วันหยุดสุดสัปดาห์แบบนี้ ไม่มีกิจกรรมไหนดีไปกว่าการหาหนังดูสักเรื่องพร้อมกับกินป๊อบคอร์นอร่อย ๆ ในโรงหนัง แม้ว่าสถานการณ์โควิดจะทำให้พฤติกรรมการใช้ชีวิตของเรา ๆ เปลี่ยนไปบ้าง โรงหนังกลับมาเปิดตามปกติได้สักระยะพร้อมมาตรการการเข้าใช้บริการ สวมหน้ากาก เว้นระยะห่างในโรงหนัง ดูเหมือนจะยุ่งยากขึ้น แต่วันนี้นักเขียนได้ไปใช้บริการก็ไม่มีอะไรยาก แถมคนยังเยอะกว่าปกติเพราะมีหนังที่ใครหลาย ๆ คนรอคอยเข้าโรงอย่าง Godzilla VS Kong โรงหนังแน่นก็คงเป็นผลพลอยได้จากแฟนคลับของมอนสเตอร์ยักษ์ที่กลับมาเจอกันในครั้งนี้ ยิ่งใหญ่สมคำร่ำลือ หากใครที่ได้ดู Kong : Skull Island และ Godzilla : King of Monsters ไปแล้วก็ต้องจำได้ดีว่าภาคต่อของมันจะเป็นการกลับมาของคองปะทะกับก๊อตซิลล่า ซึ่งจะเป็นอันดับที่ 4 ของจักรวาลที่เราเรียกว่า MonsterVerse หนังมีความยาวเกือบสองชั่วโมงแต่อัดแน่นแทบจะไม่ต้องกระพริบตา ลุ่นมาก บอกเลยว่า ไม่ได้ทันง่วงหรือวางมือไปหยิบป๊อบคอร์นแน่ ๆ ค่ะ เรื่องนี้ได้ผู้กำกับอย่าง Adam Wingard ที่เคยกำกับหนัง Death Note (2017) ซึ่งเป็นผลงานของทาง Warner Bro เข้าโรงวันที่ 24 มีนาคม 2021 เรียกว่าหลาย ๆ คนก็เตรียมหาวันหยุดไปดู รวมถึงนักเขียนที่หลงรักน้อง Millie Bobbie Brown จาก Godzilla : king of Monsters ในเรื่องนี้เธอก็ได้กลับมาพร้อมกับคุณพ่อที่รับบทโดย Kyle Chandler หนังบอกเล่าเรื่องราวของ Kong ถูกนำตัวมาจากบ้านเกิดและเก็บไว้ในศูนย์ค่ายกักกันโดยมีเด็กพิเศษที่สามารถสื่อสารกับคองได้ชื่อว่า Jia สาวน้อยคนนี้มีความสัมพันธ์พิเศษที่คองคนเดียวจะเชื่อใจเธอ อยู่ ๆ ก๊อตซิลล่าก็ได้โผล่ออกมาแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย จนทำให้เกิดการปะทะของสองราชันย์ แต่สุดท้ายใครกันแน่ที่เป็นอสูรร้ายกันแน่ มนุษย์หรือมอนสเตอร์ ต้องไปดูกันได้ค่ะในโรงภาพยนตร์ ภายในระยะเวลาสองชั่วโมงคือ แทบไม่กระพริบตา เข้าเรื่องอย่างรวดเร็ว แม้ว่าใครไม่ได้ติดตามภาคก่อนหน้ามาก่อนก็สามารถเข้าใจได้อย่างง่ายดาย ดำเนินเรื่องเร็วมาก ๆ คองและก๊อตซิลล่ามาเจอกันสังเวียนแรกบนเรือ ซีนต่อสู้แทบจะจิกเบาะโรงหนัง สนุกมากค่ะ CG อลังการ โดยเฉพาะก๊อตซิลล่า มันดีมากกกกกก จนอยากจะซื้อตั๋วกลับมาดูอีกรอบ สิ่งที่ชอบมาก ๆ คือ การตัดต่อราบลื่น ดูสนุก มากไม่ปวดหัวกับมุมกล้อง โดยเฉพาะฉากท้าย ๆ อลังการสมการรอคอย การการต่อสู้ของสองมอนสเตอร์ แถมมีอาวุธขวานเข้ามาอีก จริง ๆ มีตัวละครลับอีกตัว จะต้องไปติดตามกันค่ะ แต่โดยรวมคือ ให้เต็มสิบไปเลยค่ะในเรื่องของภาพ ความสนุก ส่วนตัวแอบคิดว่ามันตัดบทจบเร็วไปหน่อย อยากให้เล่าเพิ่มเติมในส่วนจบสักนิดหน่อย เหมือนอารมณ์ค้างจากการต่อสู้ บทสรุป ตัดจบดื้อ ๆ เลย น่าจะมี End credit เสริมเข้ามาหน่อย แต่... ไม่มีนะคะ เศร้าเลยทีมนักแสดงมีหลากหลายคนมากที่แสดงดีทั้งรุ่นเก่าอย่างภาคก่อนสองพ่อลูกรัสเซลล์ และผองเพื่อน ดูจะโดดเด่นก็ต้องเป็นสาวน้อยเจีย ที่มารับบทเป็นเพื่อนของคอง ส่วนตัวคิดว่าบทของมนุษย์แถบจะไม่ได้มีส่วนสำคัญในเรื่องเท่าไหร่ ฮ่า ๆ คนคือปัญหาในเรื่องนั่นแหละค่ะ ปัญหาใหญ่เลยแหละ สรุปเลย เป็นหนังที่สมการรอคอย ไม่เน้นมนุษย์มากมาย เหมือนคนแค่เป็นตัวปัญหาและเผอิญหาเรื่องใส่ตัวจนไปอยู่ท่ามกลางสองราชันย์ที่ต้องห่ำหั่นกัน CG ดีมาก มุมกล้องเอย ภาพเอย อลังการ เต็มสิบ ดำเนินเรื่องเร็ว ไม่จำเป็นต้องรู้เรื่องก่อนหน้านี้ก็ได้ สามารถเข้าใจได้เลยค่ะ เผลอ ๆ อาจจะทำให้สนใจ มาเป็นแฟน ๆ ของเหล่ามอนสเตอร์ในจักรวาล MonsterVerse แน่นอน คุ้มค่าค่าตั๋วที่ไปรับชมแน่นอนค่ะ สามารถไปรับชมได้แล้วทุกวันนี้ทุกโรงภาพยนตร์ทั้ง Major และ SF ทุกสาขาทั่วประเทศค่ะ รับชมตัวอย่างได้ข้างล่างค่ะ เครดิตรูปภาพ : หน้าปก www.warnerbros.com : WarnerBros ภาพประกอบ Warnerbros : 1 , 1.2 ภาพถ่ายเอง / Warnerbros : 2 / 3 / 4 / 5 / 6วิดิโอ : youtube/Warnerpicturesบทความหนังเพิ่มเติมของนักเขียน :📺 5 ซีรีส์โรแมนติกจีนบน Netflix ที่ห้ามพลาดซีรีย์จีน NETFLIX 📺 10 อันดับซีรีย์จีนมาแรงใน NETFLIX ที่ใครไม่ได้ดูถือว่าพลาด!หนังเหยียดผิวสีจุดประเด็นความเท่าเทียมทางสังคม ✨ หนังดีบอกต่อ 🎬 อัปเดตข่าว ดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID ฟรี