เชื่อว่าพอเราเข้าสู่ช่วงมหาวิทยาลัยหรือวัยทำงาน มักจะมีช่วงนึงที่เรารู้สึก burn out หรือหมดไฟ ไม่มีแรงจูงใจในการทำงาน ถ้าเป็นอย่างงั้นเราก็อยากจะขอแนะนำหนังดีๆ จากปี 2013 เรื่อง "The Secret Life of Walter Mitty" แสดงโดยพระเอกชื่อดังอย่าง Ben Stiller นั่นเองค่ะ พล็อตเรื่องอาจจะดูเว่อร์วังไป แต่พอดูจบนั้นได้ทั้งความสุขแล้วก็ได้เปลี่ยนมุมมองใหม่ให้กับชีวิตเลยค่ะเนื้อเรื่องหลักก็เกิดขึ้นในยุคที่คนเริ่มอ่านสื่อสิ่งพิมพ์น้อยลงและหันมาอ่านนิตยสารแบบออนไลน์มากกว่า ทำให้บริษัทนิตยสารอย่าง Life ต้องทำการปรับเปลี่ยนตามความต้องการของตลาดโดยการหันไปขายนิตยสารออนไลน์แทน และต้องการที่จะสั่งพิมพ์ Life ฉบับสุดท้ายเป็นการปิดตำนานนิตยสาร ส่วนทางด้าน Walter Mitty พระเอกของเรานั้นได้ทำงานเป็นหัวหน้าแผนกรูปภาพที่ถ่ายจากกล้องฟิล์ม ซึ่งเป็นกล้องที่คนส่วนใหญ่ไม่ใช้กันแล้ว จะมีก็แต่ช่างภาพมือฉมังสุดอินดี้อย่าง Sean O'Connell ที่ยังคงใช้ถ่ายภาพขณะเดินทางทั่วโลก ไม่มีที่อยู่เป็นหลักเป็นแหล่ง ไม่มีโทรศัพท์และจะติดต่อก็เพียงแต่ทางจดหมายเท่านั้น เรียกได้ว่าหาตัวยากสุดๆ แต่ถึงกระนั้น Sean O'Connell ก็สนิทกับ Walter Mitty มากๆ เพราะเขาบอกว่า Walter แทบจะเป็นคนเดียวในบริษัทที่ทุ่มเทใจให้กับงานและเข้าใจในตัว Sean โดยในที่สุด Walter ก็ได้ม้วนฟิล์มมา พร้อมของขวัญซึ่งก็คือกระเป๋าตังทำจากหนังซึ่ง Sean เป็นคนทำเองกับมือ พร้อมสลักคำขวัญของนิตยสาร Life ไว้ข้างใน รวมถึงจดหมายขอบคุณและยังบอกอีกว่า "รูปที่ 25 คือรูปที่ดีที่สุด เป็นรูปที่สื่อให้เห็นถึงแก่นสารของนิตยสาร Life" เลยทีเดียว ฟังดูยิ่งใหญ่มาก แต่ Walter กลับพบว่า รูปที่ 25 กลับหายไป หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ ยังไม่ทันไรทางบริษัทก็เรียกประชุม Ted Hendricks หัวหน้าที่จะเป็นคนควบคุมโปรเจคที่จะเปลี่ยน Life ให้กลายเป็นสื่อออนไลน์ เขาบอกว่าได้รับจดหมายจาก Sean O'Connell ว่าต้องการที่จะให้รูปที่ 25 ขึ้นหน้าปก เพราะนั่นคือแก่นสารของนิตยสาร Life ได้ยินอย่างนั้น Walter ก็หน้าซีดเผือกเพราะยังหารูปไม่เจอ Hendricks ก็แทบจะถามหารูปที่ 25 ทุกครั้งที่เดินสวนกัน ทำให้ Walter ต้องตัดสินใจออกเดินทางตามหา Sean เพื่อที่จะเอารูปที่ 25 มาทำเป็นหน้าปกให้กับนิตยสาร Life ฉบับสุดท้ายโดยได้รับความช่วยเหลือจาก Cheryl Melhoff เพื่อนร่วมงานสาวสวยที่ Walter แอบชอบมานานมากๆ และได้ยินเธอคุยกับเพื่อนว่าเธอใช้บริการเว็บหาคู่เดทอย่าง eHarmony อยู่ เขาก็ลงทุนสมัครสมาชิกไว้เพื่อที่จะกดส่งเครื่องหมายขยิบตา (อารมณ์เหมือนปัดไปทางซ้ายของ Tinder 5555) ไปให้เธอเพียงแค่คนเดียว แต่ระบบกลับพังทำให้เขาส่งให้เธอไม่ได้ น่าสงสารยิ่งนัก 555555 แต่ยังดีที่เขากล้าที่จะเข้าไปทักถามเธอเรื่องที่อยู่ของ Sean และหลังจากนั้นเธอก็พยายามช่วย Walter ตามหา Sean ให้เจอในเรื่องจะเล่าถึงชีวิตอันแสนธรรมดาของ Walter Mitty เป็นพนักงานบริษัทธรรมดา ไม่เคยออกไปเที่ยวที่ไหน ไม่เคยทำอะไรที่น่าจดจำ ซึ่งต่างจากวัยเด็กที่ดูแล้วเขาก็เจ๋งพอควร ทั้งการไว้ผมทรง Mohawk และเล่นสเก็ตบอร์ดที่สกิลอยู่ในระดับเทพ แต่พอโตมากลับเป็นอย่างที่กล่าวข้างต้นแถมยังชอบเหม่อลอยอยู่บ่อยๆ จน Hendricks และคนอื่นๆ แอบแกล้งอยู่บางครั้ง เรื่องที่เหม่อลอยก็จะเกี่ยวกับตัวเขาในแบบที่เขาอยากเป็น คือรักการผจญภัย กล้าหาญ มีความมั่นใจในตัวเองและมีสเน่ห์มากพอที่จะมัดใจ Cheryl สาวในฝันของเขาได้อยู่หมัด และเหตุการณ์ทั้งหมดก็พลิกผันเมื่อเขาต้องตัดสินใจออกเดินทางตามหา Sean O'Connell ซึ่งจากอเมริกาไปถึง Greenland, Iceland และที่โหดสุดๆ คือ Afghanistan เพื่อตามหารูปที่ 25 เลยทีเดียว การเดินทางครั้งนี้ Walter ต้องเจอกับเหตุการณ์เสี่ยงตายหลายเหตุการณ์ทั้งฉลาม นั่งเฮลิคอปเตอร์กับคนขับที่เมาจนแทบจะเดินไม่ได้ ภูเขาไฟระเบิด ผู้ก่อการร้าย สิ่งที่เขาได้เจอมาทำให้เขาเปลี่ยนไปเป็นคนละคน เหม่อลอยน้อยลง (เหมือนหนังจะสื่อว่าชีวิตเราควรจะเป็น Doer มากกว่า Dreamer หรือลงมือทำดีกว่าเก็บไว้ให้มันเป็นเพียงแค่ฝัน) มีความมั่นใจในตัวเองซึ่งเราจะเห็นได้จากทั้งสีหน้า ท่าทาง และบุคลิกภายนอกที่จากหนุ่มติ๋มๆ สู่ชายไว้หนวดสุดคูลที่แม้แต่ Todd พนักงานที่ eHarmony ยังถึงกับบอกว่า "ตอนที่คุยกันครั้งแรกผมนึกไม่ถึงเลยว่าคุณจะหน้าตาแบบนี้" ซึ่งมันก็ไปตรงกับคำขวัญของนิตยสาร Life ที่กล่าวไว้ว่าTo see the world, things dangerous to come to, to see behind walls, draw closer, to find each other, and to feel. That is the purpose of life.หรือแปลได้คร่าวๆ ประมาณ เพื่อที่จะออกเดินทางเห็นโลกทั้งใบ เผชิญหน้ากับภัยอันตราย มองข้างหลังกำแพงเพื่อเจออีกมุมนึง ใกล้ชิดกันมากขึ้น เพื่อที่จะค้นหาซึ่งกันและกันเพื่อที่จะได้รู้สึก นี่คือเป้าหมายของชีวิต ซึ่งพอเขาหารูปที่ 25 เจอ ทาง Life ก็สั่งพิมพ์ฉบับสุดท้ายออกมา ซึ่งพอได้เห็นภาพหน้าปกแล้วถึงกับขนลุก เพราะนั่นคือภาพที่สามารถสื่อถึงแก่นแท้ของนิตยสาร Life จริงๆ ถ้าอยากรู้ว่ารูปอะไรแนะนำให้ไปดูเลยค่ะ ภาพสวยยิ่งดูยิ่งอยากไปเที่ยว โดยเฉพาะ Iceland ซึ่งธรรมชาติสวยมากๆ แถมในเรื่องก็ยังมีเพลงประกอบจากวงอินดี้ชื่อดังจากไอซ์แลนด์อย่าง Of Monsters and Men ในเพลง Dirty Paws รวมไปถึงเพลง Stay Alive ของ Jose Gonzalez ซึ่งเพราะทั้งสองเพลงเลยค่ะ เราเชื่อว่าพอดูหนังเรื่องนี้จบ ทุกคนจะต้องรู้สึกอยากออกไปเดินทางเพื่อค้นหาแก่นแท้ของชีวิต หรือเริ่มกล้าที่จะทำอะไรใหม่ๆ เพื่อเปลี่ยนตัวเองให้ดีกว่าเดิม กล้าที่จะออกจาก comfort zone ของตัวเองเพื่อทำตามความฝัน หรือแม้แต่จะรู้สึกอบอุ่นหัวใจไปกับหนัง feel good เรื่องนี้แน่ๆ ค่ะ และขอปิดท้ายด้วยคำคมจากนางเอกของเรา Cheryl Melhoff ที่กล่าวไว้ว่าLife is about courage and going into the unknownหรือจับใจความได้ว่า ชีวิตคนเราอะนะ มันก็ต้องมีความกล้าหาญมากพอที่จะออกเดินทางไปในที่ที่เราไม่รู้จักเสียบ้าง หรือพูดง่ายๆ ก็คือกล้าที่จะออกจาก Comfort Zone นั่นเอง ขอบคุณภาพจากhttps://static1.squarespace.com/static/55fdcd53e4b04d304c93553a/55fdd0b0e4b0fa9f9a87579e/5a6915b771c10b3ffdeaea41/1517285586758/the-secret-life-of-walter-mitty-teaser-trailer-skateboarding.jpg?format=1500whttps://www.imdb.com/title/tt0359950/mediaindex?ref_=tt_pv_mi_sm