Movie ReviewRebel Ridge เรเบลริดจ์: ผ่าเมืองอยุติธรรม (2024)ค่อยๆบีบคั้นอารมณ์ช้าๆแต่สม่ำเสมอจนเกินจะทนแล้วจึงปลดปล่อยออกมาทำให้กดดันหายใจไม่ทั่วท้องลุ้นระทึกสุดทางบางครั้งหนังเล็กๆก็ทำเรื่องใหญ่ๆได้เหมือนกันเพราะความที่ไม่คาดหวังกับความที่มันคือหนังเล็กๆไม่มีดาราดังคับฟ้าไม่มีผู้กำกับชื่อก้องมาเป็นชื่อขายอาจบางทีคิดว่าเป็นหนังเกรดรองด้วยซ้ำไป เช่นเดียวกับหนังใหม่ทาง NETFLIX เรื่องนี้ที่ตีตราว่าเป็นงาน NETFLIX Film หรือเป็นงาน Original ของ NETFLIX นั่นแหละที่โดยปกติแล้วจะมีงานฟอร์มยักษ์เพื่อขายดาราหรือผู้กำกับเบอร์ใหญ่ๆเดือนละหนึ่งเรื่อง แต่เรื่องนี้กลายเป็นความต่างไปเพราะนักแสดงที่เป็นชื่อขายนั้นไม่คุ้นหูเอาเสียเลยคือ Aaron Pierre ที่สารภาพว่าแค่คุ้นหน้าแต่ไม่มีอยู่ในหัวเลย อีกคนคือ Don Johnson ก็เก๋ากึ๊กเกินไปจะมีเพียงแค่ AnnaSophia Robb อดีตสาวน้อยจาก Bridge to Terabithia (2007) แต่นั่นก็นมนานมาแล้ว ทว่าความบันเทิงจากหนังสักเรื่องหาใช่มาจากหน้าเสื่อเสมอไปแต่มันมาจากหลายองค์ประกอบและเรื่องนี้แม้จะดูยังไงก็เป็นหนังฟอร์มเล็กๆแต่ความบันเทิงเชิงอารมณ์ไม่เล็กตามจนหนังฟอร์มยักษ์บางเรื่องอาจต้องอายบนถนนสายเปลี่ยวเข้าสู่เมือง Shelby Springs เมืองเล็กๆในชนบทที่น่าจะเงียบสงบได้มีชายผิวดำคนหนึ่งปั่นจักรยานบนท้องถนนแล้วถูกตำรวจชนเพื่อจับกุม แต่ชายคนนี้ไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมายนอกจากเขาพกเงินมาจำนวนหนึ่งเพื่อประกันตัวลูกพี่ลูกน้องที่ต้องออกมาก่อนที่จะถูกส่งตัวเข้าเรือนจำรัฐ แต่เงินนั้นกลับถูกตำรวจยึดไปอย่างหน้าไม่อายแม้จะยึดตามกฎหมายแต่ก็เห็นเลยว่าตั้งใจปล้นกลางแดด จนเมื่อหมดสิ้นหนทางเพราะการจะประกันตัวจะต้องมีเงินเขาจึงเดินเข้าไปหาหัวหน้าตำรวจ Sandy Burnne (Don Johnson) เพื่อยื่นข้อเสนอแต่แล้วก็ถูกหักหลัง จนพวกตำรวจมารู้ว่าชายคนนี้คือ Terry Richmond (Aaron Pierre) อดีตครูฝึกนาวิกโยธินสหรัฐจึงเกิดการขัดแย้งขึ้น กระทั่ง Terry บุกเข้าไปเอาเงินคืนเพื่อให้ Summer McBride (AnnaSophia Robb) ช่วยเขาจึงได้ปะทะกับตำรวจทั้งสถานี แล้วเมื่อถูกบีบเพราะพวกตำรวจชั่วไม่ยอมละวาง Terry จึงต้องเอาคืนและแฉความชั่วเพื่อเอาผิดโดยมี Summer คอยช่วยเหลือง่ายๆไม่ต้องซับซ้อนหรือพยายามยากอะไรแค่ให้เห็นแรงจูงใจชัดๆความเข้มก็มาแม้ว่าบทสรุปจะเหมือนรวบๆรัดๆ ในหนังแอ็กชันทริลเลอร์ที่ต้องการมาเข้มแบบนี้ที่มีพื้นฐานจากการทวงคืนหรือเอาคืนบางอย่างแบบนี้สิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องให้จับต้องได้คือแรงจูงใจ เพราะแรงจูงใจที่มากพอจะทำให้คนที่พยายามมีชีวิตปกติลุกขึ้นมาทำอะไรบางอย่างที่ไม่อยากทำและเรื่องนี้คือตัวอย่างของบทหนังที่ชัดเจนเรื่องแรงจูงใจ เพราะคนดูจะไม่มีความกังขาใดกับการทำหรือไม่ทำของตัวละครด้วยความที่นี่ไม่ใช่บทหนังที่ตั้งใจมาซับซ้อนหรือเล่นท่ายาก ง่ายๆคืออดีตครูฝึกนาวิกโยธินที่ทักษะการต่อสู้สูงแต่ไม่อยากทำร้ายใครไม่อยากมีปัญหาแต่ปัญหาดันเขามาชนตอเอง แล้วหนังก็ตั้งท่าไปแบบนั้นเต็มที่ไม่มีแวะฉี่ข้างทางเดินหน้าไปตามสิ่งที่วางไว้เต็มที่คือพวกคนร้ายอยู่ดีไม่ว่าดีไม่ยอมปล่อยวางเลยต้องกลับมาล้างบางทรชน แน่นอนเมื่อแรงจูงใจชัดหนังก็เดินหน้าไปอย่างเข้มข้นแม้ตอนสุดท้ายบทสรุปจะหาทางลงง่ายๆไปไม่ลามาไม่ไหว้ก็ช่างมันชั้นเชิงง่ายๆคือการบีบคั้นทุกทางค่อยๆนวดจนได้ที่อย่างสม่ำเสมอทำให้อึดอัดจนเมื่อถึงเวลาก็ปลดปล่อยออกมา ปฏิเสธไม่ได้ว่าด้วยเวลาฉายประมาณสองชั่วโมงกว่านิดๆกับหนังที่ดูก็รู้ว่าจะมาเพื่อขายอะไรสิ่งที่กังวลคือจะเอาอะไรมาสะกดคนดูได้นักหนาแต่ว่าคิดผิด เพราะหนังสามารถตรึงอารมณ์ให้อยู่กับที่ได้ด้วยชั้นเชิงง่ายๆที่ใครๆก็ใช้และจะได้ผลเลิศเมื่อแรงจูงใจชัดแบบนี้ นั่นคือผลักให้คนดูเลือกข้างที่ตั้งแต่ต้นเรื่องคนดูเลือกไปแล้วเพราะปิดช่องว่างทางฝั่งผู้ร้ายที่เป็นตำรวจไปเรียบร้อย เมื่อคนดูเลือกข้างการเอาใจช่วยก็ตามมาแล้วก็ได้เวลาบีบคั้นในทุกทางยิ่งทำให้รู้สึกเห็นใจเจ็บใจแทนจนอยากลุกมาทำอะไรบางอย่าง แต่หนังก็ฉลาดที่ไม่โฉ่งฉ่างยังค่อยๆนวดเฟ้นไปเรื่อยๆค่อยๆบีบอย่างสม่ำเสมอทำให้ความรู้สึกอึดอัดกดดันหายใจไม่ทั่วท้องเพราะทำอะไรพวกชั่วไม่ได้เลย แต่นั่นคือการสร้างอารมณ์ร่วมให้ถึงขีดสุดเพื่อที่เมื่อถึงเวลาก็ปลดปล่อยมันออกมาแล้วเมื่อโดนบีบมาขนาดนี้มันก็คือระเบิดทางอารมณ์ดีๆนี่เองการรับบทโดยนักแสดงที่ไม่คุ้นหน้ากลายเป็นได้ผลดีเพราะไม่มีภาพจำใดๆจนเป็นความน่าเชื่อถือไปโดยปริยาย สารภาพว่าช่วงหลังผู้เขียนไม่ได้ติดตามวงการบันเทิงฮอลลีวู้ดอย่างใกล้ชิดเท่าไหร่ทำให้นักแสดงรุ่นใหม่ๆบางคนถ้าไม่ดังจริงก็ไม่ค่อยคุ้นหน้า อย่าง Aaron Pierre ที่มารับบทคนที่ไม่ได้อยากมีปัญหาแม้ว่าจะได้รับความอยุติธรรมก็ยังไม่อยากให้เรื่องบานปลาย ด้วยความที่หนังไม่ต้องพึ่งมิติทางอารมณ์ที่ลึกล้ำมาก Aaron Pierre ยังน่าเชื่อถือในบทที่ได้รับเป็นคนแบกหนังไปที่บางทีเขาอาจเป็นนักแสดงดาวรุ่งก็เป็นได้แค่ผู้เขียนไม่คุ้นหน้า แต่ความที่ไม่คุ้นหน้ากลับไม่มีภาพจำติดตาใดๆก็กลายเป็นผลดีเพราะไม่มีอะไรให้เปรียบเทียบจึงเห็นว่าเขาสามารถพาหนังไปอย่างมีพลังถ่ายทอดแรงจูงใจได้อย่างที่บทหนังต้องการ ส่วน AnnaSophia Robb กับ Don Johnson ก็ตามนั้นเมื่อตอนนี้ได้ผ่านช่วงที่ดีที่สุดของพวกเขามาแล้วโดยเฉพาะรายหลังที่เหมือนเอาชื่อมาขายในนามดารารุ่นเก๋าในหนังเกรดบีเท่านั้นบันเทิงแบบเข้มๆเหมือนค่อยๆถูกบีบจนหน้าเขียวด้วยความอดทนเพื่อระเบิดอารมณ์เมื่อเกินทน ด้วยความเข้มข้นตั้งแต่แรกแม้จะไม่ถึงกับเป็นงานแอ็กชันดุเดือดเลือดพล่านแต่เป็นงานที่มาเล่นกับอารมณ์มากกว่า แต่ก็ยังเป็นความบันเทิงที่จัดจ้านแม้จะไม่ได้ตั้งใจมาขายฉากแอ็กชันมันส์ๆระเบิดตูมตามเอาจนกระจกบ้านสะเทือน เพราะสิ่งที่เป็นคือการกดอารมณ์ให้รู้สึกคับแค้นอยากลุกมาทำอะไรบางอย่างหรือคิดไปเลยว่าทำไมไอ้พระเอกมันไม่ทำอะไรสักอย่างสักทีมัวแต่อดทนจนจะเป็นพระอรหันต์ไปแล้ว แต่นั่นคือตกหลุมที่หนังวางไว้เพราะต้องการให้อดทนจนถึงที่สุดจนเมื่อมันเหลืออดที่อาจต้องยอมรับว่าความอดทนของอีตา Terry ของเราสูงเกินมนุษย์อาจเพราะเป็นครูฝึกก็เป็นได้ แต่ระหว่างทางที่อารมณ์ถูกกดทับไว้ด้วยความบีบคั้นคนดูก็เดินตามหนังไปอย่างเป็นความบันเทิงที่มีอารมณ์ร่วมกับทุกเรื่อง จึงไม่ต่างจากการเกินก๋วยเตี๋ยวรสชาตเยี่ยมๆสักชามที่ค่อยๆละเลียดกินเส้นกินผักซดน้ำแล้วเก็บลูกชิ้นไว้กินตอนสุดท้ายดูไปบ่นไปhttps://www.youtube.com/watch?v=viRFz9ko_zQขอบคุณภาพประกอบภาพปก,ภาพที่ 1 Instagram netflixfilmภาพที่ 2,3,4,5 จาก Instagram netflixjpภาพที่ 6 จาก Instagram netflixfrVDO ตัวอย่าง จาก YouTube Netflix Thailandเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !