Signal (TV Series 2016 tvN) สัญญาณลับ ล่าข้ามเวลาสามารถรับชม Signal (TV Series 2016 tvN) ได้ทาง : VIU Signal ซีรีส์จากปลากปากกาของผู้เขียนบทเนื้อหอมอย่าง คิมอึนฮี นักเขียนบทชื่อดังที่สร้างผลงานได้รับความนิยมมากมาย ไม่ว่าจะซีรีส์ Sign (2011) ซีรีส์ Netflix ซอมบี้โชซอนอย่าง Kingdom ทั้งสองซีซั่น รวมถึง Signal เรื่องนี้ที่สร้างปรากฏการณ์ความนิยมขณะที่ออกอากาศพัคแฮยอง (Je-hoon Lee) ตำรวจหนุ่มหน่วยลาดตระเวน ที่วัยเด็กของเขาเคยเผชิญกับเรื่องเลวร้ายใกล้ตัวในปี ค.ศ 2000 เมื่อ ยุนจอง เพื่อนร่วมชั้นเรียนถูกคนร้ายลักพาตัวไปต่อหน้าต่อตาเขา ด้วยวัยที่เป็นเด็กในตอนนั้น แฮยอง ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรเธอได้ ทั้งการสืบสวนของตำรวจในตอนนั้นยังจับต้นชนปลายไม่ถูก คำให้การของเด็กน้อย แฮยอง จึงไม่มีใครสนใจ คดีการลักพาตัว ยุนจอง จึงกลายเป็นคดีเย็น (Cold Case คดีที่ถูกแช่แข็งทิ้งไว้ไม่สามารถปิดคดี หรือจับตัวคนร้ายได้) ไม่สามารถปิดได้ จนในปี 2015 นี้แม้คดีความของยุนจองจะใกล้หมดอายุความก็ตาม แม่ของเธอก็ยังมายืนหน้าสำนักงานตำรวจ เรียกร้องความเป็นธรรมให้กับลูกสาวตลอดระยะเวลา 15 ปีกระทั่ง แฮยอง ตำรวจหนุ่มที่มีงานอดิเรก คือการวิเคราะห์พฤติกรรมเหล่าเซเลปคนดังเพื่อขายนักข่าว ถูก ชาซูฮยอน (Hye-su Kim) ตำรวจหญิงฝ่ายสืบสวนจับตัว เพราะเขาถูกแจ้งความว่าเป็นสตอล์กเกอร์ ในคืนนั้นเองที่สถานีตำรวจ แฮยอง ได้พบกับวิทยุสื่อสารเก่า ที่กำลังจะถูกนำไปทิ้งอันหนึ่งเข้า เขาได้ยินเสียงจากวิทยุอันนั้นส่งสัญญาณเรียกชื่อเขา พร้อมกับบอกว่าพบศพของคนที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยคดีลักพาตัว ยุนจองเสียงเรียกจากวิทยุนั้นก็คือ อีแจฮัน (Jin-Woong Cho) ฝ่ายสืบสวนที่ส่งสัญญาณความลับคดีในอดีต เพื่อให้ พัคแฮยอง ไขคดีในอนาคต เพียงแต่ว่าอดีตกับอนาคตที่เชื่อมถึงกันได้ครั้งนี้ แม้มันจะช่วยคลี่คลายคดีไขปมความลับในอดีต แต่มันอาจนำมาซึ่งเรื่องอันตรายถึงชีวิตของพวกเขาและผู้บริสุทธิ์เช่นกัน หากคิดเปลี่ยนแปลงอดีตที่พวกเขาอยากแก้ไขให้เป็นอย่างใจต้องการซีรีส์สืบสวน ระทึกขวัญ เหนือธรรมชาติ ที่สนุก ตื่นเต้น ดีเยี่ยมเลยนะ อาจจะคนละอารมณ์กับ Voice ที่ดูก่อนหน้าไปสักหน่อยตรงที่ Signal เรื่องนี้ไม่ได้เน้นที่สถานการณ์คับขัน แต่เน้นที่ปมตัวละครความลึกลับของคดีการสืบสวนไขความจริง ส่วนตัวผมเองช่วง EP 1-10 นี่บันเทิงมาก สนุกไปกับการไขคดีต่าง ๆ แต่พอเริ่ม EP 11 เป็นต้นไปถึงจะยังบันเทิงไปกับซีรีส์อยู่ก็จริง แต่ความรู้สึกตื่นเต้นแบบช่วงแรกกลับลดลงมาบ้างในช่วง EP 1-10 นั้นแม้จะมีการปูพื้นปมเรื่องราวของสามตัวละครหลักของเรื่อง อย่าง พัคแฮยอง, ชาซูฮยอน, อีแจฮัน ก็ตาม แต่ช่วงนี้คดีส่วนใหญ่จะยังไม่ได้ลงลึกรายละเอียด ปมความหลังของตัวละครมากนัก น้ำหนักของเรื่องราวจึงเป็นการสืบสวนคดีล้วน ๆ ซึ่งทำออกมาได้ดีมาก เปิดหัวมาคดีแรกอย่างการลักพาตัว ยุนจอง ก็สนุกมากซับซ้อนกำลังดี หรือคดีถัดไปที่เป็นคดีที่สอง หลังจากทีมสืบสวนคดีเย็นถูกตั้งขึ้นมาอย่าง คดีฆาตกรรมต่อเนื่อง คยองกีนัมบูซึ่งก็คือคดีที่ได้แรงบันดาลใจจาก Hwasong Murder Case คดีฆาตกรรมต่อเนื่องผู้หญิงในคืนฝนตก คดีดังในเมือง ฮวาซอง ที่ปัจจุบันยังปิดไม่ลงและตามจับคนร้ายไม่ได้ ทั้งยังเป็นคดีที่ถูกนำมาอ้างอิงใช้สร้างเป็นหนังอยู่หลายครั้ง อย่างเรื่อง Tunnel (2017) ล่าข้ามเวลา, Memories of Murder (2003) ฆาตกรรม ความตาย และสายฝน, Partners for Justice, Confession of Murder (2012) เรื่องนี้ยังมีเวอร์ชั่นรีเมคญี่ปุ่นในปี 2017 อีกด้วย คดี คยองกีนัมบู ก็เป็นอีกคดีหนึ่งที่ทำออกมาได้สนุกมากเช่นกันระดับความชอบของผม EP 1-10 ถือว่าอยู่ในขั้นประทับใจเลย แต่พอซีรีส์เริ่มเข้าเรื่องราวปมของตัวละครหลักหลังจากนั้น ว่าง่าย ๆ คือพอเข้าคดีในอดีตที่เกี่ยวข้องกับพี่ชายของ พัคแฮยอง แล้วนั่นแหละ ที่ความรู้สึกแบบช่วงแรกถึงเริ่มเปลี่ยนไป เพราะช่วงนี้ซีรีส์ใส่ความดราม่าเข้ามาเยอะเอามาก ๆ เอาจริงมันก็ถือว่าเป็นดราม่าที่ยังทำงานกับความรู้สึกคนดูได้ดี แต่พอเริ่มปมดราม่าเยอะเข้าก็มีรู้สึกเฝือบ้างเหมือนกัน เพราะยิ่งเข้าช่วงท้าย บทประเภท โชคชะตา ลมเพลมพัด ความบังเอิญ อะไรแบบนี้มันเยอะขึ้นเรื่อย ๆ เลยรู้สึกว่าความเข้มข้นมันน้อยลง ประกอบกับรูปแบบการเล่าเรื่องของซีรีส์ก็เปลี่ยนไปจากช่วงต้นเมื่อช่วงแรกเน้นการไขคดีปมของอดีตและอนาคตมันสนับสนุนกัน ช่วยกันไขความลับ แต่ช่วงท้ายภาพเหตุการณ์ในอดีตถูกนำเสนอในเชิงเฉลยเหตุการณ์ต่าง ๆ ว่าตอนนั้นเกิดอะไรขึ้นบ้าง ซึ่งตอนเราดูภาพเหตุการณ์ในอนาคตของ พัคแฮยอง มันเปิดเผยเนื้อหาออกมา จนเราพอจะเดาเนื้อเรื่องได้แล้ว เหตุการณ์ในอดีตของ อีแจฮัน มันจึงเหมือนซีรีส์เล่าเรื่องที่คนดูรู้แล้วซ้ำเดิม ส่วนตัวผมเองเลยมองว่าความน่าติดตามมันลดลงมาเหมือนกันในเนื้อหาช่วงนี้ส่วนของการแสดงคนที่ผมถูกใจที่สุดเห็นจะเป็น โจจินอุง ที่รับบทเป็น อีแจฮัน นี่แหละ แบกเนื้อหาในพาร์ทของอดีตไว้คนเดียว แต่ดูจะแข็งแรงกว่าคู่หูในอนาคตอย่าง พัคแฮยองกับชาซูฮยอน เสียอีก กับบทชาซูฮยอน ของ คิมฮีซู ไม่ได้มีอะไรติดใจทำได้ตามมาตรฐาน แต่กับบท พัคแฮยอง ที่เอาจริงแง่ของการแสดงก็ไม่มีอะไรขัดใจหรอก แต่ขัดใจในคาแรคเตอร์ตัวละครมากกว่า ที่ไม่สมกับความเป็นนักวิเคราะห์พฤติกรรมเท่าไหร่ตอนจบของซีรีส์แอบจบแบบค้างคาเหมือนจะมีภาคต่อซีซั่นใหม่ แต่ว่า คิมอึนฮี ที่เป็นคนเขียนบทไม่ว่างแล้วน่ะซิ เพราะต้องไปเขียนบทให้กับซีรี่ส์ซอมบี้โชซอนของ Netflix อย่าง Kingdom ทั้งสองซีซั่น นี่ก็ผ่านเข้ามาปีที่สี่ที่ห้าแล้ว ก็ดูจะห่างจากซีซั่นแรกเกินไป ภาคต่อไปเลยคงต้องมาลุ้นเอาใจช่วยกันเยอะสักหน่อยสรุปแล้ว Signal (TV Series 2016 tvN) สัญญาณลับ ล่าข้ามเวลา เป็นซีรีส์ สืบสวน ระทึกขวัญเหนือธรรมชาติ ที่สนุกมากเรื่องหนึ่งเลยนะ ไม่ว่าจะคดีย่อยที่เป็นเส้นเรื่องรองของซีรีส์ หรือปมคดีหลักของตัวละครนำทั้งสามคน หากเป็นคนชอบแนวสืบสวนระทึกขวัญล้วน ๆ แบบผม คงจะชอบช่วงแรกที่เป็นเส้นเรื่องรองมากกว่า แต่หากคนชอบความดราม่าก็คงจะคิดอีกแบบ คือสามารถบันเทิงได้ตั้งแต่ต้นจนจบซีซั่นDirector: Kim Won-Sukขออนุญาตใช้ภาพประกอบบทความจากทาง : VIU ภาพหน้าปก/ ภาพที่แรก/ ภาพที่สอง/ ภาพที่สามสามารถรับชม Signal (TV Series 2016 tvN) ได้ทาง : VIU Signal เขียนโดยแอดมิน เพจ ปีนรั้วดูหนัง