โสดแล้วจีบได้ นิวนิว เอวเด้ง เผยสถานะ เติ้ล ธนพล ยังไม่คืนดีกัน รับมีคนมาจีบ
โสดแล้วจีบได้ นิวนิว เอวเด้ง เผยสถานะ เติ้ล ธนพล ยังไม่คืนดีกัน รับมีคนมาจีบ เชื่อเติ้ลไม่หวง ปล่อยวางได้ หมดห่วงฝ่ายชายเตรียมบวช
โสดแล้วจีบได้ นิวนิว - วันที่ 8 เม.ย. 65 พริตตี้สาว “นิวนิว เอวเด้ง” หรือ ชไมพร บุญไสย์ ที่มาร่วมงาน “daradaily แบรนด์เนมมือสอง ช้อปของดารา” ณ ศูนย์การค้าเอ็มบีเค เซ็นเตอร์ ชั้น1 ได้ให้สัมภาษณ์ สถานะตอนนี้โสดจีบได้ ส่วนความสัมพันธ์กับอดีตพระเอกดัง “เติ้ล ธนพล นิ่มทัยสุข”
เป็นคนที่ห่วงใยดูแลแบบพี่น้อง ยังไม่ได้คืนดีกัน หลังผ่านเรื่องราวดราม่าถูกฝ่ายชายทำร้ายร่างกาย พร้อมเปิดโอกาสให้ทั้งตนและอีกฝ่ายถ้าจะมีคนใหม่ จะมีโอกาสกลับมาคบกันอีกครั้งไหม รอให้หนุ่มเติ้ลไปบวชแล้วรักษาอาการป่วยไบโพลาร์ก่อน เชื่ออดีตคนรักไม่หวง ปล่อยวางได้ หลังได้ธรรมะบำบัดจิตใจ
สภาพจิตใจตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง? “สภาพจิตใจหนูตอนนี้โอเคค่ะ แฮปปี้มีความสุขดีค่ะ”
ก่อนหน้านี้เรียกว่ามรสุมเลยใช่ไหม? “โอ้มายก๊อด (หัวเราะ) ถือว่าเป็นบทเรียนชีวิต ก็โอเคค่ะ”
“เติ้ล” เป็นอย่างไรบ้างตอนนี้? “ตอนนี้เข้าวัดอยู่ค่ะ เพื่อเตรียมตัวบวช เดี๋ยวมาแจ้งวันอีกทีหนึ่ง น่าจะเป็นต้นเดือนหน้าค่ะ เป็นวัดป่าที่ จ.อยุธยา ก็น่าจะโกนหัวเงียบๆ แล้วบวชเลย พี่เขาตั้งใจบวชอยู่แล้ว”
จะตั้งใจไปเจอเขาก่อนบวชไหม? “ถ้าไม่มีงานก็จะไปนะคะ ตอนนี้ทำงานเยอะมากเลย รับงานทุกวันแทบไม่มีเวลานอนเลยค่ะ”
แล้วอาการป่วยของเขาเป็นอย่างไรบ้าง? “อาการป่วยดีขึ้นค่ะ แต่ว่ามันก็ยังทรงตัวอยู่ มีไบโพลาร์อะไรนิดหน่อย ก็ยังหาหมออยู่ แต่มันก็ใช้ระยะเวลาในรักษา เดือนสองเดือนมันไม่หาย มันต้องเป็นปี”
สรุปตอนนี้เราคืนดีกันแล้วใช่ไหม? “ไม่ได้คืนดีค่ะ วันที่เราไปออกรายการ หนูแค่ให้อภัยเขา แล้วเราก็บอกเขาว่าเราอยู่ข้างๆ เขาแหละ ไปส่งเขาให้ถึงฝั่งฝัน ส่วนจะกลับมาคบกันไหม ก็ต้องดูหลังบวช ว่าเขารักษาตัวหรือยัง”
สถานะตอนนี้คืออะไร? “เรียกว่าดูแลกันไป ก็เหมือนพี่น้องกันค่ะ เริ่มต้นจากการดูแลเทคแคร์กันค่ะ”
ย้อนกลับไปในวันที่เราไปออกรายการโหนกระแส แล้วมีช็อตที่เขาลุกขึ้นมา ทำเอาตกใจกันทั้งสตู?
“ตอนนั้นหนูก็ตกใจนะคะ หนูกลัวเขาหลุด
ถ้าเขาหลุดก็คือตายแล้ว (หัวเราะ) ช็อตนั้นแบบตกใจมาก หนูก็จะลุกแล้ว ทั้งสตูก็คือเตรียมชาร์จแล้ว (เขาเป็นแบบนี้บ่อยไหม?) คือตั้งแต่อยู่ด้วยกัน จริงๆ อาการเขาดีขึ้นเรื่อยๆ จนเขาเข้าเรือนจำไป พอออกจากเรือนจำ ก็เหมือนไม่ได้ทานยา ก็เลยแย่ลงค่ะ หนูก็เป็นห่วงเขาตลอดเลยค่ะ”
ปกติเขาอยู่กับเราก็อารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ อยู่แล้วใช่ไหม? “ใช่ค่ะ อยู่กับหนูก็อารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ แต่คือเราก็จะรู้แล้ว ถ้าเกิดมีโบโพลาร์มา หนูก็จะอยู่เฉยๆ ของหนูแล้ว เดี๋ยวเขาก็จะหายเอง”
เรายังมีความกลัวหรือกังวลอยู่ไหม? “จริงๆ เราก็รู้สึกเหมือนกันนะคะ แต่ถ้าเกิดเราไปกลัว เราก็จะแบบ คือเราต้องรักษาเขาด้วย ต้องให้กำลังใจเขา ตอนนี้ไม่กังวลแล้ว เพราะมีทั้งธรรมะบำบัดจิตใจเขาด้วย เขาก็ดีขึ้นแล้วค่ะ”
มันไม่เป็นการปิดกั้นตัวเองเหรอ ถ้าเรายังรอเติ้ล? “หนูบอกแล้ว หนูไม่ได้ปิดกั้นตัวเขา แล้วก็ไม่ได้ปิดกั้นคนอื่น คือหนูสามารถคุยกับคนอื่นได้ แล้วก็คุยกับเขาได้ คือเราคุยกันแล้ว ว่าเราจะเป็นพี่น้องกันนะ แล้วแต่เกิดพี่บวช พี่รักษาตัวเสร็จ ไม่ว่ายังไง เราจะกลับมาคุยอีกที ว่าเราจะเป็นเหมือนเดิมไหม”
หลายคนสงสัยว่าทำไมเรายังรักและหวังดีกับพี่เขาอยู่ ทั้งๆ ที่สิ่งที่ผ่านมันค่อนข้างจะเจ็บปวดและ
รุนแรง? “ก็รักคำเดียวอะค่ะ (ยิ้ม) หนูรักเขา ถึงเขาจะทำร้ายหนู หนูก็รักเขาอะ ทำยังไงได้ ก็รักเขาค่ะ เพราะเราก็ผ่านอะไรกันมาตั้งเยอะ ทั้งผ่านความตาย ผ่านการลาจากแบบจากเป็น ยันมาถึงทุกวันนี้ มันทำให้เรารู้ว่าเออ งั้นรักกันไว้ดีกว่า
แต่อนาคตมันไม่แน่ไม่นอนอยู่แล้ว หนูไม่สามารถสัญญากับทุกคนได้ว่า หนูจะต้องเป็นแฟนเขาตลอด เดี๋ยววันหนึ่งหนูเกิดมีแฟนใหม่ ก็จะมีคนมาด่าหนูอีกว่าทิ้งพี่เติ้ล อันนี้หนูก็บอก ณ ตรงนี้เลย ว่าพี่เติ้ลเขาก็รู้ ว่าสถานะตอนนี้เราเป็นแค่คนดูแลและห่วงกัน ส่วนหลังบวชก็ค่อยว่ากัน ว่าจะกลับมาไหม หรือเขาซึ้งในรสพระธรรมแล้ว ไม่สึกแล้ว หรือยังไงก็ค่อยว่ากันอีกทีค่ะ”
ตอนนี้คนมาจีบไหม? “มีเรื่อยๆ ค่ะ (หัวเราะ) ก็คือคุยธรรมดาค่ะ ไม่ได้ต้องคุยเป็นแฟน ต้องนัดเดต นัดทานข้าว ส่วนมากตอนนี้หนูก็ทำงาน ช่วงนี้งานเยอะมากเลย”
แล้วพี่เติ้ลเขาไม่หวงเหรอ? “คือจริงๆ เขาเคยคิดนะคะ แต่พอเขาไปอยู่วัดแล้ว เขาก็วางได้ ตอนแรกๆ หนูต้องถือกล้องวงจรปิดไปด้วย ไปกับน้องๆ ที่ต่างจังหวัดก็ต้องเปิดกล้องด้วย เขาก็จะดูว่าเราดูอะไร แต่พอหลังๆ มาเขาก็คงเข้าใจ ว่าทุกอย่างมันต้องปล่อยวางได้ ไม่งั้นเขาก็อึดอัด หนูก็ไม่สบายใจ เราทั้งสองคนก็เลยต้องมีสเปซของตัวเอง”
แล้วความสัมพันธ์ของเรากับทนายคือยังไง? “อ๋อ คุณพ่อเขาดูแลหนูมาตั้งแต่เด็กๆ เลยค่ะ ตั้งแต่พ่อหนู แม่หนูทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สินมรดก หรืออะไรก็แล้วแต่ ก็คือเป็นคนดูแลมาตลอด มีอะไรที่หนูไม่สบายใจ หนูก็จะโทร.ปรึกษาเขาเป็นคนแรก คือหนูจะไม่โทร.หาพ่อแม่ ก็จะแบบว่าพ่อเอ๋ หนูเป็นแบบนี้นะ ควรทำยังไงดี เขาก็เป็นกุนซือด้วย เป็นพ่อจริงๆ ไม่ได้เป็นอย่างอื่น พี่เติ้ลก็เข้าใจตั้งแต่อยู่ในงานแล้วค่ะ (หัวเราะ)”
ย้อนกลับไปที่อาการป่วยของเขา ถ้ารักษาหายจะกลับมาร้อยเปอร์เซ็นต์ไหม? “มันอยู่ที่ตัวเขาเลยค่ะ เราไม่สามารถตอบได้ คือขนาดตัวหนูเอง หนูคิดว่าหนูแข็งแรงแล้ว แต่ตอนที่ฮีลตัวเองขึ้นมาได้ จากตอนที่หนูเป็นแบบเขา ก็ใช้ระยะเวลา 2 ปี กว่าจะกลับมาเป็นปกติ ยาต้องทานตลอด”
ทุกวันนี้เขากินยาปกติไหม? “คือตอนนี้อยู่ที่วัด หนูก็คิดว่าเขาน่าจะทานนะคะ เพราะตอนที่หนูยังอยู่ หนูก็จะบังคับให้เขาถ่ายตอนทานยาให้หนูดูด้วย แต่ตั้งแต่เข้าวัดไป ก็ไม่สามารถคุยได้แล้วค่ะ ก็เป็นเดือนแล้ว ที่ไม่ได้คุยกัน”
ในแง่ของการดูแลผู้ป่วย คุณหมอแนะนำไหมว่าคนรอบข้างต้องปฎิบัติยังไง? “คือหนูไม่เคยเข้าไปปรึกษาหมอกับพี่เขานะคะ แต่ว่าเราเคยผ่านมา เราก็เลยรู้ว่าการที่จะอยู่กับคนที่เป็นผู้ป่วยคือหนึ่งเลยต้องเข้าใจเขามากๆ
เข้าใจเขาที่สุด ไม่ว่าเขาจะพูดอะไร หรือต้องการอะไร เราต้องใจเย็นและใช้สมองใช้สติคิด คือบางทีเราพูดออกมาเรื่องนิดเดียว แต่มันกลายเป็นเรื่องช้าง เหมือนแต่งหนังได้เรื่องหนึ่ง เขาจะคิดเยอะมาก”
เราเหนื่อยไหม? “เราต้องการให้ แล้วเรามีความสุข เวลาที่หนูเห็นเขายิ้ม หนูรู้สึกว่าทำไมหนูมีความสุขจังเลย เวลาพาเขาไปเที่ยว หนูมีความสุข หนูแฮปปี้ หนูรักเขา หนูหวังดีกับเขาตั้งแต่แรกๆ คือหนูไม่ได้รับตั้งแต่แรกไง หนูหวังดีว่าจะพาผู้ชายคนนี้
ออกมาจากหน้าตู้เย็น แล้ววันนี้หนูมาส่งเขาถึงฝั่งฝันแล้ว เขาออกมาจากหน้าตู้เย็นแล้ว จนจะบวชแล้ว คือตั้งแต่นี้ไม่ว่าเราจะอยู่หรือเราจะไป หนูหมดห่วงแล้ว ไม่ต้องห่วงแล้ว เอฟซีเขาเยอะเนอะ ก็จะไลน์มาอินบ๊อกซ์มาบ้าง ว่าพี่เติ้ลไปไหน อย่าทิ้งพี่เติ้ลนะ บางคนก็ขู่หนู กลายเป็นว่าหวงหนูแทนพี่เติ้ล”
เขาคือความสุขของเรา? “ใช่ค่ะ เขาก็เป็นความสุขของหนูตลอดแหละค่ะ แต่หนูก็ไม่รู้ว่าหนูคือความสุขของเขาไหม (หัวเราะ)”
แต่ตอนนี้คือโสดใช่ไหม? “โสดสิคะ (หัวเราะ) จีบได้ แต่ว่าแฟนคลับแฟนเก่าหวง”