เข้าขั้นวิกฤต! สตูดิโอ Aardman Animations เหลือดินน้ำมันให้ทำหนังได้อีกเรื่องเดียว
ดูเหมือนเป็นเรื่องขำ ๆ แต่กำลังจะเป็นวิกฤติที่ยากลำบากไม่น้อยของบริษัท อาร์ดแมน แอนิเมชัน (Aardman Animations) บริษัทผลิตแอนิเมชันจากประเทศอังกฤษ ที่โด่งดังในระดับโลกจากผลงานแอนิเมชันเทคนิคสต็อปโมชัน (Stop-Motion) ที่สร้างขึ้นจากการปั้นดินน้ำมัน (Claymation) จนกลายเป็นเอกลักษณ์ของค่ายนี้ไปแล้ว
Aardman Animations บริษัทที่ก่อตั้งมากว่า 51 ปี ยังเป็นเจ้าของคาแรกเตอร์แอนิเมชัน Stop-Motion ดัง ๆ มากมายที่หลายคนน่าจะเคยชมกันทั้งในรูปแบบซีรีส์ และภาพยนตร์มาแล้ว เช่น ‘Wallace & Gromit’, ‘Shuan the Sheep’ และ ‘Chicken Run’ ที่ตอนนี้กำลังเผชิญวิกฤติใหญ่ หลังจากพบว่าพวกเขามีสต็อกดินน้ำมันในการผลิตแอนิเมชันของค่ายได้อีกเพียงแค่เรื่องเดียวเท่านั้น
เว็บไซต์ The Telegraph ได้รายงานว่า เวลานี้ Aardman Animations กำลังเผชิญกับปัญหาที่ส่งผลต่อเอกลักษณ์เฉพาะตัวของค่าย นั่นก็คือการขาดแคลนดินน้ำมันชนิดพิเศษที่เรียกว่า ลูอิส นิวพลาสต์ (Lewis Newplast) ที่สั่งผลิตขึ้นโดยเฉพาะ เนื่องจากบริษัท นิวเคลย์ โปรดักส์ (Newclay Products) ที่มีโรงงานตั้งอยู่ในย่านนิวตันแอบบอต (Newton Abbot) เมืองทอร์คีย์ (Torquay) ผู้ผลิตดินน้ำมันชนิดดังกล่าวให้กับ Aardman Animations ได้ปิดโรงงานของตัวเองไปเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
แม้ Aardman Animations จะสั่งสต็อกดินน้ำมันล็อตสุดท้ายจากโรงงานทั้งหมดเอาไว้เรียบร้อยแล้วก็ตาม แต่จำนวนสต็อกดินน้ำมันทั้งหมดที่สตูดิโอมีนั้น เพียงพอในการผลิตภาพยนตร์แอนิเมชันได้อีกเพียงเรื่องเดียวเท่านั้น นั่นก็คือหนังภาคใหม่ของ ‘Wallace and Gromit’ ที่จะออกฉายทาง Netflix ในปี 2024
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา Aardman Animations ได้สั่งให้ โรงงาน Newclay Products ผลิตดินน้ำมันชนิดพิเศษขึ้นมาเพื่อใช้สำหรับในการปั้นขึ้นรูปตัวละครทั้งคน สัตว์ สิ่งของ และแบ็กกราวนด์ในแอนิเมชันของตัวเองโดยเฉพาะเพียงเจ้าเดียวเท่านั้น และไม่สามารถสั่งจากโรงงานอื่นมาทดแทนได้ ซึ่งในระยะยาว หาก Aardman Animations ต้องการจะผลิตแอนิเมชันต่อไป คาดว่าสตูดิโอคงต้องค้นหาซัปพลายเออร์ดินน้ำมันรายใหม่ ที่จะผลิตดินน้ำมันสูตรเฉพาะนี้ให้โดยเฉพาะ
หรืออีกทางที่อาจเป็นไปได้ แต่คงไม่ง่ายนัก ก็คือการปรับตัวจากการทำแอนิเมชันเทคนิค Claymation มาสู่การผลิตแอนิเมชันด้วย CGI แบบเต็มตัว เพราะก่อนหน้านี้สตูดิโอก็เคยทดลองผลิตแอนิเมชันด้วยคอมพิวเตอร์กราฟิกมาแล้ว เช่น ‘Flushed Away’ (2006) และ ‘Arthur Christmas’ (2011) ที่ไม่ประสบความสำเร็จทั้งในแง่รายได้ และเอกลักษณ์ภาพจำได้เท่ากับงาน Stop-Motion ดั้งเดิมของตัวเอง และถือเป็นเรื่องท้าทายของบริษัทไม่น้อย เพราะทั้งใช้ต้นทุนสูงกว่า และตลาดแอนิเมชัน CGI ในระยะหลังที่อิ่มตัวมาสักระยะหนึ่งแล้ว
The Telegraph ยังได้สัมภาษณ์ผู้ก่อตั้งบริษัทผลิตดินน้ำมัน Newclay Products อย่าง พอล (Paul Dearing) และ วาเลอรี เดียริง (Valerie Dearing) ที่ตัดสินใจปิดโรงงาน เพราะทั้งคู่เริ่มชราและต้องการเกษียณ หลังจากที่ผลิตดินน้ำมัน Lewis Newplast ที่ตั้งตามชื่อของครูสอนศิลปะตระกูล Lewis ผู้คิดค้นดินเหนียวชนิดนี้ในทศวรรษ 1960
ความพิเศษของดินน้ำมันชนิดนี้คือ สามารถจัดการได้ง่ายและรวดเร็ว เนื่องจากเป็นดินน้ำมันแบบแห้งที่ผสมไนลอน ทำให้ดินน้ำมันนี้สามารถขึ้นรูปได้โดยไม่ต้องตากแห้ง เคลือบ หรือให้ความร้อนเพื่อให้แข็งตัว วาเลอรีได้กล่าวถึงสต็อกดินน้ำมันสุดท้ายว่า “Aardman ได้ซื้อสต็อก Newplast ที่เหลืออยู่จำนวนมาก เพื่อให้สามารถดำเนินการต่อไปได้ พวกเขาได้สิ่งที่พวกเขาบอกว่าคุ้มค่ากับเวลา 2 ปี พวกเขาได้ไปประมาณ 40 กล่อง ซึ่งก็น่าจะหนักสักประมาณ 400 กิโลกรัมได้”
“เราดำเนินธุรกิจนี้มา 16 ปีแล้ว และธุรกิจกำลังเฟื่องฟูมาก แต่เรามองไม่เห็นใครที่ต้องการจะเข้ามารับช่วงต่อบริษัทหลังจากนี้ หลังจากที่เราเกษียณแล้ว เราจึงต้องขายทุกอย่างทิ้งไป การที่ Aardman ใช้ผลิตภัณฑ์ของเรานั้น เป็นสิ่งที่ทำให้พวกเราทั้งคู่มีความสุขตลอดมา เพราะพวกเขามองว่ามันเป็นวัสดุที่ดีที่สุดในโลก” พอล สามีของวาเลอรีกล่าว
Aardman Animations ก่อตั้งขึ้นในปี 1972 โดย ปีเตอร์ ลอร์ด (Peter Lord) และ เดวิด สปรอซ์ตัน (David Sproxton) มีผลงานแรกในการผลิตแอนิเมชันให้กับรายการเด็ก ‘Vision On’ ออกอากาศทางช่อง BBC ก่อนจะเริ่มผลิตแอนิเมชันในเทคนิค Stop-Motion และ Claymation ในรูปแบบรายการทีวี รวมทั้งหนังสั้น และโฆษณาออกมาอีกมากมาย จนถึงปี 2000 สตูดิโอได้เริ่มผลิตแอนิเมชัน Claymation ขนาดยาวเรื่องแรก ‘Chicken Run’ (2000) ให้กับ DreamWorks Animation
และยังเป็นเจ้าของคาแรกเตอร์คู่หูคนกับสุนัข ‘Wallace & Gromit’ โดยใน ‘Wallace & Gromit: The Curse of the Were-Rabbit’ (2006) สามารถคว้ารางวัลออสการ์ สาขาภาพยนตร์แอนิเมชันยอดเยี่ยมมาครอง รวมทั้งคาแรกเตอร์เจ้าแกะสุดป่วน ‘Shaun the Sheep’ ที่กลายมาเป็น 3 แฟรนไชส์แอนิเมชัน Claymation หลักที่เป็นเอกลักษณ์ขอบริษัทในเวลาต่อมา
รวมทั้งยังเป็นเจ้าของผลงานมิวสิกวิดีโอ Stop-Motion ในตำนาน ทั้งเพลง “Sledgehammer” ของ ปีเตอร์ แกเบรียล (Peter Gabriel), “My Baby Just Cares For Me” ของ นีนา ซีโมน (Nina Simone) และ “Viva Forever” ของ สไปซ์ เกิร์ลส์ (Spice Girls) อีกด้วย
พอล ในฐานะเบื้องหลังผู้ผลิตดินน้ำมันที่ถูกใช้ปั้นเติมเสริมแต่งจนมีชีวิต ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า “สิ่งนี้นับเป็นมรดกที่ยิ่งใหญ่ที่เราได้เป็นส่วนหนึ่ง เมื่อมองย้อนกลับไปและรู้ว่า ตัวละครยอดเยี่ยมที่พวกเขาสร้างขึ้นนั้น ถูกสร้างขึ้นจากดินน้ำมันของเรา แม้ว่าเราจะไม่ได้รับเครดิต เพราะในฐานะซัปพลายเออร์ เราอยู่ในส่วนเบื้องหลังมาก ๆ แต่เราก็ภูมิใจมากที่บริษัทของเราได้เป็นส่วนสำคัญในกระบวนการทางศิลปะ”
ที่มา: The Telegraph, Screen Rant