กว่าจะได้ดู และรีวิวหนัง Joker หนังเข้าชิงออสก้า 2020 ก็ต่อเมื่อหนังได้ชิงกล่องแล้วนี่แหละ เพราะพลาดดูหนังโจ๊กเกอร์ (Joker) ที่นักวิจารณ์ต่างยกนิ้วหัวแม่มือให้ว่ายอดเยี่ยม ในโรงจนได้ ทั้ง ๆ ที่ตั้งใจเป็นมั่นเป็นเหมาะว่า จะต้องไม่พลาด ฉันจะต้องดูโจ๊กเกอร์ในโรง เพราะโดยส่วนตัวชอบหนังเรื่องแบทแมนอยู่แล้ว และชอบโจ๊กเกอร์ด้วย รู้สึกว่าเขาเป็นผู้ร้ายที่ร้ายจริง ๆ ร้ายแบบจิตขั้นเทพ สุดท้าย งานนี่ส่งด่วน งานนั่นต้องแก้ แล้วเดี๋ยวต้องเดินทางขึ้นเหนือ ล่องใต้ ว่างอีกที ออกโรงซะแล้ว ความหวังจะได้ดูโจ๊กเกอร์ในโรง วาบไฟอีกครั้งเมื่อเข้าชิงรางวัลออสก้า 2020 เป็นที่มาบทความรีวิวหนัง Joker หนังเข้าชิงออสก้า 2020 นี้ แว่วข่าวว่าบางโรงภาพยนตร์นำกลับมาฉายอีกครั้ง แต่ไม่รู้ว่าทำกรรมอะไรไว้ พอคิดจะดูหนังเท่านั้น งานมารออยู่หน้าบ้านอีกละ หากเป็นงานใหม่ ๆ จะไม่บ่นเลย นี่งานแก้ไขเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบกินเวลามาก ๆ มาย ๆ วาบไฟเมื่อครู่เริ่มริบหรี่ แต่ดีที่หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วเปิดแอป TrueID พบว่า “เฮ้ย!” ทรู นำ Joker หนังเข้าชิงออสก้า 2020 มาลง เหลือบมองดูทรูพอยท์ โห้! เหลือบาน ดึงมาจ่ายค่าเช่าหนัง 169 พอยท์ สบาย ๆในเมื่อเขาดูกันทั่วบ้านทั่วเมืองแล้ว ผมก็ไม่จำเป็นต้องมานั่งรีวิวหนัง Joker หนังเข้าชิงออสก้า 2020 แบบเดิม ๆ อีก เพราะเมื่อดูหนังจบ ผมกลับคิดว่า อยากชวนคุยประเด็นเรื่องที่นักจิตวิทยาห่วงกันว่า หนังเรื่องนี้จะพาคนไปสู่ความหม่นหมองของจิตใจ ก่อนไปประเด็นที่ว่า ขอย้อนกลับไปที่บอกก่อนหน้า เรื่องที่ผมชอบหนังแบทแมน และชอบโจ๊กเกอร์ คือ หนังเรื่องนี้เป็นเรื่องแรก ๆ ที่ผมได้ดู ไม่ใช่ในโรงนะครับ บ้านผมอยู่ชายขอบติดชายแดนประเทศมาเลเซีย ไม่มีโรงหนัง มีก็แต่โทรทัศน์ เมื่อราว พ.ศ. 2534 ช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณนำมาฉายรอบดึก คืนวันศุกร์ ผมชอบที่แบทแมนเป็นซูเปอร์ฮีโร่ไม่มีพลังวิเศษ ดูสมเหตุสมผลดี และชอบที่โจ็กเกอร์ดิบดีแท้ ยิ่งได้ดูเวอร์ชั่นใหม่ ๆ โจ๊กเกอร์ยิ่งดูเป็นฆาตรกรที่เลือดเย็น สมเหตุสมผลจริง ๆ เอาละ กลับมาที่ รีวิวหนัง Joker หนังเข้าชิงออสก้า 2020 ที่เล่าใหม่โดยท็อดด์ ฟิลลิปส์ ก่อนหนังเรื่องนี้จะลาโรง ท่ามกลางเสียงชื่นชมว่า โจ๊กเกอร์เวอร์ชั่นนี้น่าสงสาร โดนสังคมกระทำจนกลายเป็นอาชญากร และนักจิตวิทยาออกมาเตือนผู้ที่มีสภาวะจิตใจอ่อนแอควรระมัดระวังในการเสพหนัง มีเพื่อนรุ่นพี่ของผมคนหนึ่งเขาผ่ากระแสชื่นชม โพสต์ลงเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “ขอเงินคืนได้ไหม ใครจะรับผิดชอบเงินที่เสียไป” นั่นแสดงว่า ต้องมีอะไรที่สวนทางกับกระแสแน่นอนกระทั่งผมได้ดูเอง จึงได้พบว่า เออ! สังคมมันก็ไม่ได้ลงที่โจ๊กเกอร์เพียงคนเดียว นักแสดงตลกแคระก็กลายเป็นเหยื่อกลั่นแกล้งให้เพื่อน ๆ ได้สนุกปาก เช่น เพื่อนถามว่า เฮ้ย! อยากรู้นักคนแคระไปออกรอบใช้ไม้กอล์ฟหรือตะเกียบ เป็นต้น บรรยากาศในห้องแต่งตัวนักแสดงตลก ดูแล้วรู้สึกว่าสำนวนการ bully ของฝรั่งเขามันเจ็บลึกจริง ๆ หนังเรื่องนี้ทำให้ผมรู้สึกว่า ทุกคนพร้อมจะเป็นเหยื่อทั้งนั้น ไม่ว่าจะร่ำรวย การศึกษาดี ก็กลายเป็นเหยื่อได้ หากคุณล้ำเส้นบางอย่าง ใน รีวิวหนัง Joker หนังเข้าชิงออสก้า 2020 นี้โจ๊กเกอร์เอง แรงผลักของเขาไม่ใช่เพราะสังคมภายนอกเพียงอย่างเดียวหรอกที่มอบบัตรอาชญากรให้ ดูระบบของเมืองก็อธแฮมสิ ผู้ป่วยจิตเขาก็มีที่ปรึกษา มียาบริการ โจ๊กเกอร์เองก็มีบัตรแสดงว่าเป็นผู้ป่วยจิตเวชควบคุมเสียงหัวเราะไม่ได้ หากอาการกำเริบเขาสามารถหยิบมาแสดงได้ เช่น ตอนแรกของเรื่องที่เขาหัวเราะใส่แม่ลูกบนรถเมล์ เป็นต้น นั่นแสดงว่าระบบเมืองดูแลชาวเมืองค่อนข้างดีไม่น้อย หากจะโทษก็ต้องโทษตำรวจล่ะครับที่ไม่เต็มที่ปล่อยให้อาชญากรรมเกิดง่าย หากดูเรื่องนี้จะพบว่า เหตุร้ายเกิดขึ้นง่ายมาก เหมือนบ้านเมืองไร้ซึ่งกฎหมายอย่างไรอย่างนั้น ชะตากรรมของโจ๊กเกอร์น่าจะมาจากการกระทำของผู้เป็นแม่ซะมากกว่า เพราะแม่ของเขาเป็นผู้ป่วยทางจิต กระทำรุนแรงกับโจ๊กเกอร์สารพัด แต่อย่างว่า ตอนนั้นโจ๊กเกอร์ยังเล็ก โตมาก็ลืม ๆ ไป แต่ลืมแบบจิตภายนอกเท่านั้น จิตภายในยังคงฝังแน่นกลายเป็นบุคคลิกของเขา พอมาถูกสิ่งเร้าภายนอก และความจริงถูกเปิดเผย ก็เลยกลายเป็นระเบิดเวลา แปลงร่างเป็นปีศาจทันที ฉะนั้นรีวิวหนัง Joker หนังเข้าชิงออสก้า 2020 บทความนี้จึงเชื่ออย่างยิ่งว่า คนใกล้ตัวคือส่วนผิดมากกว่าสังคมภายนอกเรื่องการกระทำจากแม่ และสังคม ทำให้ผมคิดถึงยาสั่ง ยาสั่งเป็นยาพิษรูปแบบหนึ่ง ต้องกินอาหาร 2 ชนิดเข้าไป พิษจึงกำเริบ เช่น ผมชอบกินมะละกอเป็นชีวิตจิตใจ ใครสักคนก็ไปค้นหามาว่า อะไรบ้าง ถ้าผมกินเข้าไปแล้ว ผ่านไปสักวันสองวัน พอผมกินมะละกอตาม มันจะทำปฏิกิริยากัน กลายเป็นพิษสังหารผม เช่น สมมุติว่า สิ่งนั้นคือ มะม่วงหาวมะนาวโห่ คนที่คิดไม่ซื่อกับผม ต้องนำมะม่วงหาวมะนาวโห่มาให้ผมกิน หลังจากนั้น ก็รอเวลาให้ผมไปกินมะละกอ กรณีของโจ๊กเกอร์ก็เช่นกัน จากรูปแบบที่ผมเห็นนี้ จึงค่อนข้างเห็นด้วยว่า หนังโจ๊กเกอร์คงไม่ทำร้ายจิตใจใครได้มากกว่าการสงสารชะตากรรมโจ๊กเกอร์เอง แต่ก็เป็นเพียงการสงสารแบบฐานะมนุษย์มีจิตใจเป็นเลือดเนื้อเท่านั้นแหละ ก็เรารู้ ๆ กันอยู่ว่าเขาคืออาชญากร ดูสิ ฆ่าคนได้อย่างเลือดเย็นเชียว จะมีพื้นฐานหดหู่แค่ไหน อย่างไรซะคุณก็เป็นผู้ร้าย รีวิวหนัง Joker หนังเข้าชิงออสก้า 2020 ขอสรุปว่า โจ๊กเกอร์ทำออกมาดี ผมเองตอนดูก็มีน้ำตาซึมบางช่วง เพราะสงสารโจ๊กเกอร์นั่นแหละ ส่วนบริบทหนังผมว่า ไม่ต่างกับสังคมรอบตัวเรานี่เอง สารของเรื่องนี้นอกจากชะตากรรมของโจ๊กเกอร์แล้ว ผมเห็นผลของการกลั่นแกล้งด้วย ดูได้เลยในหนังเรื่องนี้ เหตุสลดหลาย ๆ อย่าง เกิดมาจากการกลั่นแกล้ง หรือ bully ซะเป็นส่วนมาก หรือคุณคิดว่าอย่างไร หากยังไม่ได้ดู เชิญได้ที่ ทรูไอดี https://movie.trueid.net/movie/XZp2xkbaGrNw หรือดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น ที่ https://play.google.com/store/apps/details?id=com.tdcm.trueidapp&hl=th