตัว คือ ฟลุต บุคลิกนิสัยต่างกับมิโซเระมากเพลงประกอบ Liz and the Blue BirdSongbirds - Homecomingshttps://www.youtube.com/watch?v=Q2_IGhNXq9s"Sound! Euphonium: Our Promise: A Brand New Day" เรื่องราวหลักต่อจากภาค 2เรื่องราวต่อจากภาค 2 เลย เรื่องจะดำเนินโดยตัว คุมิโกะ ตัวเอกของเรื่องเช่นเคย และเธอตอนนี้คือนักเรียนชั้นปี 2 และก็ต้องเจอกับสมาชิกใหม่กับการรับมือปัญหามากมายจากรุ่นน้อง และตัวละครหลักภายในภาคนี้ก็ต่างต้องรับมือกับรุ่นน้องที่ความคิดแตกต่างกันมากเช่นกันกับตัวคุมิโกะ ความรู้สึกหลังจากที่ผู้เขียนดูภาคนี้ก็คือเป็นภาคที่ได้เจอมุมมองหลากหลายมากขึ้น แต่ละคนก็มีความคิดที่ต่างกัน บางคนก็ซีเรียสมากเกินไปบ้าง บางคนก็คิดว่าพยายามไปแล้วจะได้อะไร อะไรประมาณนี้ แต่สุดท้ายแล้วไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็จงตั้งใจทำเป้าหมายให้สำเร็จ ต่อให้ใครจะมีข้อบกพร่องมากมายหลายอย่างแต่ก็ต้องยอมรับและค่อยๆ พัฒนาไปเรื่อยๆ ยังไงทุกคนไม่ใช่ว่าเป็นรุ่นพี่แต่จะเก่งกว่ารุ่นน้องซะทีเดียว นี่เป็นสิ่งที่ผู้เขียนได้มาหลังจากดู และก็มีการใส่เป็นสิ่งที่มาจาก "Liz and the Blue Bird" มาด้วย เนื่องด้วยเรื่อง "Liz and the Blue Bird" กับภาคนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกันเลย ภาคนี้ก็ยังใส่เทคนิคใหม่เพิ่มมาด้วยเน้อ เป็นเทคนิคประมาณภาพ 3 มิติ นี่เองจ้า คะแนน 9.5/10 เพลงประกอบ Sound! Euphonium: Our Promise: A Brand New DayBlast! - Truehttps://www.youtube.com/watch?v=FMln2YjLbIMSound! Euphonium: Ensemble Contestและมาถึงภาคที่กำลังฉายในโรงภาพยนตร์ในช่วงนี้ที่ผู้เขียนทำบทความอยู่ เป็นภาคที่จะปูทางไปยังภาค 3 ที่กำลังจะฉายในช่วงเดือนเมษายน ปีหน้า 2024 นี่เอง จากที่ผู้เขียนหาข้อมูลมาเกี่ยวกับภาคนี้ เป็นภาคที่จะดูหรือไม่ต้องดูก็ได้เหมือนกันและรอภาค 3 ได้เลย แต่ถ้าดูก็จะได้เรียนรู้เรื่องก่อนที่จะตามต่อในภาาคที่ 3 ซึ่งผู้เขียนที่ไปดู เพราะผูกพันกับอนิเมะเรื่องนี้ด้วย เป็นภาคหลังจากเหตุการณ์ "Sound! Euphonium: Our Promise: A Brand New Day" และตัวคุมิโกะตอนนี้ได้รับตำแหน่งเป็นประธานชมรมวงดุริยางค์ ส่วนพวกรุ่นพี่ของคุมิโกะก็กำลังไปยุ่งกับการทำเรื่องเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัยอยู่และหน้าที่ประธานก็ตกไปที่ตัวคุมิโกะ ความรู้สึกหลังดูของผู้เขียนเลยคือ เป็นอีกหนึ่งภาคที่ได้เห็นอีกมุมมองคุมิโกะในบทบาทใหม่และได้เข้าใจว่าหน้าที่ประธานก็ต้องเจอกับอะไรบ้าง ที่ผ่านมาพวกรุ่นพี่ต้องรับอะไรบ้างในการเป็นประธาน ต้องมาคอยตรวจว่าใครเล่นยังผิดพลาดตรงไหน แล้วก็ตัดสินใจในสิ่งที่ตั้งไว้อะไรทำนองนี้ ผู้เขียนยังไม่ได้รู้สึกอิ่มเอมกับการรับชมเท่าไหร่ อยากให้ฉายยาวกว่านี้ ภาคหนังโรงที่ฉายในช่วงนี้ความยาวก็ประมาณเกือบ 1 ชั่วโมงเลย แต่ถ้าใครชอบเรื่องนี้อยู่แล้ว ไปดูเลย คุ้มแน่นอนจ้าคะแนน 8.5/10เพลงประกอบ Sound! Euphonium: Ensemble ContestEnsemble - TRUEhttps://www.youtube.com/watch?v=vlA9aIi8RX0ถ้าให้ผู้เขียนบอกภาพรวมของอนิเมะเรื่องนี้เลยก็คือ งานภาพที่สวยงามมากไม่แพ้อนิเมะเรื่องอื่นที่งานอลังการเหมือนกัน และยิ่งได้สตูดิโอ Kyoto Animation มาทำด้วยยิ่งดีเข้าไปใหญ่ สายอนิเมะส่วนใหญ่ที่ตามวงการนี้มานานจะรู้จักตัวสตูดิโอนี่เป็นอย่างดีกับงานที่เต็มไปด้วยความใส่ใจดูจากรายละเอียดที่ทำลงไปในอนิเมะเรื่องนี้ได้เลย บรรยากาศ ภาพพื้นหลัง ตัวละคร ทุกอย่างของสตูดิโอนี้ทำให้ไม่แปลกที่จะคนมากมายจะตกหลุมรักกันมากและยกเป็นสตูดิโอที่ดีเป็นอันดับต้นๆ ทำมากี่เรื่องก็คุณภาพทุกเรื่อง และ Sound! Euphonium ที่แม้จะไม่ได้มีชื่อเสียงมากในไทย แต่ก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่รักเรื่องนี้เช่นกัน รวมถึงผู้เขียนด้วย ยิ่งใครชอบวงดุริยางค์ ชอบแนวดนตรีอยู่แล้ว เรื่องนี้ไม่ผิดหวังแน่นอน ผู้เขียนเองก็ผูกพันกับอนิเมะเรื่องนี้มาก็หลายปีมากเช่นกัน เลยไม่แปลกที่ผู้เขียนจะชอบเรื่องนี้มากจนต้องมาทำบทความเลยทีเดียวตอนที่บทความลงไปนั้นทาง Flixer App ก็ได้ลงอนิเมะให้ได้ดูกันด้วยนะ จะเป็นภาคที่เป็น The Movie ทั้งนั้นเลยนะ รับชมฟรีได้ถึงวันที่ 8 ธันวาคม เวลา 18.00 น. ใครอยากจัดรีบจัดเลยจ้า ผู้เขียนไม่แน่ใจว่าเขาจะเอาออกไหมนะหลังจากผ่านวันที่ 8 ธันวาคมแล้ว มีบนแอปพลิเคชั่นบนมือถือและสามารถดูผ่านเว็บไซต์ได้ด้วยคลิกเลย Flixerhttps://www.hareshi.net/ถ้าหากอยากรู้ว่าอนิเมะเรื่องไหนสามารถดูแบบถูกลิขสิทธิ์ที่ไหนบ้าง เว็บไซต์ Hareshi ได้ทำการทำไว้หมดแล้ว เป็นเว็บไซต์ทำโดยคนไทย เพื่อคนไทย ทำเพื่อชาวอนิเมะ ใครอยากหาเรื่องไหนดูก็ไปค้นหาดูกันได้จ้ายังไงก็ขอบคุณผู้อ่านทุกคนที่มาอ่านจนถึงตรงนี้ด้วย บทความนี้ก็อ่านได้ทุกคนเน้อ ไม่มีการสปอยเนื้อหาใดๆ ทั้งนั้น ห่างหายไปนานเลย แต่จะมาเขียนเรื่อยๆ ถ้ามีเวลาว่างหรือมีโอกาสหรือมีเรื่องน่าสนใจอะไรก็จะมาเขียนให้ผู้อ่านได้เข้ามาอ่านกันเรื่อยๆ แค่ผู้อ่านเข้ามาอ่านบทความทุกๆ บทความและแชร์บทความให้ผู้อื่นได้เข้ามาอ่านต่อ ก็ทำให้ผู้เขียนมีกำลังใจทำมากแล้วละ จบแล้ว ขอบคุณจ้า และภาค 3 กำลังจะมาในเดือนเมษายน ปี 2024 ปีหน้าแต่วันฉาย ณ ตอนที่ทำบทความยังไม่ประกาศ รอดูกันต่อไปจ้าภาพปกทำโดย Canvaเครดิตภาพปกภาพปกเครดิตภาพประกอบภาพที่ 1 ภาพที่ 2 ภาพที่ 3 ภาพที่ 4 ภาพที่ 5 ภาพที่ 6 ภาพที่ 7 ภาพที่ 8 ภาพที่ 9 ภาพที่ 10 ภาพที่ 11 ภาพที่ 12 ภาพที่ 13 ภาพที่ 14 ภาพที่ 15 ภาพที่ 16 ภาพที่ 17 ภาพที่ 18ช่องทางการติดตามของผู้เขียนFacebook: AmmarinJTwitter (X): @AmmarinJคอมมูนิตี้โลกคนรักหนัง ห้องหวีดซีรีส์ดังออกใหม่มาแรง ป้ายยาหนังดีหนังโดน