แม่ 'แตงโม นิดา' รีบขับรถมาดูลูก ร่ำไห้โฮ "โมอย่าทิ้งแม่ไป" เผยลางสังหรณ์
แม่ 'แตงโม นิดา' รีบขับรถมาดูลูก ร่ำไห้โฮ "โมอย่าทิ้งแม่ไป" เผยลางสังหรณ์ อยู่ ๆ ก็คิดถึงลูกมากตอน 4 ทุ่ม ทั้งที่ไม่เคยไปหาป้า แต่ก็ไป
เมื่อเวลา 03.40 น. วันที่ 25 ก.พ. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางพนิดา ศิริยุทธโยธิน มารดาของ น.ส.นิดา พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม ดาราสาวชื่อดัง ได้รีบเดินทางมายังที่เกิดเหตุ เพื่อติดตามความคืบหน้าการค้นหา แตงโม นิดา ที่พลัดตกเรือสปีดโบ๊ต จมน้ำหายไปกลางแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณใกล้เคียงท่าเรือพิบูลสงคราม จ.นนทบุรี ซึ่งอยู่ใกล้เคียงกับสะพานพระราม 7 โดยมารดาของแตงโมมีท่าทางตื่นตระหนกและสะอื้นร้องไห้อย่างหนัก ก่อนทรุดลงนั่งพูดคุยกับผู้สื่อข่าว
นางพนิดา กล่าวทั้งน้ำตาว่าว่า ตอน 4 ทุ่ม (วันที่ 24 ก.พ.) คิดถึงเขามาก อยู่ ๆ ก็คิดถึงลูก ว่าจะไลน์ไปหา แต่ก็ไม่ได้ไลน์ไป หลังทราบข่าวก็ตกใจ ภาวนาว่าไม่ใช่น้องโม น้องโมไม่น่าอายุสั้นอย่างนี้ ปกติเราคุยกันทางไลน์ แต่เราเว้นช่วงไป 2 วัน เพราะเขาไปเยี่ยมคุณป้าที่ภูเก็ต
นางพนิดา กล่าวอีกว่า อยากเจอเขา เพราะไม่ได้เจอหลายวันแล้ว ถ้าได้คุยจะบอกว่าคิดถึงนะลูก รุ่งขึ้นก็จะไปหา แต่ปรากฏว่ามาเห็นข่าว ตนก็โทรหาพี่เลี้ยงของแตงโม พี่เลี้ยงก็ร้องไห้ใหญ่เลย พูดไม่รู้เรื่อง พี่เลี้ยงไม่บอกตนเลย ปกปิด สุดท้ายก็บอกว่าตอนนี้กำลังตามหาอยู่ จึงตัดสินใจมาดูด้วยตัวเอง ดีกว่านอนอยู่ที่บ้าน มันไม่เกิดประโยชน์อะไรกับหัวใจเรา เพราะหัวใจมันเต้นแรง
นางพนิดา กล่าวต่อว่า ตนอยากมาดูให้เห็นกับตาว่าเขาอาจจะขึ้นมาจากน้ำแล้ว เพราะได้ข่าวว่ามีผู้หญิงชุดขาวตัวเปียกน้ำ เดินขึ้นมาจากน้ำ 2 ครั้ง ตนก็คิดว่าใช่น้องโม จึงขับรถออกบ้านมาเลย ตั้งใจจะมารอ ตนมีโรคประจำตัวเป็นความดันโลหิตสูง ก่อนมาต้องทานยาคลายเครียด เพราะกลัวจะน็อก เมื่อ 2 วันที่แล้ว แตงโมไปหาคุณป้าที่ภูเก็ต เขาไม่เคยไปหาคุณป้าเลย เหมือนเป็นลางเหมือนกัน คุณป้าก็ไลน์มาบอกว่า น้องโมมาหาแล้ว ไปกับแฟนเขา แต่ตนยังไม่ได้คุยกับแตงโม
"พักนี้เขาจะออกเที่ยวทุกวันเลย เป็นเรื่องผิดปกติ ปกติเขาไม่เที่ยว แต่นี่ออกทุกวัน เดี๋ยวไปกับเพื่อน คนนั้นคนนี้ แตงโมว่ายน้ำเก่งตั้งแต่วัยรุ่น น่าจะว่ายน้ำรอด เว้นแต่ว่าสู้ความกว้างของแม่น้ำไม่ไหวและอาจจะเหนื่อย"
"คุณแม่ยังมีความหวัง อธิษฐานให้รอดปลอดภัย ให้มาเจอคุณแม่ น้องโมอย่าทิ้งคุณแม่ไป น้องโมต้องอยู่กับคุณแม่ ทิ้งคุณแม่ไปได้ยังไง" นางพนิดากล่าวด้วยเสียงสะอื้น