"FAIR PLAY" คู่รักแหกกฎบริษัท Fair Play จัดว่าอยู่ในหมวดหมู่หนังระทึกขวัญ ฉายครั้งแรกในเทศกาลภาพยนตร์ซันแดนซ์ 2023 เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2023 ได้รับการเขียนบทและกำกับโดย Chloe Domont"ตัวอย่าง Fair Play""เรื่องย่อ Fair Play" Emily แสดงโดย Phoebe Dynevor และ Luke แสดงโดย Alden Ehrenreich ทั้งสองคนเป็นแฟนกันคบกันมาสองปีแล้ว ลุคได้ขอเอมิลี่แต่งงาน เขาทั้งคู่ตกลงจะแต่งงานกันแต่เรื่องมีอยู่ว่าลุคและเอมิลี่ทำงานงานอยู่บริษัทเดียวกันตำแหน่งนักวิเคราะห์ ในบริษัทมีกฏเหล็กคือห้ามคนในบริษัทคบหากัน เขาจึงเลือกที่จะเก็บความลับนี้ไว้รู้กันเองและคนในครอบครัวเท่านั้น มีวันหนึ่งเอมิลี่ได้ยินข่าวลือว่าลุคกำลังจะได้เลื่อนตำแหน่งเป็นผู้จัดการพอร์ตการลงทุน แต่กลายเป็นว่าแท้จริงแล้วแฟนสาวของลุคต่างหากที่กำลังจะได้เลื่อนตำแหน่งแทน ความสัมพันธ์ของเขาจึงเริ่มเกิดปัญหาเมื่อคนหนึ่งไปได้ดีแต่อีกคนยังอยู่ที่เดิม ทั้งคู่จะสามารถประคองความรักไปจนถึงงานวิวาห์ได้หรือไม่ติดตามได้ใน "Fair Play""โครงเรื่อง" เอมิลี่และลุคเป็นแฟนกันอย่างลับๆไม่ต้องการให้คนในบริษัทรู้ ทั้งสองตกลงจะแต่งงานกัน เอมิลี่ได้ส่งข้อความไปบอกแม่ว่าเขานั้นกำลังจะแต่งงาน ทั้งสองอาศัยอยู่บ้านพักหลังเดียวกันแต่เมื่อออกไปทำงานเขาเลือกจะไปทำงานกันคนละเส้นทางเช่นนี้เป็นประจำ จนกระทั่งวันหนึ่งเอมิลี่ได้ยินว่าลุคกำลังจะถูกแต่งตั้งให้ได้รับตำแหน่งผู้จัดการพอร์ตการลงทุน ลุคดีใจมากเช่นเดียวกับเอมิลี่ แต่มีวันหนึ่งเพื่อนร่วมงานของเอมิลี่ได้นัดเขาที่บาร์แห่งหนึ่ง เขาไม่พบเพื่อนร่วมงานแต่กลับได้พบกับหัวหน้างานและบอกกับเอมิลี่ว่าเธอจะได้เป็นผู้จัดการในวันพรุ่งนี้ตำแหน่งของเธอจะเปลี่ยนไป เอมิลี่หนักใจกับการที่จะต้องบอกลุค เมื่อบอกไปลุคก็แสดงความดีใจกับเอมิลี่ และเอมิลี่บอกว่าจะผลักดันให้ลุคได้ขึ้นเป็นผู้จัดการ เขาทั้งสองจะได้เปิดเผยสถานะและไม่มีใครกล้ามาดูถูกเหยียดหยาบ ตัดมาที่แม่ของเอมิลี่โทรมาหาลูกสาวสุดที่รักเธอบอกว่ามีเซอร์ไพรส์ให้ลูกนั่นคือจัดงานหมั้นให้ลูกสาว เธอบอกกับลุคอย่างหัวเสียและความไถ่เรื่องงานแต่ง แต่ลุคกลับบอกว่าเขาขอเธอแต่งงานแต่ยังไม่ได้บอกกับทางครอบครัว ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เริ่มอึมครึม เอมิลี่ได้เสนอกับเจ้านายเรื่องของลุคแต่กลับไม่เป็นอย่างที่คิด เจ้านายบอกว่าลุคนั่นทำให้บริษัทขาดทุนถึง 15ล้านและรอวันที่ลุคจะตัดสินใจลาออกจากงานเอง ผิดกับเอมิลี่ชีวิตเขาดีขึ้นเรื่อยๆ ในทุกวันมีรถหรูของทางบริษัทมารับ หลังจากทำงานเสร็จไปแฮงค์เอ้าท์กับกลุ่มคนใหญ่โต ลุคเริ่มมองเห็นสถานภาพที่ต่างกันเขานั่งรถไฟฟ้าไปทำงาน ใช้ชีวิตตามประสาพนักงานทั่วไป และได้พบกับหนังสือเล่มหนึ่งทำให้เริ่มเปลี่ยนความคิดของเขา เขามองเอมิลี่ในแง่ลบทั้งสองเริ่มทะเลาะกันหนักขึ้น จนมาถึงจุดแตกหัก เอมิลี่ได้หลุดทุกคำพูดออกไปจนความสัมพันธ์ของทั้งสองยิ่งห่างเหินกันออกไปไม่ต่างจากแก้วที่ร้าวใกล้จะระเบิดเต็มทน"ลักษณะตัวละคร"Emily ( Phoebe Dynevor) สาวสวย เก่ง โปรไฟล์ดี เป็นนักศึกษาทุนจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ทำงานที่ซิตี้โกลด์แมนมาก่อน เขาทำงานให้บริษัทได้อย่างดีมาโดยตลอดระยะเวลาสองปี จนเจ้านายมองเห็นความสามารถในตัวของเอมิลี่และยอมยกตำแหน่งในเป็นผู้จัดการอย่างง่ายดายLuke ( Alden Ehrenreich ) เขาเข้ามาทำงานในบริษัทนี้เพราะเพื่อนของผู้บริหารฝากเข้าทำงาน เขามีความตั้งใจในการทำงานแต่ในทุกครั้งที่เขาคิด วิเคราะห์ ผลจะออกมาไม่เป็นตามที่เขาต้องการแถมยังสร้างความเสียหายให้แก่บริษัท ลึกๆแล้วลุคไม่มีความมั่นใจในตัวเอง และนานวันยิ่งเสียความเป็นตัวเองเข้าไปใหญ่"วิเคราะห์เรื่อง Fair Play" เรามองว่าเรื่องนี้ต้องการจะสื่อเรื่องของ ความสัมพันธ์มันไม่ใช่แค่เรื่องของความรักแต่ยังมีองค์ประกอบอื่นร่วม ไม่ว่าจะเป็นหน้าที่การงาน เงินทอง เรื่องจิปาถะอีกมากมายเมื่อสถานภาพต่างๆไม่เท่ากันย่อมเกิดความขัดแย้งและอยู่ร่วมกันไม่ได้ หนังจึงทำให้เรามองภาพได้ชัดเจนจากกฏการทำงานในบริษัท เรื่องห้ามคบกันในที่ทำงาน ยิ่งแผนกเดียวกันยิ่งชัดเจน มนุษย์ก็คือมนุษย์มีรัก โลภ โกรธ หลง อิจฉา อยู่ที่เราจะยอมรับและควบคุมมันได้มากน้อยแค่ไหน เอมิลี่สามารถแยกแยะงานและความรักออกจากกันได้ รักลุคด้วยความบริสุทธิ์ใจจริงตอนที่รู้ว่าลุคจะได้เลื่อนตำแหน่งเขาไม่เกิดความน้อยเนื้อต่ำใจแถมยังดีใจมากด้วย แม้กระทั่งในตอนที่ตัวเองได้ตำแหน่งยังคอยช่วยผลักดันลุคอยู่เสมอ เผื่อเจ้านายจะมองเห็น หรือใช้ตำแหน่งหน้าที่การงานเป็นโอกาสพิเศษให้ตัวเองและแฟนได้มีโมเม้นต์พิเศษร่วมกัน ผิดกับลุค ตั้งแต่รู้ว่าตัวเองไม่ได้ตำแหน่ง เขาดูเหมือนดีใจที่แฟนได้ตำแหน่งแต่ความเป็นผู้ชายย่อมอยากมีความเป็นหัวหน้าครอบครัว ดูแลแฟนตัวเองได้เป็นอย่างดี เมื่อเขาไม่สามารถทำได้จึงเกิดความน้อยเนื้อต่ำใจ ยิ่งเห็นเอมิลี่ได้ดีในใจของเขายิ่งมองไม่เห็นคุณค่าของตัวเอง และมองเอมิลี่แง่ลบในทุกๆด้าน ความอิจฉาค่อยๆครอบงำจนเสียความเป็นตัวเองและทำให้ความสัมพันธ์ยิ่งพังลง"ความสนุกของ Fair Play" หนังมีความน่าติดตามอยู่ตลอดเวลา ไหลลื่นมองเห็นความสัมพันธ์ได้อย่างตรงไปตรงมาชัดเจน ไม่ต้องคิดวิเคราะห์อะไรมาก ยิ่งตอนท้ายลุ้นมากว่าจะเกิดอะไรขึ้น เรื่องจะดำเนินไปถึงตอนจบอย่างไร นักแสดงเล่นกันได้ดีจนรู้สึกอิน ถ้าเราเป็นเอมิลี่คงเลิกไปตั้งแต่ครึ่งเรื่องแล้ว แต่ความรักทำให้คนตาบอด เมื่ออยู่ในสนามย่อมมองไม่เห็นเท่าคนอยู่นอกสนาม ฉาก แสง สี ภาพรวม Mood and Tone ดี สีมีความดาร์กส่งให้เข้าใจในความสัมพันธ์ การแต่งกายดูบ่งบอกลักษณะตัวละครได้ชัดเจน เพลงมีความเซ็กซี่ เร้าร้อนเหมือนกับลุคและเอมิลี่เมื่อกำลังร่วมรักกัน โดยรวมแล้วถ้าชอบดูหนังดราม่า ลุ้นระทึก ต้องเรื่องนี้ แอบอยากให้เห็นภาพตอนจบชัดเจนกว่านี้อีกหน่อยแต่ผู้กำกับคงอยากให้คนดูไปคิดกันต่อ"ข้อคิด"ความสัมพันธ์ที่ดีควรจะสนับสนุนกันและกันเราทุกคนมีความผิดพลาดกันได้ เมื่อทำผิดก็ทิ้งข้อผิดพลาดนั้นไปและเดินหน้าใช้ชีวิตต่อความพยายามไม่เคยทรยศใคร ถ้ายังไม่ประสบความสำเร็จก็พยายามต่อไป มองคนอื่นเป็นแรงผลักดันความอิจฉาริษยามีแต่ทำให้ชีวิตพังลงสังคมการทำงานย่อมไม่พ้นการถูกนินทาอย่าคบกับคนในบริษัทเดียวกัน"Spoil Fair Play" เอมิลี่รักลุคมาก ผิดกับลุคที่เห็นแก่ตัวที่สุด ทำชีวิตตัวเองตกต่ำคนเดียวไม่พอยังจะลากเอมิลี่ลงเหวไปด้วย สุดท้ายแล้วลุคได้พูดประโยคหนึ่งออกมาซึ่งมันคือความรู้สึกของเขาจริงๆ พูดว่าอะไรทำไมถึงกับเข่าทรุดร้องไห้ออกมา สามารถชมได้ใน Fair Play ทาง Netflix เครดิตNetflix : ภาพที่1 Netflix Philippines : ภาพที่2 / ภาพที่3 / ภาพที่ 4 / ภาพที่5 / ภาพที่6 / ภาพที่7วิดิโอ : Netflix บทความเพิ่มเติม La La Land กับ 3 ข้อคิดที่คุณจะได้รับช่วงเวลาที่คิดถึงเมื่อดู "แฟนฉัน"รีวิวซีรีส์จีนสุดฮอต 4 เรื่องจาก WeTV #WeTVซีรีส์สนุกเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !