'หลังคาใบบัว' ละครไทยแนวดรามา-สะท้อนสังคม ที่ดัดแปลงจากนวนวนิยายของ กัญญ์ชลา ซึ่งเป็นหนึ่งในนามปากกาของ กฤษณา อโศกสิน นักเขียนชั้นครู ถูกนำมาสร้างเป็นละครโดย พี่ฉอด สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา แห่งค่าย Change2561 กำกับการแสดงโดย บุญธร กิติพัฒภากรณ์ และบทโทรทัศน์โดย ธีระพัสตร์ ถนัดสอนสาร ออกอากาศทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 21.45 น. ทางช่องอมรินทร์ทีวี เอชดี ช่อง 34 เริ่มตอนแรก 22 ตุลาคม 2566เรื่องย่อ https://www.youtube.com/watch?v=wjXVfHlcEHw'สิมะลา' สาวสวยที่รวยแค่เสน่ห์แต่ฐานะทางบ้านของเธอยากจน พ่อก่อหนี้สินให้ตามล้างตามเช็ดอยู่เรื่อย ๆ สถานะทางการเงินเรียกได้ว่าชักหน้าไม่ถึงหลัง ตั้งแต่เด็กพ่อปลูกฝังให้สิมะลาทะเยอทะยาน และใช้ความสวยเป็นไปเบิกทางไปจับผู้ชายรวย ๆ เพื่อชีวิตที่ดีกว่า ในขณะที่แม่และน้องชายของเธอไม่เห็นด้วยกับวิธีรวยทางลัดในงานสังคมของบรรดาไฮโซเซเลปงานหนึ่ง 'สิมะลา' มีโอกาสได้รู้จักผู้ชายถึง 3 คนในคืนเดียว เธอคิดว่าหนึ่งในสามคนจะพาเธอออกไปจากบ้านเก่า ๆ ซอมซ่อและชีวิตลำเค็ญ คนแรกคือ 'ทัศนัย' หนุ่มไฮโซทำธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ที่มีนิสัยเจ้าชู้เป็นเพลย์บอย รายต่อมาคือ 'สุรสิทธิ์' ทายาทเจ้าของบริษัทผลิตรองเท้าชั้นนำของประเทศ และ 'วโรดม' นักวางแผนทางการเงินมือฉมัง การเอาชนะใจเป้าหมายของเธอไม่ง่าย ยิ่งผู้ชายรวยเธอก็ต้องใช้ความพยายามในการชุบตัว สร้างโปรไฟล์ปลอม ๆ ขึ้นมา เพื่อตบตาท้ายที่สุดสิมะลาจะปิดบังซ่อนเร้นตัวตนที่แท้จริงรวมถึงถีบตัวเองออกไปจากบ้านหลังคาใบบัวได้หรือไม่ รับชมได้ในละครค่ะ ตัวละครหลัก เกรซ กาญจน์เกล้า ด้วยเศียรเกล้า รับบทเป็น 'สิมะลา' เลขาสาวสวยแห่งบริษัทด้านอสังหาริมทรัพย์ เธอคือความหวังและเป็นลูกรักของพ่อ พ่อที่คอยแต่สร้างหนี้สินให้คอยตามล้างตามเช็ด ด้วยความรักครอบครัวและความจนที่กดทับชีวิตของเธอมาตลอด สิมะลาจึงพยายามที่จะทำทุกอย่างแม้จะต้องโกหกสร้างเรื่องเพื่อจับผู้ชายรวย ๆ มาปลดหนี้ให้ครอบครัวและพาเธอหลุดพ้นไปจากบ้านหลังคาใบบัวเกรซ สวมบทเป็นสิมะลาได้ดี เป็นผู้หญิงที่สวยมีเสน่ห์มีออร่าพอที่ผู้ชายจะมาตกหลุมและกักดับของเธอ จริตจะก้านของเกรซมาเต็ม ซีนดรามาก็เล่นได้ดี ดูเป็นคนที่จมอยู่กับบาดแผลในอดีตและถูกความจนกดทับจนถึงขั้นยอมทำทุกอย่างแม้กระทั่่งเป็นนักต้มตุ๋น ไม้ วฤธ ศิริสันธนะ รับบทเป็น 'วโรดม' นักวางแผนทางการเงินหนุ่มหล่อเจ้าเสน่ห์ ที่แฝงความร้ายกาจและเล่ห์เหลี่ยมเอาไว้ เพราะภูมิหลังครอบครัวที่คอยกดทับชีวิตของเขา อดีตบ้านเคยร่ำรวย แต่ปัจจุบันประสบวิกฤตทางการเงินถึงขั้นล้มละลาย พ่อก็กลายเป็นคนติดเหล้าจมอยู่แต่กับอดีตส่วนแม่ก็ต้องทำงานหนักและจมไม่ลงคอยพร่ำสอนให้เขาจับผู้หญิงรวย ๆ มาช่วยกอบกู้วิกฤตของครอบครัว วโรดม ยอมเสียศักดิ์ศรีมาเป็นเพื่อนเที่ยวรวมทั้งเพื่อนนอนของสาวแก่แม่ม่ายและผู้หญิงคนอื่น ๆ พียงเพราะต้องการเงิน ไม้ ถ่ายทอดบทนี้มีทั้งความหล่อและความร้ายลึกอยู่ในตัว ซีนดรามาทำได้ดีดูแล้วอินตาม ยิ่งตอนถ่ายทอดความต่างระหว่างตอนอยู่ข้างนอกกับอยู่ในบ้าน และตอนอยู่กับสาวแก่และคนที่เขาถูกใจอย่างสิมะลา เจี๊ยบ โสภิตนภา ชุ่มภาณี รับบทเป็น 'พันพิศ' เจ้าของอาณาจักรบริษัทผลิตรองเท้าชั้นนำของประเทศ เธอคือแม่ผู้คอยบงการลูกชายคนเดียวอย่าง สุรสิทธิ์ หนึ่งในเป้าหมายของสิมะลา ถึงแม้สุรสิทธิ์จะหลงสิมะลา แต่เธอก็ตกเหยื่อรายนี้ได้ไม่ง่ายนัก เพราะพันพิศนั้นเขี้ยวรากดินคอยอยู่เป็นก้างขวางคอตอนบงการชีวิตลูกคือเล่นซะเรากดดันตามไปด้วย ถึงแม้จะเจ้ากี้เจ้าการแต่จริง ๆ แล้วเธอดูสิมะลาออกและไม่อยากให้ลูกชายโดนผู้หญิงหลอก เป็นแม่ที่รักลูกตามประสาคนอาบน้ำร้อนมาก่อนฉากปะทะกันระหว่างเจี๊ยบกับเกรซดูแล้วมันส์มาก ๆ แอบหลอกด่าจิกกัดกันแบบผู้ดี ไม่มีคำหยาบแต่ฟังแล้วแรงมาก ปอนด์ พลวิชญ์ เกตุประภากร รับบทเป็น 'สุรสิทธิ์' ผู้บริหารหนุ่มหล่อใส แสนดี แต่เป็นลูกแหง่ถูกแม่บงการชีวิต แม้กระทั่งเรื่องคู่ครอง ก็ต้องได้รับความเห็นชอบจากแม่ เขาไม่มีเล่ห์เหลี่ยมเหมือนกับวโรดมและดูคลั่งรักสิมะลาหนักมาก ต้องรอดูว่าต่อไปเขาจะแหกคอกออกไปใช้ชีวิตตามใจตนได้หรือไม่เอาจริง แค่ลุคของปอนด์ก็ผ่านแล้วกับบทแนวอ่อนต่อโลก ผู้ชายซื่อ ๆ แสนดี แถมการแสดงและบุคลิกท่าทางยังทำให้เชื่อว่าเขาคือคนอ่อนต่อโลก ไร้เดียงสา ดูคนไม่เป็น แม็กซ์ ณัฐพล ดิลกนวฤทธิ์ รับบทเป็น 'ทัศนัย' หนุ่มหล่อทรงอย่างแบด เจ้าชู้ เขาคืออีกคนที่คลั่งรักในตัวสิมะลา ด้วยความผ่านประสบการณ์ชีวิตมามาก จนกร้านโลก ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนปฏิเสธเขา จนมาเจอสิมะลาที่เล่นตัว จึงทำให้เขารุกหนักเธอหนักมากถึงขนาดถึงเนื้อถึงตัวและพร้อมจะเปย์ด้วยเงิน แม็กซ์ถ่ายทอดบทนี้มีทั้งความหล่อและแบดบอยที่พร้อมจะเอาชนะ ความน่าสนใจแก่นหลักของเรื่องสะท้อนสังคมยุคปัจจุบันได้ดี 'เงิน" คือคำตอบและปัจจัยหลักในการยังชีพของมนุษย์ เราทุกคนต่างทำเพื่อเงิน เพื่อชีวิตที่ดีกว่า เช่นเดียวกับสิมะลาและวโรดมที่ทำเพื่อเงิน พวกเขาใช้ความหล่อความสวยบวกกับเล่ห์เหลี่ยมให้เป็นประโยชน์เพื่อหาเลี้ยงครอบครัว ตัวละครหลักทั้งสองมีความเป็นมนุษย์สูง เป็นตัวละครสีเทาที่มิติทางอารมณ์สูง ให้อารมณ์กับผู้ชมได้ดีไม่ว่าจะเป็นสงสาร เห็นใจ หมั่นไส้ รวมทั้งเวทนากับสิ่งที่พวกเขากำลังทำ ไม่ใช่การหลอกคนอื่นที่ทำให้เวทนาแต่เป็นการที่พวกเขาหลอกตัวเองไปวัน ๆประเด็นเรื่องครอบครัวก็สำคัญ ปฏิเสธไม่ได้ว่าสังคมไทยให้ความสำคัญกับความกตัญญูกตเวที ซึ่งมันได้กดทับชีวิตของสิมะลาและวโรดมที่ไม่อาจจะหลุดพ้นเงาของครอบครัว และเป็นตัวของตัวเองได้อย่างอิสระและภาคภูมิใจว่าเงินที่ได้มาพวกเขาไม่ต้องขายศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เพื่อแลกมาอีกประเด็นที่น่าสนใจคือ ละครชวนให้เราตั้งคำถามกับตัวเองว่า "ระหว่างเดินเส้นตรงกับเดินทางลัด" ยอมซิกแซ็กหน่อยเพื่อไปให้ถึงเป้าหมายได้เร็วขึ้นและ ระหว่าง 'ศักดิ์ศรี' กับ 'ปากท้อง' เราควรพิจารณาสิ่งไหนก่อนเป็นอันดับแรก ภาพรวมของละครนักแสดงหลักและสมทบ ถ่ายทอดบทออกมาได้ดี ดูแล้วอินตาม ทั้งรุ่นเล็กรุ่นใหญ่เรียกได้ว่าคัดมาแต่ตัวเด็ด ๆ ตรงนี้ขอชมผู้จัดที่คัดเลือกนักแสดงมาได้เข้ากับบท โดยเฉพาะรุ่นใหญ่เล่นได้เป็นธรรมชาติเหมือนไม่ได้แสดงงานโปรดักชัน ทำได้ดี ฉากบ้านหลังคาใบบัวของสิมะลาดูอับเฉาและสิ้นหวัง เป็นสภาพแวดล้อมที่ดูแล้วเขาใจเลยว่าทำไมเธอถึงยอมทำทุกอย่างเพื่อถีบตัวเองออกไปจากที่นี่ ฉากสังคมของผู้มีอันจะกิน ก็ถ่ายทอดได้สวยหรูดูแพง เวลาสิมะลาเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในสังคมแบบนี้ 'ดูฟุ้งเฟ้อเพ้อฝัน' เรารู้สึกว่าเธอดูไม่เข้าพวกเพราะเปลือกภายนอกที่สร้างเอาไว้ตบตาคนอื่นมันดูปลอมในสายตาคนดูทางบ้าน บทโทรทัศน์ ดำเนินเรื่องเร็ว ดูแล้วอยากติดตามตอนต่อไปว่าชีวิตของสิมะลาและวโรดม จะเป็นอย่างไรต่อไป แค่ 7 ตอนแรกก็สะท้อนสังคมยุคปัจจุบันได้ดี อีกประเด็นที่เสริมเข้ามาแล้วเราชอบคือ สังคมการทำงานที่เพื่อนร่วมงานสนใจและคอยจับตาดูชีวิตเรามันตรงและสมจริง ฉากเกรซอาละวาดใส่ติช่าในออฟฟิศนี่คือมันส์มาก ๆ เรื่องนี้เขียนบทฉากเชือดเฉือนได้ถึงใจ ไม่เน้นหยาบคายแต่ฟังแล้วเจ็บแสบไปถึงทรวงสะท้อนภาพความจนของครอบครัวสิมะลาและวโรดม ทำได้สมจริงและเข้าถึงชีวิตที่ต้องปากกัดตีนถีบ เช่น แม่และน้องชายของสิทำงานหาเช้ากินค่ำ เป็นแรงงานรับจ้างทั่วไป หรือ ตอนที่พ่อวโรดมป่วยหนักก็ต้องไปใช้สิทธิรักษานอนห้องเตียงรวมในโรงพยาบาลรัฐ เพราะเขาไม่มีเงินพาพ่อไปเอกชน ฉากที่ชอบฉากสิมะลาจินตนาการถึงภาพครอบครัวที่ใช้ชีวิตสุขสบายในบ้านหรูหลังใหญ่ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าแรงใจที่ทำให้เราสู้ชีวิตคือความฝัน ซึ่งทุกความฝันต้องใช้เงิน ตอนที่สิมะลาเดินไปบริเวณต่าง ๆ ในบ้านหรูที่กำลังจะขายให้ลูกค้า แล้วเธอจินตนาการเห็นน้องชายทำกับข้าว แม่นั่งกินข้าว และพ่อนั่งคุยธุรกิจ สื่อถึงความรักครอบครัวของเธอที่อยากให้ครอบครัวสุขสบาย แม้ตอนนี้จะยังไม่เห็นช่องทางแต่แค่ได้ฝันก็หล่อเลี้ยงหัวใจของเธอไปได้อีกวันฉากสิมะลาแกล้งทำเป็นไม่รู้จักน้องชายที่มาทำงานร้านข้าวต้ม ทั้งเกรซและไทเกอร์ ธนวัต ถ่ายทอดได้ดี เห็นถึงความรักน้องของ แต่ก็ไม่มากกว่าที่เธอรักตัวเอง เท่านั้นยังไม่พอสาเกตุน้องชายของสิ ยังนำอาหารที่เธอกินเหลือห่อกลับไปฝากแม่ด้วย จุกสุด ๆ นะฉากนี้ให้อารมณ์แบบน้องกับแม่ยอมลำบากแต่ไม่ขายศักดิ์ศรียอมกินแม้กระทั่งของเหลือทของพี่สาวและฉากเกรซวีนติช่ากลางออฟฟิศ โดยติช่า กันติชา รับบทเป็นยัยจุ๊บแจง จอมสอดรู้สอดเห็น แสดงความคิดเห็นเก่งในเรื่องคนอื่น ยัยสิมะลาคือฟาดฉ่ำ บอกแล้วอย่าล้อเล่นกับเครื่องด่า ตั้งหน้าตั้งตาทำงานให้เก่งแบบนินทาคนอื่นด้วยจ้า สะท้อนสังคมนะฉากนี้เอาจริง ส่งท้ายสำหรับใครที่อยากติดตามละครเรื่องนี้สามารถดูย้อนหลังทาง Viuและขอให้คะแนนภาพรวมของ'หลังคาใบบัว' 9/10 คะแนน เครดิตภาพหน้าปกและภาพพื้นหลังหน้าปก canva : ภาพที่ 1ภาพประกอบหน้าปก change2561 : ภาพที่ 1 ภาพประกอบเนื้อหาchange2561 : ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 / ภาพที่ 5 / ภาพที่ 6 / ภาพที่ 7 amarintvhd : ภาพที่ 8 / ภาพที่ 9 ลิงก์คลิปวิดีโอประกอบเนื้อหา AMARINTV : อมรินทร์ทีวี : คลิปที่ 1