รีเซต

"เลียม นีสัน" รุ่นใหญ่วัย 72 เล็งจะเลิกรับบทแอ็กชันภายในสิ้นปี 2025

"เลียม นีสัน" รุ่นใหญ่วัย 72 เล็งจะเลิกรับบทแอ็กชันภายในสิ้นปี 2025
แบไต๋
26 ตุลาคม 2567 ( 09:00 )
42

เลียม นีสัน (Liam Neeson) นักแสดงรุ่นใหญ่วัย 72 ปี ที่ผู้ชมในยุคหลังจดจำได้จากบทแอ็กชันมากมายตั้งแต่กลางยุค 2000s จนถึงปัจจุบัน เล็งจะเลิกรับบทแอ็กชันในปี 2025

แม้ว่าจะเริ่มเข้าวงการในปลายยุค ‘70s ด้วยการแสดงบทดราม่าที่น่าชื่นชม และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์จาก ‘Schindler’s List’ (1993) แต่ช่วงครึ่งหลังในอาชีพนักแสดงของนีสันนั้น ได้รับการจดจำในฐานะนักแสดงแอ็กชันตลอดระยะเวลา 16 ปีที่ผ่านมา ซึ่งแม้ว่าเขาจะอายุสูงถึง 72 ปีแล้ว แต่ก็แสดงฉากแอ็กชันต่อสู้ด้วยตนเอง โดยได้รับความช่วยเหลือจาก มาร์ค แวนซีโลว์ (Mark Vanselow) ผู้ดูแลงานสตันท์ที่ร่วมงานกับเขามานาน

นีสันให้สัมภาษณ์กับนิตสาร People ว่า "ผมอายุ 72 ปีแล้ว ผมต้องหยุดทำอะไรแบบนี้สักที คุณหลอกคนดูไม่ได้หรอก และคุณก็คงไม่อยากให้ มาร์ก แสดงฉากต่อสู้แทนผม"

ทั้งนี้ เขาได้พูดเอาไว้กว้าง ๆ ว่าอาจจะรับบทนำในภาพยนตร์แอ็กชันเรื่องสุดท้ายในปี 2025 "อาจเป็นสิ้นปีหน้า ผมคิดอย่างนั้นนะ"

นับตั้งแต่รับบทนำใน ‘Taken’ (2008) ภาพยนตร์แอ็กชันของ ลุก แบซง (Luc Besson) ซึ่งประสบความสำเร็จด้านรายได้ทั่วโลกถึง 226.8 ล้านเหรียญ จากทุนสร้าง 20 ล้านเหรียญ ส่งผลให้นีสันได้แสดงนำในภาพยนตร์แอ็กชันฟอร์มดีหลายเรื่องต่อมา เช่น ‘The A-Team’ (2010), ‘Unknown’ (2011), ‘The Grey’ (2012), ‘Taken 2’ (2012), ‘Non-Stop’ (2014), ‘Taken 3’ (2014), ‘Run All Night’ (2015) และ ‘The Commuter’ (2018) เป็นต้น รวมถึงภาพยนต์แอ็กชันฟอร์มเล็กในยุคหลังอย่าง ‘Cold Pursuit’ (2019), ‘The Ice Road’ (2021) และล่าสุดใน ‘Absolution’ ที่มีกำหนดฉายในเดือนพฤศจิกายน 2024 ซึ่งเขาได้กลับมาร่วมงานกับผู้กำกับ ฮานส์ เพตเตอร์ โมแลนด์ (Hans Petter Moland) จาก ‘Cold Pursuit’ อีกครั้ง

โมแลนด์ได้กล่าวกับนิตยสาร People เกี่ยวกับสิ่งที่ทำให้นีสันกลายเป็นแอ็กชันฮีโรที่ผู้ชมชื่นชอบว่า "เมื่อสวมบทบาทแล้ว เขาจะกลายเป็นตัวละครนั้น คุณจะเห็นเขาแสดงออกถึงความเจ็บปวดของตัวละครในฉากแอ็กชันอย่างสมจริง"

ผลงานถัดไปของนีสัน คือ ‘Hotel Teharan’ ภาพยนตร์แอ็กชันระทึกขวัญของผู้กำกับ กาย โมช (Guy Moshe) ประกบคู่กับ แซคารี ลีวาย (Zachary Levi) ซึ่งเริ่มถ่ายทำเมื่อปลายซัมเมอร์ที่ผ่านมา และมีกำหนดฉายในปี 2025

ที่มา : Variety