ผมขอสารภาพตรงนี้ว่าช่วงต้นปีที่ผ่านมา ผมไม่ได้หยิบจับซีรีส์เรื่องไหนมาเขียนวิจารณ์เป็นชิ้นเป็นอันเลย ด้วยหลัก ๆ เพราะผมยังไม่เจอบทที่โดนใจผมอย่างจังเสียที ผมจึงเริ่มตั้งคำถามกับตัวเองว่าบทที่ดีแบบไหนที่ผมเฝ้ามองหา เรื่องราวที่ดีแบบใดที่จะทำให้ผมซาบซึมไปกับความงดงามของศิลปะแห่งเรื่องเล่าได้อีกครั้ง และเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ผมก็ได้พบกับซีรีส์เรื่อง KNOCKOUT หมัดน็อกล็อกหัวใจ ซีรีส์มวยไทย ที่ผสมผสานความหวัง ความรัก และหัวใจของนักสู้ที่ไม่เคยย่อท้อทั้งบนและล่างสังเวียน รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! ต้องขอขยายความคำว่า ‘บทที่ดี’ กันตรงนี้เสียแต่เนิ่น ๆ ว่าผมไม่ได้กำลังหมายถึงบทที่พูดถึงปรัชญาซับซ้อนเข้าใจยาก หรือคุณงามความดีสูงส่งอะไร ไม่แม้แต่จะหมายถึงเรื่องราววีรบุรุษใหญ่โตด้วยซ้ำ ทว่าสิ่งที่ผมมองหา คือบทที่ถ่ายทอดเรื่องราวจากหัวใจของคนเขียนบท หัวใจที่เชื่อในเรื่องราวที่ตนกำลังจะบอกเล่า และในบทวิเคราะห์นี้ ผมจะพาไปดูแก่นแท้ของซีรีส์ KNOCKOUT หมัดน็อกล็อกหัวใจ ที่บอกเล่าเรื่องราวสังเวียนชีวิตของตัวละคร ที่ยืนหยัดฝ่าฟันทุกอุปสรรค ด้วยหัวใจนักสู้ที่ไม่มีวันทดท้อสิ้นหวัง Disclaimer มีการเปิดเผยรายละเอียดของเนื้อหาภายในเรื่อง เหตุนำเรื่อง ที่จะส่งผลสะเทือนสู่เรื่องราวหลักต่อจากนี้ อารัมภบทมาเสียยืดยาว เรามาเข้าเรื่องของเรากันดีกว่าครับ KNOCKOUT หมัดน็อกล็อกหัวใจ เป็นซีรีส์ที่ว่าด้วยตัวละครเอกอย่าง คีน (ไนซ์ บริพัฒน์) นักศึกษาจบใหม่ที่ค้นพบว่าพ่อของตนต้องจากไปอย่างกะทันหันด้วยถูกสุนัขใหญ่ทำร้าย เขาใช้เงินที่เหลืออยู่ก้อนสุดท้ายจัดงานศพให้กับพ่อของตน ทว่าระหว่างงานศพ คีนกลับถูกกลุ่มคนที่กล่าวอ้างว่าเป็นเจ้าหนี้ของพ่อตนตามรังควาน จนทำให้คีนต้องหลบลี้หนีภัยไปยังค่ายมวยเพชรศักดิ์ นี่เป็นจุดที่ผมประทับใจตั้งแต่ตอนแรกของซีรีส์ สิ่งที่สำคัญที่สุดที่จะชี้วัดว่าคนดูจะไปต่อหรือพอแค่นี้ คือการที่ตัวบทสร้างเหตุการณ์เพื่อปูเข้าสู่จุดพลิกผันของตัวละคร และสิ่งนี้เองที่ผมเรียกว่า ‘เหตุนำเรื่อง’ ทำไมผมถึงให้ความสำคัญกับเหตุนำเรื่องนะหรือ ก็เพราะคงไม่มีประโยชน์อะไรที่เราจะมานั่งดูชีวิตอันสงบเงียบของคีนไปเฉย ๆ ดังนั้นหน้าที่ของเหตุนำเรื่องคือนำเสนอให้คนดูได้เห็นจุดหักเหของตัวละคร ที่ซึ่งจะเป็นจุดที่ชีวิตตัวละครเสียศูนย์หรือบิดเบนไปจากวิถีปกติแต่เดิม แล้วเราต้องการเหตุนำเรื่องที่ดีไปเพื่ออะไรกัน? ตอนนี้เราได้เห็นคีนที่เจอกับปัญหาภาระหนี้สินจากเหตุนำเรื่องไปแล้ว ต่อจากนี้จะเป็นตรรกะสามัญโดยทั่วไป คุณลองคิดดูว่าคงไม่มีใครอยากจะใช้ชีวิตโลดโผนไม่สงบสุข โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีคนคอยตามทวงหนี้และทำร้ายร่างกายหรอกใช่ไหมครับ คีนเองก็เช่นกัน เขาจึงพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ชีวิตสงบสุขของเขากลับคืนมา ดังนั้นเหตุนำเรื่องจึงเป็นเสมือนประตูบานแรก ที่จะส่งผลของการกระทำอันเป็นตรรกะสู่เรื่องราวที่เหลือต่อจากนี้ และด้วยเหตุนำเรื่องนี้เองที่ทำให้ผมมองว่า คนเขียนบทชั่งเชื่อมตัวละครคีนเข้ากับค่ายมวยได้อย่างแยบคาย เมื่อลุงเพชร ผู้เป็นเพื่อนเก่าของพ่อคีน ได้เสนอให้เขามาหลบภัยอยู่ที่ค่ายเพชรศักดิ์ คีนจึงได้มีโอกาสพบกับ ธันย์ (กันเนอร์ ณัฐสกรรจ์) นักมวยดาวเด่นของค่าย เจ้าของฉายา ปืนใหญ่ปราบพยัคฆ์ และด้วยเหตุนี้คีนจึงฉุกคิดวิธีหาเงินใช้หนี้โดยเสนอตัวเองเป็นคนหางานชกให้กับธันย์ ทว่าเมื่อคู่ชกที่คีนหาได้ กลับเป็น ไต้ฝุ่น (เอิร์ท ธนกฤต) อดีตเพื่อนสนิทของธันย์ที่มีปัญหาไม่ลงรอยกัน ธันย์ปฏิเสธที่จะขึ้นชกในทันที มาถึงตรงนี้เราจะเห็นว่าคีนไม่เพียงแต่จะต้องหาเงินมาใช้หนี้เท่านั้น แต่เจ้าตัวกลับยังต้องจัดการกับปมขัดแย้งของธันย์ที่มีต่อการขึ้นชกกับไต้ฝุ่นอีกด้วย และนี่คือจุดเริ่มต้น ในอันที่คนดูจะได้เห็นคีนพยายามไขว่คว้าให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ตนต้องการ และวิธีการที่เขาต้องทำเพื่อให้ได้สิ่งนั้นมา พร้อม ๆ ไปกับการแก้ปัญหาในมิติของความสัมพันธ์กับตัวละครอื่น ๆ ภายในค่ายเพชรศักดิ์ ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนี้ ปะทุขึ้นจนกลายเป็นเหตุนำเรื่องที่มีชั้นเชิงนั่นเอง ปมขัดแย้งที่คอยขับเคลื่อนเรื่องราว ตอนนี้คีนได้ก้าวข้ามผ่านเหตุนำเรื่องของเรามาแล้ว ทว่าเรื่องราวต่อจากนี้คือสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน มันคือโลกใบใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยไวยากรณ์ของ ‘ปมขัดแย้ง’ แล้วทำไมต้องเป็นปมขัดแย้ง? นั่นก็เพราะปมขัดแย้งคือสิ่งที่คอยขับเคลื่อนให้สารัตถะของซีรีส์เราดำเนินไปข้างหน้านั่นเอง แล้วความหมายของปมขัดแย้งคืออะไร? มันคือเหตุการณ์หลังจากเหตุนำเรื่องที่เรากล่าวมาข้างต้น ปมขัดแย้งจะเป็นการรบกวนชีวิตของตัวละครหลักให้ยุ่งเหยิงขึ้นทีละน้อย และท้ายที่สุด ปมขัดแย้งนี้จะส่งผลไปยังช่วงที่ใหญ่ที่สุดของเรื่อง นั่นคือ ‘จุดไคลแม็กซ์’ ซึ่งจุดนี้จะนับว่าเป็นจุดเปลี่ยนใหญ่หลวงที่จะเปลี่ยนชีวิตของตัวละครไปตลอดกาล ซีรีส์ KNOCKOUT หมัดน็อกล็อกหัวใจ ได้วางสิ่งละอันพันละน้อยของปมความขัดแย้งขึ้นอย่างมีนัย กล่าวคือคีนต้องคิดหาทางปลดหนี้ของพ่อตน และจัดการความสัมพันธ์ที่มีต่อธันย์ให้เข้าที่เข้าทาง ความพยายามครั้งแรกของเขานั้นประสบความสำเร็จ แต่แล้วเมื่อธันย์ที่กำลังจะขึ้นชกนัดล้างตากับไต้ฝุ่น ก็กลับถูกมือดีปล่อยคลิปที่ธันย์เข้าไปมีเรื่องทะเลาะวิวาทเพื่อปกป้องคีน กระแสสังคมไม่พอใจจนทำให้ธันย์เสี่ยงจะถูกปลดจากรายการมวย คีนและธันย์ต้องรวบรวมพลังใจและแก้ไขปัญหาอีกครั้ง จนในที่สุดพวกเขาก็ทวงคืนความยุติธรรมกลับมาได้ ทว่าความวัวพึ่งจะหาย ความควายก็ดันแทรก ค่ายเพชรศักดิ์ต้องเข้าไปพัวพันกับหนี้สินจากการเสียพนันมวยของ มาวิน (เดช ณรงค์เดช) ให้กับเสี่ยเทพ ส่งผลให้คีนและคนในค่ายต้องร่วมมือกันฝ่าฟันอุปสรรคไปอีกครั้ง และในครั้งนี้คีนยิ่งต้องทุ่มพลังกายและใจในการแก้ปัญหาให้มากขึ้นอีก โดยผันตัวเองกลายเป็นโปรโมเตอร์จัดงานชกมวยให้กับค่ายเสียเอง แล้วมันมีเหตุผลอะไรที่ตัวละครต้องพยายามต่อสู้ขึ้นเรื่อย ๆ? คำตอบง่ายมากครับ เพราะเราคนดูคงจะอิดหนาระอาใจกับการที่จะต้องมานั่งเห็นตัวละครแก้ไขปัญหาด้วยวิธีการเดิมซ้ำไปซ้ำมา และเพื่อให้เนื้อเรื่องสนุกมากยิ่งขึ้น ตัวละครจึงต้องพานพบกับอุปสรรคที่ท้าทายยิ่งขึ้น คีนต้องไม่คิดอะไรแบบเดิม ๆ เหมือนที่ผ่านมา เขาต้องไม่เพียงแต่จะหางานชกให้ธันย์เท่านั้น แต่เขาจำเป็นต้องผันตัวไปจัดงานชกให้กับคนในค่ายเสียเลย ตรงนี้เราจะได้เห็นว่าตัวละครของเราพยายามมากขึ้น ทุ่มเทมากขึ้น เสี่ยงมากขึ้น และมากไปกว่านั้น คือได้เห็นพลังใจของคีนและตัวละครอื่น ๆ มากขึ้นเช่นกัน และพลังใจของคีนก็พาเราขับเคลื่อนเรื่องราวมาได้เกินครึ่งทางแล้ว ทว่าทุกอย่างก็กลับตาลปัตรในทันใด เมื่อธันย์ถูกลอบวางยาขับน้ำ จนทำให้งานชกที่คีนเป็นคนดูแลล้มไม่เป็นท่า ตัวละครของเราล้มเหลว เหมือนพวกเขากำลังจะเจอกับทางตัน ทว่าจุดนี้เองที่จะเป็นจุดเปลี่ยนของเรื่องราวทุกสิ่ง ปมขัดแย้งก่อนหน้าที่ถูกจัดวางอย่างมีนัย บัดนี้มันได้ทำหน้าที่ของมันแล้ว นั่นคือส่งแรงกระเพื่อมให้กับจุดที่จะนำไปสู่ไคลแม็กซ์ใหญ่ของเรื่อง จุดที่คีนและทุกคนในค่ายจะต้องทุ่มเทพลังใจมากกว่าครั้งไหน ๆ จุดที่ซึ่งจะเปลี่ยนฉากทัศน์ของเรื่องราวอย่างไม่มีวันกลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกต่อไป เมื่อก้าวข้ามผ่านจุดหักเหใหญ่ของเรื่องมาแล้ว ก็ไม่มีอะไรเป็นอย่างเมื่อก่อน ตรงนี้ดูจะขัดแย้งกับเนื้อหาก่อนหน้าที่ผมเคยกล่าวอยู่พอสมควร นั่นคือตัวละครต้องการชีวิตปกติสุขเดิมกลับคืนมา แล้วจุดหักเหใหญ่ที่ตัวละครก้าวข้ามไปนี้ล่ะ ทำไมพวกเขาถึงจะกลับมาเป็นเช่นเดิมไม่ได้? คำว่าไม่เหมือนเดิม ไม่ได้หมายความว่าชีวิตของคนในค่ายเพชรศักดิ์จะไม่สามารถกลับมาสงบสุขเหมือนเดิม แต่เรากำลังหมายถึงตัวตนของตัวละครต่างหากที่จะเปลี่ยนไปหลังจุดหักเหใหญ่ เมื่อความจริงที่ว่าเสี่ยเทพ คือคนเดียวกับส.ส. ภูวิศ ผู้ซึ่งคอยให้ความช่วยเหลือค่ายเพชรศักดิ์มาโดยตลอด ทว่าแท้จริงแล้ว เขากลับเป็นคนบงการชักใหญ่อยู่เบื้องหลัง เพื่อที่จะทำให้ค่ายเพชรศักดิ์ตกมาอยู่ในมือของเขาในที่สุด จุดไคลแม็กซ์ใหญ่นี้เองที่หันเหความคิดของตัวละครทั้งหมด มันตั้งคำถามกับทุกตัวละครที่ต้องประสบพบเจอวิบากกรรมเหล่านี้ ท้าทายความเชื่อที่ตัวละครเคยมี ก่อนจะผลักดันให้ตัวละครต้องคิดสะระตะวิธีเพื่อที่จะล้ม ส.ส. ภูวิศ ลงให้ได้ แต่แล้วในที่สุดทุกคนในค่ายก็ทำสำเร็จ ส.ส. ภูวิศพลาดท่าให้กับแผนการของธันย์และคีน โดยใช้วิธีถ่ายทอดสดความชั่วร้ายของส.ส. ภูวิศออกสู่สาธารณชน ตอนนี้ทุกอย่างจบลงอย่างราบรื่น และดูเหมือนทุกสิ่งที่ยุ่งเหยิงได้กลับสู่สภาวะปกติดังเดิม แต่เดี๋ยวก่อน ผมพึ่งบอกไปว่าเมื่อผ่านจุดหักเหใหญ่นี้ไปได้ก็ไม่มีอะไรเหมือนเดิมไม่ใช่เหรอ? ผมกำลังหมายถึง เราในฐานะคนดูนั้นทราบได้ทันที ว่าธันย์และคีนไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไป คีนที่เฝ้าย้ำว่าตนไม่เหลือใครนอกจากธันย์ บัดนี้เขาได้ค้นพบว่าตนไม่ได้ต่อสู้เพียงลำพังอีกต่อไป แท้จริงยังคงมีคนในค่ายเพชรศักดิ์ที่มีทุกข์ร่วมอยู่ มีสุขร่วมเสพกับคีนมาโดยตลอด คีนได้ค้นพบบ้านหลังใหม่ท่ามกลางมรสุมชีวิตในท้ายที่สุด ส่วนธันย์ก็ได้ปลดล็อกปมของครอบครัวในอดีต พร้อม ๆ ไปกับการก้าวข้ามผ่านบาดแผลภายในใจระหว่างตนเองกับไต้ฝุ่น และเมื่อเรานึกย้อนกลับไปยังตัวละครทั้งสองในตอนแรก ตัวละครที่เราเฝ้าลุ้นเอาใจช่วยมาโดยตลอด บัดนี้พวกเขาไม่ใช่คีนและธันย์คนเดิมอีกต่อไป นี่คือพัฒนาการของตัวละคร คือทั้งหมดทั้งมวลที่ผมในฐานะคนดูต้องการจะเห็น นั่นคือเรื่องราวที่ได้ทิ้งบางสิ่งบางอย่างเอาไว้ในใจคนดู ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องราวที่จบลงแล้วก็ยังหาคำตอบไม่ได้ ว่าตลอดระยะเวลาหลายตอนที่นั่งดูมา มันแตกต่างจากตอนต้นเรื่องอย่างไร จังหวะในการเล่าเรื่อง เสน่ห์ของซีรีส์ KNOCKOUT หมัดน็อกล็อกหัวใจ นี่เป็นหัวข้อที่ผมคิดว่าต้องเขียนขึ้นให้ได้ตั้งแต่ที่ผมกับเพื่อนสนิทนั่งดูซีรีส์เรื่องนี้ด้วยกัน ทำไมหน่ะเหรอ? นั่นก็เพราะทุกตอนที่พวกเราดูจบ มันกลับสนุกขึ้นเรื่อย ๆ หน่ะสิ เราสองคนถกเถียงถึงประเด็นนี้อยู่นานหลังดูจบ ก่อนจะสรุปกันอย่างเรียบง่ายว่า เพราะจังหวะเล่าที่ไม่ซ้ำจำเจยังไงละ หมายความว่าอะไรกันที่ว่า จังหวะไม่ซ้ำจำเจ? จะเล่าอย่างนี้แล้วกันครับ มนุษย์เราส่วนใหญ่ไม่ชอบอะไรที่มันซ้ำซากจนเดาทางได้ เช่น คุณอาจมีตัวละครที่เจออุปสรรคในช่วงแรกของเรื่องราว แล้วเขาก็ผ่านพ้นมันไปได้ ไม่ได้หนักหนาอะไร ทว่าไม่นานเขาก็เจออุปสรรคอีกครั้ง และครั้งนี้ก็ไม่ได้หนักหนาอะไร ออกจะง่ายดายเหมือนเดิม และเขาก็ผ่านพ้นไปได้ ในช่วงสุดท้ายของเรื่อง เขาก็พบเจออุปสรรคอีกครั้ง แต่ดูแล้วก็ไม่ได้แตกต่างจากเดิม ผมให้เดาครับว่าจะเกิดอะไรขึ้น ใช่แล้วครับ เขาก็ผ่านมันไปได้อย่างง่ายดายเฉกเช่นทุกครั้ง ฟังแค่นี้ก็พอจะเดาได้ว่าหลายคนคงปิดโทรทัศน์ ไม่ก็ปัดหน้าจอไปเล่นแอปพลิเคชันอื่นเป็นแน่ นั่นก็เพราะเรื่องราวที่ตัวละครเจอแต่เรื่อง ดีดีดีดีดี หรือไม่ก็ แย่แย่แย่แย่ ผิดหวังแล้วก็ผิดหวังอีก หรือรักรักรักกันอยู่อย่างนั้น เรื่องราวที่มีแต่สิ่งเดิม ๆ ตั้งแต่ต้นจนจบนั่นแหละครับ ที่ผมเรียกว่า ‘จำเจ’ แต่ไม่ใช่กับซีรีส์เรื่องนี้ ตลอดระยะเวลา 12 ตอนที่ผมได้โลดแล่นไปพร้อม ๆ กับทุกตัวละครเพื่อส่องสำรวจธีมของบทซีรีส์ ผมได้พบกับความเพลิดเพลินที่ไม่ซ้ำจำเจแม้แต่น้อย ซีรีส์เปิดเหตุนำเรื่องด้วยโศกนาฏกรรมและชีวิตอาภัพของคีน พร้อมกับมิติความสัมพันธ์ที่ไม่ลงรอยกับธันย์ในตอนแรก แต่แล้วพวกเขาก็ร่วมมือกัน เกิดเป็นความสัมพันธ์ลึกซึ้ง แล้วก็เกิดปัญหาใหม่ ซึ่งครั้งนี้ใหญ่กว่าเดิม ทำให้เราต้องพักเรื่องรัก ๆ แล้วกระโจนเข้าสู้การจัดงานชกมวย ทุกอย่างกำลังไปได้ด้วยดี รวมถึงความรักของธันย์และคีนที่ลึกซึ้งมากขึ้นด้วย ทว่าทุกอย่างก็พังลงอีกครั้ง ปมใหญ่ถูกเฉลย ทุกคนอึ้งกันเป็นแถบ แต่แล้วตัวละครก็ตั้งสติและลุกขึ้นสู้ใหม่อีกครั้ง ผมเขียนมาถึงตรงนี้รู้สึกอย่างไรบ้างครับ อย่างกับกำลังนั่งรถไฟเหาะอย่างไรอย่างนั้น ทว่านี่คือเสน่ห์ของซีรีส์เรื่องนี้ จังหวะที่ไม่ซ้ำ อีกทั้งยังลื่นไหลเกาะเกี่ยวกันไปในแต่ละเหตุการณ์ ทำให้เราในฐานะคนดูได้สัมผัสกับ ‘อารมณ์’ มากมายระหว่างรับชม เรารู้สึกลุ้นเอาใจช่วยคีนในทุกการแก้ปัญหา เอาใจช่วยธันย์ทุกครั้งที่เขาขึ้นชกอย่างกล้าหาญ รู้สึกรักและผูกพันกับค่ายเพชรศักดิ์ เราโมโหเป็นเดือดเป็นร้อนกับ ส.ส. ภูวิศ หรือเอิบอาบซาบซึ้งให้กับความรักที่ธันย์และคีนมีให้ต่อกัน และไม่ว่าจะอีกกี่อารมณ์ที่ผู้ชมอย่างเราได้สัมผัส ล้วนแล้วแต่จะไม่มีวันเกิดขึ้นได้มากมายเช่นนี้ หากบทซีรีส์ดำเนินไปด้วยจังหวะเล่าเรื่องที่ซ้ำจำเจ จงสร้างตัวละครที่ทรงพลัง ตัวละครมีบทสำคัญต่อโครงเรื่องที่เราวางไว้เป็นอย่างมาก ทั้งสองสิ่งนี้เกื้อกูลกันอย่างแยกไม่ออก บทหนังแต่ละเรื่องต้องการตัวละครที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้นการสร้างตัวละครให้ดี จึงไม่เกี่ยวกับการที่ตัวละครมีศีลธรรมสูงส่งอะไร แต่คือตัวละครที่พอเหมาะพอดี และจำเป็น กับเรื่องราวที่กำลังจะเล่าต่างหาก ซีรีส์ KNOCKOUT หมัดน็อกล็อกหัวใจ เต็มไปด้วยอุปสรรคทั้งเล็กและใหญ่มากมายที่คอยท้าทายตัวละคร ดังนั้นตัวละครที่เหมาะจะดำเนินเรื่องราวที่เต็มไปด้วยมรสุมชีวิตเช่นนี้ ก็ควรจะเป็นตัวละครที่มีพลังใจระดับหนึ่ง ชาญฉลาด และพร้อมรับมือกับปัญหาที่นักเขียนบทสร้างขึ้น ตัวบทพาเราไปส่องสำรวจธีมของโครงเรื่อง โดยใช้ตัวละครที่ถูกสร้างมาอย่างพอเหมาะพอดี เพื่อพิสูจน์ให้เราเห็นว่า ธันย์ไม่เพียงแต่ต่อสู้บนสังเวียนมวยอย่างกล้าหาญเท่านั้น ทว่าเรากลับได้เห็นอีกหนึ่งสังเวียนที่ธันย์ต้องรับมือ นั่นคือสังเวียนที่เกิดขึ้นภายในจิตใจ และมันทำให้เราได้เรียนรู้ผ่านตัวละครของธันย์ ว่าไม่มีชัยชนะใด ยิ่งใหญ่ไปกว่าการให้อภัยและก้าวข้ามปมปัญหาในใจของตัวเอง คีนเป็นหนึ่งในตัวละครที่เรียกว่า ‘เหมาะสม’ กับการดำเนินเรื่องเช่นนี้ ซีรีส์ชาญฉลาดพอที่จะรู้ว่าไม่ได้มีเพียงธันย์เท่านั้นที่เป็นนักสู้เมื่ออยู่บนสังเวียนมวย ทว่าในชีวิตจริง เราต่างก็มีสังเวียนชีวิตที่ต้องต่อสู้เช่นเดียวกัน คีนจึงเป็นตัวละครที่ออกแบบมาเพื่อส่งเสริมโครงเรื่องของบทได้เป็นอย่างดี คีนเองก็ต้องสู้บนสังเวียนชีวิตที่เต็มไปด้วยอุปสรรคเช่นเดียวกัน ทว่าด้วยแรงใจอันเต็มเปี่ยม คีนได้พิสูจน์ให้เราเห็น ว่าในแต่ละวันจะไม่มีทางสูญเปล่าเลย หากได้ใช้สติปัญญาในทุกวันเพื่อแก้ปัญหาในชีวิต เพื่อที่สักวัน คีนจะยืนหยัดในตอนสุดท้ายอย่างผู้ชนะ แท้จริงตัวละครทุกตัวในเรื่องนี้ล้วนทรงพลัง พวกเขาส่งเสริมโครงเรื่อง และยกระดับเรื่องราวอันซับซ้อนให้สวยงามขึ้นไปอีกขั้น และที่สำคัญที่สุด คือสะท้อนธีมของซีรีส์ ที่ว่าด้วยชีวิตคือสังเวียนขนาดย่อมแห่งหนึ่ง และจนกว่าระฆังแห่งสังเวียนชีวิตนี้จะตีลั่นในยกสุดท้าย ชีวิตที่ได้ต่อสู้ในแต่ละวัน แม้จะแพ้บ้างชนะบ้าง แต่ก็เป็นชีวิตที่นับว่าคุ้มค่าไม่สูญเปล่าแล้ว ซีรีส์ KNOCKOUT หมัดน็อกล็อกหัวใจ เป็นอีกหนึ่งซีรีส์ที่ผมประทับใจ ด้วยความสามารถของการผสมผสานเรื่องราวการต่อสู้ที่ไม่ย่อท้อของกลุ่มคนในค่ายมวยเล็ก ๆ ทว่ากลับเต็มไปด้วยหัวใจของนักสู้ที่ยิ่งใหญ่ จึงทำให้สำหรับผม ซีรีส์ KNOCKOUT หมัดน็อกล็อกหัวใจ ได้ประสบความสำเร็จดังที่ตัวมันเองต้องการ นั่งคือมอบแรงบันดาลใจ ความมุ่งมั่น และชัยชนะของผู้ที่ไม่เคยย่อท้อ เพื่อเป็นรางวัลแกคนดูทุกคน ขอบคุณทุกท่านที่สละเวลาอันมีค่าอ่านบทความอันยืดยาวของผมมาจนถึงบรรทัดนี้ แล้วพบกันใหม่ในอีกไม่ช้าไม่นาน เม้ามอยกับนักเขียน หลายคนอาจจะคุ้นกับนามปากกาของผม และใช่ครับ ผมคือ ‘หน้าสีอิฐ’ คนเดียวกับที่มักจะเขียนวิเคราะห์ รีวิวซีรีส์บ่อย ๆ แต่ว่าเนื่องจากผมไม่สามารถเข้าแอคเคาท์เดิมได้ จึงจำเป็นต้องมาเปิดแอคเคาท์ใหม่อย่างที่ทุกท่านเห็นกัน กราบขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ แต่ ๆ ๆ ถ้าใครคิดถึงหรืออยากอ่านบทความเดิม ๆ ของผม ก็สามารถเข้าไปอ่านกันได้นะครับ จะเป็นพระคุณอย่างมากเลยครับ อ่านบทวิจารณ์เก่า ๆ ของผมได้ที่นี่เลยครับ: https://t.co/eHdjdkFe6M เครดิต ภาพปก DeeHubHouse ภาพที่ 1 DeeHubHouse ภาพที่ 2 DeeHubHouse ภาพที่ 3 DeeHubHouse ภาพที่ 4 DeeHunHouse ภาพที่ 5 DeeHubHouse ภาพที่ 6 DeeHubHouse ภาพที่ 7 DeeHubHouse จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !