ซีรีส์เรื่อง "Twenty-Five,Twenty-One" นำแสดงโดย คิมแทรี, นัมจูฮยอก, โบนา, ชเวฮยอนอุก และ ลีจูมยอง เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในปี 1998 ในขณะนั้นเอเชียได้รับผลกระทบจากความวุ่นวายทางการเงิน อย่างวิกฤติ IMF แทบคล้ายกับช่วงเวลาที่พวกเรากำลังเผชิญกัน ไม่มั่นใจว่าช่วงไหนหนักหนากว่ากัน แต่ส่วนตัวคิดว่าบรรยากาศคล้าย ๆ กันอยู่ ดังนั้นมุมมองต่าง ๆ ข้อคิดดี ๆ จากเรื่องนี้จะพาคุณกลับมามีความหวังด้วยจิตใจที่มั่นคงแข็งแรง เรื่องราวของซีรีส์ "Twenty-Five,Twenty-One เริ่มต้นด้วยหนุ่มผู้มั่นคง มุ่งมั่น "แพคฮีจิน " และสาวมัธยมปลาย มีฝัน "นาฮีโด " ผู้ซึ่งโอบกอดอุดมการณ์การฟันดาบ พวกเขาดูเหมือนจะมีอัตลักษณ์ การเผชิญหน้า อายุ และบุคลิกที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ถ้าสังเกตอย่างละเอียดถี่ถ้วนทั้งสองเอาชนะความทุกข์ยากและหาทางออกต่าง ๆ ในช่วงเวลาที่สับสนและวุ่นวายที่สุดได้อย่างไร และในขณะเดียวกันก็ช่วยเหลือเยียวยาซึ่งกันและกัน และในที่สุดก็ตัดสินใจคบหากัน คู่นี้จะเรียกว่าคู่สร้าง คู่สม ได้ไหม?https://www.instagram.com/p/CbW1EqiLmh3/?utm_source=ig_web_copy_linkดูเหมือนผู้คนกำลังจะสูญเสียบางอย่างไป แต่มันก็เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ที่ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับฉัน เพราะฉันอยู่ในวัย 18 ที่เด็กเกินกว่าจะเสียอะไรไป สิ่งที่ฉันมีอยู่คือ สิ่งที่ไม่มีทางสูญเสียได้ ยกตัวอย่างเช่น ความฝัน ความปรารถนา , (นาฮีโด )ความสุขที่บริสุทธิ์ที่สุดเนื้อเรื่องของซีรีส์สะท้อนให้เห็นความแตกต่างและช่องว่างระหว่างตัวตนของทั้งสองซ้ำแล้วซ้ำเล่าผ่านสถานการณ์ของนักเรียนมัธยมปลายและผู้ใหญ่ เมื่อเราเป็นนักเรียนเรามักเต็มเปี่ยมไปด้วยความกระตือรือร้นและความมั่นใจ แต่เราก็มักจะใช้ชีวิตอย่างประมาทอยู่เสมอ แต่เมื่อเราเป็นผู้ใหญ่ โลกก็จะเป็นอิสระมากยิ่งขึ้น แต่ก็จะใช้ชีวิตบนความกังวลอยู่ตลอด แต่ชีวิตของเราจะเต็มไปด้วยความยากลำบากและการขาดความเห็นอกเห็นใจจากผู้อื่น 20 ประโยคที่จะทำให้คุณได้รับแรงบัลดาลใจในการใช้ชีวิตhttps://www.instagram.com/p/CathfgFBTfU/?utm_source=ig_web_copy_link1. ครูคะ ครูจะจบทั้งอย่างนี้ไม่ได้สิคะ มาพรากความฝันของพวกหนูไปแบบนี้ได้ยังไงในสถานการณ์ที่ต้องยุบชมรมฟันดาบเพราะสถานการณ์ IMF การที่ครูบอกให้นักเรียนกลับไปเรียนกลับไปใช้ชีวิตของตัวเองได้แล้ว เพราะสถานการณ์การเงินในตอนนั้นย่ำแย่มาก ทำให้ชมรมที่ไม่มีผลงานต้องถูกยุบไปตาม ๆ กัน แน่นอนว่าการยุบชมรมในครั้งนี้เป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้นักเรียนหลายคนถอดใจกับความฝันของตัวเอง แต่คำถามของนาฮีโดก็ทำให้สะเทือนใจเหมือนกัน เพราะในวัยนั้น "ความฝัน" เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่มาก และยิ่งได้ฟังคำตอบจากครูยิ่งทำให้สะเทือนใจแบบทวีคูณ " สิ่งที่พรากความฝันของเธอไปไม่ใช่ฉัน แต่เป็นยุคสมัยต่างหาก"2. ถ้าโลกของเธอสลายไปแล้ว ก็ไปโลกของคนคนนั้นสิถ้าความฝันต้องจบลงในช่วงเวลาที่ยังไม่ได้ลงมือทำแบบสุดตัวมันน่าเสียดายมาก ๆเลยจริงไหม ถ้ามีความฝันแล้วก็ไปให้สุดทาง แม้เส้นทางมันจะทุลักทุเลมากมาย ใช้ความฝันเป็นตัวนำทางและฝ่าฟันมันไปให้ถึงเป้าหมาย และถ้าในสถานที่ที่คุณอยู่ ไม่สนับสนุนความฝันของคุณ สิ่งที่แก้ปัญหานี้อย่างง่าย ๆ ก็คือ ออกไปอยู่ในสถานที่ที่สนับสนุนความฝันของคุณซะสิhttps://www.instagram.com/p/CbEbkDxMjAW/?utm_source=ig_web_copy_link3. ผมเพิ่งมาแถวนี้ครั้งแรก แถมส่งหนังสือพิมพ์ครั้งแรก ทุกคนต่างก็ต้องมีครั้งแรกนี่ครับ ครั้งแรกของผมคือวันนี้ ฉะนั้น ผมจะเงอะงะแค่วันนี้ครับ ตั้งแต่พรุ่งนี้จะไม่มาสายแล้วครับเป็นสถานการณ์ที่แพคอีจินไปส่งหนังสือพิมพ์ในย่านที่ไม่คุ้นเคย ทำให้เขาไปส่งล่าช้าจนมีคุณลุงคนหนึ่งออกมาโวยวาย เขาจึงอธิบายว่านี่เป็นครั้งแรกที่มาส่งหนังสือพิมพ์ที่นี้ ทำให้ยังไม่ชินกับเส้นทางจนเกิดความล่าช้า แต่เขารับรองว่านี้จะเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่เขาจะทำผิดพลาด เพราะหลังจากเขาชินเส้นทาง เขาจะมาส่งหนังสือพิมพ์ตามเวลาอย่างแน่นอน ประโยคที่แพคอีจินกล่าวข้างต้น เป็นสิ่งที่ยืนยันว่าทุกคนต้องมีครั้งแรกในการทำสิ่งใหม่ ๆ เสมอ และถ้าสิ่งที่ทำมันออกมาไม่ดี ก็แค่เรียนรู้และหาวิธีที่จะปรับปรุง4.หนูมีพรสวรรค์ในการฟันดาบนะ เพราะแบบนั้นหนูถึงได้เริ่ม ถึงตอนนี้จะอยู่ในช่วงตกต่ำ แต่หนูจะผ่านมันไปได้ และหนูก็ไม่ต้องการอะไรทั้งนั้น หนูแค่ชอบการฟันดาบในขณะที่หลายคนไม่เชื่อมั่นหรือไม่สนับสนุนในความฝันของเธา แต่นาฮีโดยังคงมั่นใจอย่างมากที่จะสู้เพื่อความฝันของตัวเอง ถ้าคุณอายุยังน้อยแล้วมีความฝัน อย่าละทิ้งความฝันของตัวเองและโอนอ่อนต่อคำพูดของคนอื่นง่าย ๆ เพราะถ้าคุณล้มเลิกความฝันเมื่อเวลาผ่านไปจนก้าวไปสู่วัยผู้ใหญ่ คุณจะรู้สึกเสียดายช่วงเวลาเหล่านั้นมาก ถ้าอายุยังน้อยเดินตามความฝันของคุณไปให้สุดทาง พยายาม ทุ่มเทให้สุดความสามารถ ถ้ามันจะไม่สำเร็จจริง ๆ ช่วงเวลาที่ยากลำบากทั้งหมดที่ผ่านมาก็จะยังเป็นความทรงจำที่สวยงามในจิตใจเสมอhttps://www.instagram.com/p/CZgId7Nrfv8/?utm_source=ig_web_copy_link5. การปกป้องความฝันน่ะ แม้แผนการของเธอจะผิด แต่ความตั้งใจของเธอถูกต้องแล้วการที่นาฮีโดอยากจะย้ายโรงเรียนเพราะจะได้ไปอยู่ชมรมฟันดาบ ทำให้เธอคิดแผนการมากมายเพื่อที่จะทำให้โรงเรียนไล่ออก หรือ สั่งย้าย และก็มาถึงความคิดสุดประหลาด อย่างการเข้าไปในไนต์คลับเพื่อที่จะทำให้ตัวเองถูกตำรวจจับเพราะอายุไม่ถึง แต่เธอก็ได้ไปเจอกับแพคอีจินและเขาก็ลากเธอออกจากที่นั้น พร้อมกับต่อว่าและเตือนสติเธอ เพราะสิ่งที่เธอทำมันไม่ใช่วิธีที่ถูกต้องเลย6. หนูไม่อยากเลิกฟันดาบไปดื้อ ๆ ทั้งอย่างนั้น จริงอยู่ที่หนูไม่เก่งและทำได้ไม่ดี แต่หนูพยายามอยู่จริง ๆ เพราะงั้น ช่วยหนูหน่อยหลังจากที่แพคอีจินได้เตือนสตินาฮีโด เธอจึงคิดหาทางออกของเรื่องนี้ และทางออกที่ดีที่สุดก็คือ การขอความช่วยเหลือจากแม่ของเธอนั่นเอง มันเป็นสิ่งที่เด็กในวัยของเธอมีสิทธิที่จะทำมากกว่าวัยอื่น ๆ การขอให้แม่ช่วยให้เธอย้ายโรงเรียนอย่างตรงไปตรงมาจึงเกิดขึ้น แม้ในตอนนั้นการพูดคุยระหว่างแม่ลูกจะไม่ดีนัก แต่สุดท้ายเธอก็ได้ย้ายโรงเรียน ทั้งหมดเกิดจากความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าของเธอที่จะรักษาความฝันของตัวเองไว้นั่นเอง7. การที่เธอชนะผู้เล่นที่สมบูรณ์แบบ มันแปลว่าเธอมีอะไรที่สมบูรณ์แบบกว่าผู้เล่นคนนั้นไม่ใช่เหรอ"พลัง" คือสิ่งที่จะทำให้คุณชนะ ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม จากตอนที่ฮีโดชนะการแข่งกับโกยูริม ถือเป็นจุดเริ่มต้นของก้าวที่สำคัญในเส้นทางสายนี้ โดยสิ่งสำคัญคือพลังในการทำสิ่งที่ตัวเองต้องการ เรียนรู้คู่แข่ง และพัฒนาตัวเองเสมอ อาจจะต้องบวกพรสวรรค์บ้างเล็กน้อย แต่สิ่งสำคัญคืออย่าด้อยค่าตัวเอง และบอกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องบังเอิญ เหมือนที่โค้ทได้ตำหนิฮีโด "บังเอิญเหรอ!! นี่เธอดูถูกโกยูริมมากเลยนะ ไม่เคยมีผู้เล่นคนไหนบังเอิญ ชนะโกยูริมเลยสักคน แม้แต่ในการแข่งขันระดับนานาชาติ แต่เธอเป็นใครถึงมาบอกว่าการชนะโกยูริมเป็นเรื่องบังเอิญ อย่าด้อยค่าตัวเองนะ"8. ยุคสมัยบีบให้เรายอมทิ้งทุกอย่างแล้ว จะยอมทิ้งความสุขไปด้วยได้ไงเป็นคำพูดที่นาฮีโดใช้ดึงสติของแพคอีจิน ในช่วงเวลาที่เขาเจอเรื่องราวที่ลำบากใจและเจ็บปวด เธอได้ยืนข้างเขาและให้ถ้อยคำปลอบโยนจิตใจ และกล่าวบอกกับเขาให้เขาลองแอบมีความสุข เฉพาะเวลาที่อยู่กับเธอก็ได้ หาสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ทำให้เกิดรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ อย่าให้ตัวเองต้องเจ็บปวดมากเกินไปเลย "เรามามีความสุขกันบ่อย ๆ นะ นายเลือกไม่ได้นายต้องทำ นายบอกคุณลุงพวกนั้นไว้ใช่ไหมว่าต่อไปนี้จะไม่ขอมีความสุขอีกไม่ว่าช่วงเวลาไหน ฉันขอค้านนะ" นาฮีโด 9. สิ่งที่ผมเชื่อว่าจะไม่มีทางเปลี่ยนไปในโลกนี้ คือ แรงโน้มถ่วงเท่านั้นผมคิดว่าไม่มีอะไรวางใจได้ว่าจะไม่เปลี่ยนครับ เพราะฉะนั้นผมเลยเชื่อในแรงโน้มถ่วงเท่านั้น , พัคอีจิน ใช่แล้ว ทุกสิ่งในโลกล้วนเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็น ใจคน การกระทำ ธรรมชาติ ฯลฯ ทุกอย่างสามารถที่จะเปลี่ยนแปลงได้ตลอด ขึ้นอยู่กับว่าจะเปลี่ยนเมื่อไหร่เท่านั้นเอง แต่ทั้งหมดทั้งมวลโลกก็สร้างบางสิ่งบางอย่างที่เป็นข้อยกเว้นมา และสุดท้ายแล้ว นาฮีโด คือข้อยกเว้นของ แพคอีจิน10. ทุกเรื่องเศร้าในชีวิตเรา คือเรื่องตลกเมื่อมองจากที่ไกล ๆช่วงเวลาที่ต้องเจอเรื่องเศร้าหรือทุกข์ใจ ไม่ว่าช่วงเวลานั้นจะเกิดขึ้นกับใครก็ตาม เวลาช่วงนั้นช่างผ่านไปอย่างเชื่องช้าเหมือนกับว่าความทุกข์และความเศร้าจะอยู่กับเราไปทั้งชีวิต แต่เมื่อเวลาผ่านไปจนจิตใจดีขึ้นในระดับหนึ่งแล้ว พอมองย้อนกลับไปในช่วงเวลานั้นอีกครั้ง ความรู้สึกเจ็บปวดกลับไม่มีอยู่แล้ว 11. จะปล่อยให้ทุกวันเป็นเรื่องเศร้า แค่เพราะแพ้ตลอดไม่ได้นี่นา พอหัวเราะออกก็จะลืมมันง่ายขึ้น ต้องลืมถึงจะก้าวต่อไปฟังแล้วก็รับรู้ได้เลยว่าฮีโดเป็นผู้หญิงที่อบอุ่นอย่างมาก เห็นได้ชัดจากคำพูดที่มีพลังบวกของเธอ และวันที่อีจินบอบช้ำทางจิตใจ ก็จะมีฮีโดคอยอยู่ข้าง ๆ เพื่อปลอบใจเขาเสมอ และทุก ๆ ครั้งคำพูดน่ารัก ๆ ของเธอก็ทำให้ชีวิตของเขามีชีวิตชีวามากขึ้นในทุก ๆ วัน12. เหตุผลที่เธอแพ้ เพราะเธอคิดว่าเธอจะแพ้ และฉันจับได้ว่าเธอคิดแบบนั้นโค้ชได้คุยกับฮีโด และสังเกตได้ว่าจิตใจของเธอไม่มั่นคง ดังนั้นการที่จิตใจไม่มั่นคง ไม่มีความเชื่อมั่นในตัวเองมันก็จะแสดงออกมาชัดเจนจนคู่แข่งสังเกตได้ และแน่นอนว่าสุดท้ายความพ่ายแพ้ก็จะต้องตกเป็นของฮีโดhttps://www.instagram.com/p/CbL_LmgvaYp/?utm_source=ig_web_copy_link13. อย่าขี้ขลาดไปเลยหรือต่อให้ขี้ขลาดก็อย่าให้โดนจับได้การที่ฮีโด ไม่มั่นใจ ทำให้โค้ชรู้สึกกังวลถึงขั้นต้องเตือนสติเธอ เพราะถ้าเธอไม่เชื่อว่าตัวเองจะทำได้ หรือไม่มั่นใจในฝีมือ ทุกอย่างก็จะแสดงออกมา และมันก็ไม่เป็นผลดีต่อเธอมาก ๆ ดังนั้นถ้าขี้ขลาดก็อย่าให้คู่แข่งจับได้ เธอต้องซ่อนมันไว้ให้ลึกที่สุด นี่คงเป็นสิ่งที่โค้ชต้องการเพื่อประโยชน์ของฮีโดเอง14.เธอได้สะสมบันไดความล้มเหลว และตอนนี้บันไดของเธอสูงที่สุดแล้วสิ่งที่อีจินพูดกับฮีโดนั้นน่าประทับใจมากจริง ๆ แม้ว่าฮีโดจะบอกเขาว่าเธอแพ้มาหลายครั้งเกินไป อีจินจึงบอกกับเธอว่า เธอจะไม่มีทางล้มเหลว เพราะเธอสะสมความล้มเหลวมาไว้แล้ว ดังนั้นความล้มเหลวสำหรับเธอมันคือภูมิต้านทานในตัวเธอไปแล้ว ต่อจากนี้ไม่ว่าจะทำอะไรมันก็จะเป็นสิ่งที่ดีกับตัวเธอในทุก ๆ ทาง15. การคาดหวังให้ออกมาดีทั้งที่ไม่พยายาม น่าอายมากกว่าอีกไม่ใช่เหรอฮีโดเป็นตัวแทนของความพยายาม แม้เธอจะมีพรสวรรค์ด้วยก็ตาม แต่ตลอดเส้นทางเราจะเห็นเธอพยายามเพื่อความฝันของเธออย่างสุดความสามารถเสมอ ดังนั้นการคาดหวังต่อที่ 1 ของเธอจึงมีค่าและเป็นสิ่งที่เธอควรค่าที่จะได้มันมาครอบครอง16. ผมว่าเรายังไม่เคยรู้จักโลกที่ไม่เป็นไรถึงแม้จะทำไม่ได้ หรือแม้ว่าจะล้มเหลว แต่ยังไงก็ทำให้เต็มที่เท่าที่ไหวกันเถอะครับอีจินถูกขอจากฮีโดให้จัดรายการวิทยุที่ชมรมกระจายเสียงของโรงเรียน และประโยคนี้ของเขาก็ได้ออกอากาศในโรงเรียน ตอนที่นักเรียนทุกคนกำลังเตรียมตัวสอบอยู่ มันเป็นประโยคที่มีความหมายอย่างมาก เพราะไม่ค่อยจะมีใครบอกให้เราล้มเหลวได้เลยในชีวิตจริง มีแต่หวังที่จะให้ประสบความสำเร็จทั้งนั้น17. ผมหวังว่าต่อให้เราล้มเหลว เราก็จะมีจิตใจที่เข้มแข็งมากพอ ที่จะลุกขึ้นมาใหม่นะครับประโยคนี้ของอีจินในตอนนั้นก็คงจะไปโดนใจนักเรียนในโรงเรียนหลาย ๆ คน ที่ทิ้งเวลาความสนุก การเล่นกับเพื่อน เพื่ออ่านหนังสือกันอย่างเอาเป็นเอาตาย และทุกคนก็อยากมีชีวิตที่ดีที่ประสบความสำเร็จ แต่ในชีวิตมันก็ไม่ได้ง่ายที่จะไม่มีใครล้มเหลวเลย ดังนั้นไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นความเข้มแข็งจะพาให้ผ่านเรื่องราวต่าง ๆ ไปได้18. ไม่ว่านายจะอยู่ที่ไหน ฉันจะส่งแรงใจไปถึงนายให้ได้ ฉันจะไปหานายเองไว้เจอกันตอนนั้นนะเมื่ออีจินรู้สึกอ่อนแอ เขาจะเข้าไปในตู้โทรศัพท์สาธารณะและฟังเสียงของฮีโดซ้ำไปซ้ำมา ทั้งสองทำงานหนักและพ่ายแพ้ในที่ต่าง ๆ แต่พวกเขายังคงเดินหน้าต่อไปด้วยความร่าเริงและความอบอุ่น แม้ไม่ได้เจอกันแต่ก็ยังคงคิดถึงกัน เข้าใจกัน และเป็นคนที่มีอิทธิพลต่อความรู้สึกของอีกคนเสมอ เป็นความรู้สึกที่ดีแต่ก็น่าหนักใจ19. นักกีฬาจำเป็นต้องลงแข่ง ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะก็ต้องลงแข่งก่อน จะได้รู้สึกถึงพัฒนาการ จากนั้นก็จะได้ไปต่อบางคนมุ่งแต่จะเอาชนะ แต่สำหรับฮีโดเธอคิดลึกซึ้งกว่านั้น แน่นอนว่าฮีโดมีความฝันว่าอยากเป็นที่ 1 แต่เธอก็ไม่ได้เป็นคนที่แพ้ไม่เป็น เธอจะใช้ทุกช่วงเวลาเพื่อพัฒนาตัวเองเสมอ ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะเธอจะไม่ยอมถอดใจ 20. เรื่องนี้ไม่เกี่ยวว่าเธอคิดยังไงกับฉันหรอก ไม่ว่าเธอจะทำอะไร ไม่ว่าเธอจะเป็นแบบไหน ฉันก็รักเธอในแบบที่เธอเป็นประโยคนี้ของอีจินทัชใจอย่างมาก ความรักที่ไม่ได้คาดหวังอะไร ไม่ต้องการสิ่งใดตอบแทน ถือเป็นความรักที่หายากมาก การที่คน ๆ หนึ่งจะสนับสนุนทุกช่วงเวลาของเรา อีจินบอกให้ฮีโดทำทุกอย่างที่อยากทำได้เลย เขาก็แค่รักเธอและไม่ต้องการให้เธอมอบอะไรตอบแทน แค่จะยืนอยู่ในจุดที่เธอสามารถมองเห็นเขาไปตลอดเท่านั้นเอง เครดิตภาพและวิดีโอtvn_dramaภาพปก 1-2ภาพประกอบ 1,2,3,4,5บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ10 ซีรีส์จีนกระแสปังในโซเชียลจาก WeTV และ iQIYI ปี 2021 พร้อมเทคนิคการแต่งห้องที่จะทำให้การดูซีรีส์ปังยิ่งขึ้น5 ไฮไลท์ซีรีส์วายเกาหลี "Semantic Error" รักวุ่น ๆ ของรุ่นพี่นักออกแบบสุดฮอตกับรุ่นน้องวิศวะคอมสุดเย่อหยิ่ง5 ซีรีส์เกาหลีพีเรียดหรือโรแมนติกอิงประวัติศาสตร์สุดฮอตฮิต ปี 2021รีวิวซีรีส์ The Red Sleeve EP16-17 บทสรุปความรักของ "อีซานและด็อกอิม"strong>รู้จักนักแสดงจากซีรีส์ องค์หญิงอย่าดื้อนะ Naughty Princess (2021) นำโดย สวี่เสี่ยวนั่ว จางสือฟาน หวังซวี่ตง และ ไฉเว่ย3 ซีรีส์ยอดฮิตของจางเจ๋อฮั่น พระเอกดังมากฝีมือแดนมังกรขวัญใจสาวไทยรีวิวซีรีส์VSนิยายต้นฉบับเรื่อง ลำนำรักเคียงบัลลังก์ (Dream of Chang’an) ซีรีส์ดราม่าที่ควรค่าแก่การเสียน้ำตาจะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !