9 หนังเรื่องเยี่ยม เยียวยาเติมเต็มกำลังใจ ชีวิตยังมีหวัง..ชีวิตยังต้องรอด!
ข่าวสารวงการหนัง
หลังจากที่คนทั้งโลกต้องฝ่าฟันต่อสู้กับอุปสรรคจากโรคระบาดที่ไม่ใครคาดคิดว่าจะก่อให้เกิดผลกระทบและความความสูญเสียในหลายด้านได้มากเพียงนี้ ก็ถึงเวลาที่จะต้องลุกขึ้นมาต่อเดิมความหวังให้กับชีวิตอีกครั้งหนึ่ง เพราะชีวิตยังต้องดำเนินอยู่ต่อไป แม้ความหวังจะริบหรี่..แต่ความหวังก็ไม่เคยหายไป มาเยียวยาและเติมกำลังใจให้สักหน่อย
เพื่อช่วยเพิ่มพูนกำลังให้กับทุกๆ คนได้เริ่มต้นลุกขึ้นยืนขึ้นใหม่ หลังจากผ่านพ้นเรื่องราวอุปสรรคมา Movie.TrueID จึงขอส่งลิสต์หนังที่น่าจะสร้างแรงบันดาลใจได้เป็นอย่าง กับหนังเรื่องเยี่ยมที่เล่าถึงการแก้ไขและนำพาตัวเองให้รอดพ้นจากสถานการณ์ภัยต่างๆ ที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดขึ้น แม้จะเคยสิ้นหวัง..แต่ขอแค่อย่าหมดหวัง ทุกปัญหายังมีหนทางออก และยังต้องรอด...
127 Hours (2010)
สร้างมาจากเรื่องจริงของวิศวกรหนุ่ม "แอรอน ราลสตัน" ที่ถือว่าถ่ายทอดออกมาเป็นหนังได้ค่อนข้างตรึงใจและระทึกขวัญผสมผสานกันไป ภายใต้ชีวิตที่เหมือนแขวนเอาไว้กับเส้นดาย แต่ความเป็นจริงก็คือแขนข้างหนึ่งติดอยู่กับก้อนหินที่ร่วงหล่นมาทับ เป็นประสบการณ์ดูหนังที่ลุ้นและกินใจไปพร้อมกัน แม้ว่าหนังจะมีความยาวเพียง 94 นาที แต่เรื่องจริงติดอยู่แบบนั้นถึง 127 ชั่วโมง ถึงจะมีฉากจบที่ค่อนข้างหวามอมขมกลืน แต่เชื่อถือนี่คือหนังที่จะจุดประกายความหวังในชีวิตได้อีกเรื่องหนึ่ง
Cast Away (2000)
ถึงแม้ว่าหนังจะผ่านมาแล้ว 20 ปีเต็ม แต่ต้องยอมรับเลยว่า...ยังไม่ล้าสมัยเลยสักนิด ผลงานระดับมาสเตอร์พีชของ "ทอม แฮงก์ส" ในบทบาทที่คนยังจดจำได้ตลอดกาล นี่เป็นหนึ่งในนั้นเอาชีวิตรอดที่มักจะต้องปรากฏอยู่ในทุกลิสต์ที่มีกล่าวถึง ผู้รอดชีวิตจากโศกนาฏกรรมต้องติดเกาะอยู่เพียงลำพัง ใช้ทักษะต่างๆ ในการดำรงชีวิตอยู่เพียงคนเดียว พร้อมกับ เจ้าวิลสัน ลูกวอลเลย์บอลที่ลอยมาติดเกาะเป็นเพื่อนคุยที่ไม่เคยตอบสนองด้วย เป็นหนึ่งยอดเยี่ยมที่ได้ทั้งความบันเทิงและความรู้ในการเอาตัวรอด
Into The Wild (2007)
เชื่อว่าหนังเรื่องนี้ยังคงครองอยู่ในใจบรรดาคอหนังอินดี้อยู่แน่ๆ เพราะนี่คือผลงานชิ้นเยี่ยมฝีมือการกำกับของนักแสดงรุ่นใหญ่ "ฌอน เพนน์" ที่เล่าเรื่องจริงที่เกิดขึ้นของหนุ่มมหาวิทยาลัยที่ตัดสินใจปลีกตัวเดินเข้าป่าอะแลสกา พร้อมกับใช้ชีวิตสันโดษอยู่กับผืนป่ากว้างใหญ่ หนังเรื่องนี้น่าจะเป็นต้นกำเนิดและแบบฉบับของเทรนด์ฮิปสเตอร์ในปัจจุบัน แต่อย่าเพิ่งหลงลืมแก่นสารของหนังที่ว่าด้วยเรื่องการค้นหาตัวเองในการดำรงชีวิตให้ได้อย่างโดดเดี่ยว เพราะบางครั้งโลกรอบตัวเราก็ไม่ได้สมบูรณ์แบบได้เสมอไป
Life of Pi (2012)
เป็นหนึ่งในผลงานเรื่องเยี่ยมของผู้กำกับ "อังลี" ที่เคยลองหยิบจับงานแทบจะทุกแนว หนังดัดแปลงมาจากนวนิยายชื่อดัง ที่เล่าถึงชะตากรรมอันเด็ดเดี่ยวของเด็กหนุ่มที่้ต้องเผชิญหน้ากับโศกนาฏรรมครั้งใหญ่ของชีวิต และต้องมาติดแหง็กอยู่บนเรือชูชีพ พร้อมกับเสือเบงกอลตัวหนึ่ง ที่แน่นอนว่าสัญชาตญาณคนกับสัญชาตญาณสัตว์ยังพลุกพล่าน นอกจากงานด้านภาพของหนังจะดีเด่นแล้ว ต้องยอมรับว่าเส้นทางการเอาชีวิตรอดกลางมหาสมุทรกว้างใหญ่ก็เป็นเรื่องราวที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับคนดูได้ดีเลยทีเดียว
The Martian (2015)
หนังที่พาคุณไปโดดเดี่ยวไกลถึงดาวดวงอื่น กลายเป็นหนังที่ต้องเอาชีวิตรอดอย่างลำพังจริงๆ โดยที่ไม่ใครจะช่วยเหลือคุณได้เลย นอกจากจะช่วยเหลือตัวเอง ผลงานการแสดงเรื่องเยี่ยมของ แมตต์ เดมอน ที่ดัดแปลงมาจากนวนิยายไซไฟชื่อดัง เมื่อนักบินอวกาศต้องติดอยู่สถานีอวกาศต่างดาวเพียงลำพัง ท่ามกลางอุปสรรคและทรัพยากรดำรงชีวิตที่เหลือน้อยลงทุกทีๆ เขาจึงต้องศึกษาค้นหาเพื่อจะเอาชีวิตให้รอด แม้จะไม่ได้อยู่บนผืนโลกที่ตัวเองคุ้นเคยก็ตาม เป็นการผสมผสานความระทึกใจและดราม่าไซไฟได้อย่างลงตัวมากๆ
Adrift (2018)
ความรักทรงพลังยิ่งกว่าพายุเฮอร์ริเคนกลางมหาสุมทร เรื่องราวที่เกิดเหตุจริงกับคู่รักคู่หนึ่งที่ล่องเรือออกไปในท้องทะเล แต่พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับโศกนาฏกรรมที่ไม่ได้คาดคิดเอาไว้ การต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดอยู่บนเรือที่ไม่สามารถขับเคลื่อนออกไปไหนได้ เรียกว่าลอยคอรอความตายอยู่ที่ไหนสักแห่งบนโลก ด้วยพลังแห่งความรักที่เชื่อว่าจะช่วยเหลือซึ่งกันและกัน กัดฟันผ่านเรื่องราวร้ายๆ นี้ไปให้ได้ นี่คือหนังที่เราได้รู้จักกับความรักและความเสียสละเพื่อรอดชีวิตจากภัยอันตรายที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดขึ้นกับตัวเอง
The Revenant (2015)
และผลงานเรื่องนี้เองที่ทำให้ "ลีโอนาร์โด ดีคาปริโอ" คว้าออสการ์มาครอบครอง ต้องยอมรับว่าเป็นหนังที่ถ่ายทอดเรื่องราวการดำรงชีวิตหนีรอดปลอดภัยได้อย่างสมจริงและดิบเถื่อนสมใจจริงๆ หนังแทบจะไม่มีบทพูดเลยตลอด 2 ชั่วโมงกว่าของเรื่อง ได้ยินแต่เสียงฝีเท้า ลมหายใจ และเสียงคำรามของสัตว์ป่า นี่คือบททดสอบครั้งสำคัญของมนุษย์ผู้หนึ่งที่ต้องดิ้นรนด้วยวิธีต่างๆ ในเส้นทางการเดินทางของเขา ท่ามกลางบรรยากาศหนาวเหน็บและสัตว์ป่าที่พร้อมจะจู่โจมใส่ทุกเมื่อ "ต้องรอด" สมกับชื่อหนังจริงๆ ใครยังไม่เคยดู...ไปหามาดูด่วน
The Road (2009)
ว่ากันว่าเป็นหนึ่งในนั้นที่แทบจะสิ้นหวังเหลือเกิน ฉบับนิยายก็ถูกมองว่าเป็นจดหมายรักสุดซึ้งที่เขียนถึงลูกชาย แต่พอมาในฉบับหนังก็ได้เติมเต็มจินตนาการด้วยการสร้างโลกใบหนึ่งที่เป็นไปด้วยความหม่นหมอง ภายหลังจากภาวะการล่มสลายของมนุษยชาติ ที่ทุกอย่างไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป การดิ้นรนเอาชีวิตรอด ไม่ล่อเป้าตกเป็นเหยื่อใคร เป็นหนังเอาตัวรอดระหว่างพ่อลูกที่กัดกินใจแบบสุดๆ ซ้ำยังมาพร้อมกับตอนจบที่กลายเป็นประเด็นกล่างถึงอยู่ในทุกวันนี้
Wild (2014)
เรื่องราวของผู้หญิงที่พบว่าตัวเองกำลังอยู่วงโคจรของชีวิตพังๆ ที่รายล้อมเต็มไปหมด เธอจึงตัดสินใจทิ้งทุกอย่างเอาไว้เบื้องหลัง คว้ากระเป๋าเป้และรองเท้าหนังดีๆ ออกเดินไปตามเส้นทางลัดเลาะป่าชายฝั่งแปซิฟิกที่ระยะทางยาวกว่าพันไมล์ ทั้งที่ไม่มีประสบการณ์หรือวางแผนใดๆ มาก่อน นี่คือหนังที่แสดงให้เห็นผลลัพธ์ของทางที่เลือกเดินมาแล้ว ตลอดเส้นทางได้แต่เฝ้าถามและคิดทบทวนเรื่องราวที่ผ่านมา โดยที่จะเผลอลืมไปว่ากำลังเดินมุ่งหน้าเข้าไปสู่อันตรายที่อาจทำให้ตัวเองแทบเอาชีวิตรอดออกมาไม่ได้
----------------------------------------------------