ตอนนี้มีภาพยนตร์ไทยหลายเรื่องที่กำลังเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ หนึ่งในนั้นคือ อโยธยามหาละลวย หนังพีเรียดฟอร์มยักษ์ของค่าย MONO FILM ที่คละคลุ้งไปด้วยกลิ่นอายโรแมนติก มิตรภาพ แฟนตาซี จัดเต็มทั้งบู้ดราม่า ที่จะต้องมาฟาดฟันหัวใจด้วยมูเตลู และได้คว้า ใหม่ ภวัต พนังคสิริ ผู้กำกับที่มีผลงานชื่อดังจาก "นาคปรก" ภาพยนตร์สุดดาร์ค แนวดราม่า-แอ็กชัน ที่เสียดสีวงการพระสงฆ์ไทยและ "บุพเพสันนิวาส" ละครฮิตรักข้ามภพของช่อง 3 ที่ได้เรตติ้งทั่วประเทศสูงสุดไปถึง 18.6 ตั้งแต่ประเทศไทยเข้าสู่ยุคทีวีดิจิทัล ครั้งนี้เขาจะมาจุดประกายไอเดีย เติมความสดใส และตีแผ่สร้างตำนานรักครั้งใหม่ของหนุ่มสาววัยรุ่นชาวอโยธยา รวมถึงเล่าเรื่องราวการใช้ชีวิตความเป็นอยู่ ทำอาชีพอะไร ในสมัยสมเด็จพระนารยณ์มหาราชทรงปกครองเมือง ซึ่งเป็นยุคทองสุดจะเฟื่องฟูแห่งกรุงศรีอยุธยาในขณะนั้น พร้อมพา 'เจมส์ จิรายุ' นักแสดงหนุ่มมากความสามารถ มารับบทเป็นเรียวสึ ชายหนุ่ม ลูกครึ่งไทย - ญี่ปุ่น ผู้เชี่ยวชาญศาสตรวุธ เวทย์มนตร์คาถาและกำลังตามหารากเหง้าของตนเองที่เต็มไปด้วยปริศนา ได้ตัดสินใจออกเดินทางไปเมืองอโยธยา เพื่อค้นหาชาติกำเนิดที่แท้จริง แต่ระหว่างเส้นทางนั้นกลับต้องมาหวั่นไหวเมื่อได้พบรักกับ ออสร้อย (รับบทโดย โบว์ เมลดา นักแสดงหญิงสุดน่ารัก) อี้จี สาวสวยเสียงไพเราะในโรงชำเรา ที่กำลังจะตกเป็นคู่ครองของ ขวัญ หนุ่มชนชั้นสูงในราชสำนัก ผู้มีอำนาจล้นฟ้าและเชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้ทุกแขนง รวมถึงเวทมนตร์อาคมที่ไม่เคยแพ้ชายใดเลย เรียวสึจึงต้องลุกขึ้นสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งรักแท้ที่อาจจะต้องแลกมาด้วยชีวิตของเขาเอง แม้ว่าปัจจุบันโลกและวิทยาศาสตร์จะก้าวหน้าไปพร้อมกัน แต่ความเชื่อเรื่องมูเตลูยังคงอยู่คู่กับสังคมไทยมาเนิ่นนานกว่า 700 ปี ไม่เสื่อมคลาย ทำให้ผู้สร้างได้หยิบเรื่องดังกล่าวมาสร้างเป็นสีสันของภาพยนตร์ บอกเลยคอหนังสายมูและคอประวัติศาสตร์ไทยไม่ควรพลาดชมกับการตีประวัติศาสตร์ในรูปแบบใหม่ที่ไม่ค่อยมีผู้สร้างภาพยนตร์ในไทยคนไหนทำมาก่อน สำหรับวันนี้ผู้เขียนจะพาไปทำความรู้จักและเจาะลึกวัฒนธรรม เปิดมุมมองเกร็ดความรู้ใหม่ๆที่น่าสนใจของซามูไรสายเลือดยามาดะคนสุดท้าย ที่ผู้ชมพร้อมผู้อ่าน อาจไม่เคยรู้เรื่องราวมาก่อนใน "เปิดประวัติศาสตร์อยุธยา 7 ข้อน่ารู้ ก่อนไปดู อโยธยามหาละลวย" จะมีเรื่องไหนบ้างที่เด็ดๆ นุ่งห่มสไบสวมชุดไทยแล้วตามไปดูกันเลยจ้า ออเจ้า !!!!1. ยามาดะ นางามาซะ เป็นใคร ในตัวอย่างภาพยนตร์อโยธยา มหาละลวย ได้มีการกล่าวถึง ยามาดะ นางามาซะ ซึ่งมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับเรียวสึพระเอกของเรา เป็นบุคคลที่มีอยู่จริงๆนประวัติศาสตร์ไทย ยามาดะ นางามาซะ หรือ ออกญาเสนาภิมุข เป็นซามูไรชาวญี่ปุ่น เกิดในราวปี พ.ศ.2113 กว่าที่เขาจะเป็นนักรบที่มีชื่อเสียง ยามาดะเคยมีอาชีพเป็นคนหามเสลี่ยงให้กับเจ้าเมืองแห่งแคว้นซุนซู ต่อมาได้ตัดสินใจเดินน้ำข้ามทะเลจากญี่ปุ่นมาพร้อมคณะทูตจำนวน 60 คน ในปี พ.ศ.2164 เพื่อมารับราชการเป็นทหารอาสาในแผ่นดินกรุงศรีอยุธยา ซึ่งตรงกับรัชสมัยพระเจ้าทรงธรรมปกครองเมือง หลังจากที่รับราชการมานาน ท่านได้สร้างความดีความชอบหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นหัวหน้าหมู่บ้านญี่ปุ่น การปราบกบฏ รวมถึงการมีส่วนร่วมเป็นพ่อค้าคนกลางให้ชาวต่างชาติ ซึ่งถือเป็นประโยชน์ในการค้าสมัยนั้นมาก ท่านจึงได้รับบรรดาศักดิ์ใหม่เป็น 'ออกญาเสนาภิมุข' มีทหารในบังคับบัญชาถึง 800 คน และได้ดำรงตำแหน่งเจ้าเมืองนครศรีธรรมราช จนกระทั่งพระเจ้าทรงธรรมสวรรคต ยามาดะได้มีปัญหาความคิดขัดกับออกญากลาโหม หรือพระเจ้าปราสาททอง ในเรื่องการสืบราชสมบัติของกษัตริย์องค์ถัดไป ด้วยประเด็นกล่าวทำให้พระเจ้าปราสาทไม่พอใจเป็นอย่างมากและได้คิดกลอุบายให้ออกญาเสนาภิมุขไปปราบกบฏที่เมืองปัตตานี พร้อมสั่งให้เจ้าเมืองไชยา ผู้เป็นไส้ศึก สังหารด้วยการลอบวางยาพิษ ยามาดะ นางามาซะที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสู้รบและโดนยาพิษ ในที่สุดก็ถึงแก่กรรม ในปี พ.ศ.2173 ที่นครศรีธรรมราช การหยิบประเด็นสำคัญเรื่องลอบสังหารแล้วมาต่อยอดเป็นเรื่องราวในอโยธยามหาละลวย สำหรับนักเขียนแล้วเป็นพล็อตแปลกแหวกแนวและน่าสนใจมากเลยทีเดียวสำหรับหนังอิงประวัติศาสตร์ ที่ผู้ชมอย่างเราไม่ค่อยได้เห็นกันในภาพยนตร์ไทย งานนี้ต้องตามไปดู ไม่ควรพลาดทุกประการ 2. อี้จี หลายคนคงสงสัยว่า อี้จี คืออะไร? อี้จีนั้นคล้ายๆกับเกอิชาของญี่ปุ่น เป็นอาชีพที่ได้รับอิทธิพลมาจากประเทศจีน ซึ่งจะต้องเป็นหญิงตระกูลดีหรือหญิงสาวชาวบ้านรูปงาม แต่ชีวิตตกต่ำ อับจนโดนพ่อแม่ขายมา โดยแต่ละคนจะถูกจับมาปั้นให้เป็นดาวเด่นและฝึกให้เชี่ยวชาญศาสตร์ศิลปะทุกแขนง ไม่ว่าจะเป็นการร้องรำทำเพลง เล่นดนตรีและมารยาท เพื่อมัดใจชาย อี้จี มีตำแหน่งเป็นนางคณิการชั้นสูงและเป็นอาชีพที่ขายความสามารถ แต่ไม่เน้นขายเรือนร่างและสามารถเป็นเพื่อนคุยคลายเหงาได้ ทำให้ได้ฟิลเหมือนจีบหญิง ซึ่งจะแตกต่างกับโสเภณีที่ขายเซ็กส์เป็นหลักโดยสิ้นเชิง ถึงแม้จะได้เป็นนัมเบอร์วันในโรงชำเราที่ล้อมรอบไปด้วยหนุ่มๆที่ตามรุมจีบ แต่อาชีพนี้ก็มีอายุงานที่สั้น เมื่ออายุเริ่มมากขึ้น พวกผู้ชายจะไม่ค่อยสนใจกัน ดังนั้นอี้จีส่วนใหญ่จะหาทางแต่งงานกับคนที่ร่ำรวย ไม่เช่นนั้นแล้วจะไม่สามารถยืนหนึ่งได้และตกกระป๋องในที่สุด ด้วยความที่เป็นผู้เชี่ยวชาญศิลปะมัดใจเสน่ห์ชาย นี่เองจึงทำให้อี้จีบางคนสามารถรังสรรค์ผลงานดีๆ จนต่อยอดไปเป็นกวีเอกที่มีชื่อเสียงในกรุงศรีอยุธยาได้เลย สำหรับภาพยนตร์เรื่อง อโยธยามหาละลวย นอกจากเราจะได้เห็นฝีมือการแสดงสุดปังของ โบว์ เมลดา นักแสดงสาวดาวรุ่งมากความสามารถผู้รับบทเป็นออสร้อย เราจะได้ฟังเพลงฉ่อยโบราณที่ขับร้องด้วยตัวของเธอเอง โดยเธอต้องฝึกฝนการร้อง ทุกท่าร่ายรำ เพื่อให้มีความสมจริงเหมือนกับอี้จีสุดฮอตของหนุ่มๆในสมัยก่อน เรียกได้ว่าจัดเต็มทุกกลยุทธ์มาขนาดนี้ บอกเลยคุณจะตกหลุมรักอี้จีคนสวยอย่างออสร้อยแน่นอน 3. การใช้ชีวิตเป็นลูกครึ่งในสมัยกรุงศรีอยุธยา สิ่งที่เห็นได้ชัดในตัวอย่างภาพยนตร์เรื่องอโยธยา มหาละลวย นอกจากโมเม้นกุ๊กกิ๊กสุดฟินของพระนางแล้ว เราจะเห็นตัวละครจำนวนมากที่เป็นลูกครึ่งไทยครึ่งนานาชาติเต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็นตัวละครอย่าง เรียวสึ พระเอกของเราเป็นลูกครึ่งญี่ปุ่น / อาซิม เป็นแขกเปอร์เซีย / จีนล้ง ที่เป็นตัวละครลูกครึ่งจีน และคองกับทวย มีเชื้อสายโปรตุเกส เป็นต้น จากการบันทึกหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่ เชื่อว่าการเป็นลูกครึ่ง เริ่มมีมาตั้งแต่สมัยอยุธยาเป็นจุดศูนย์กลางของการค้าและเป็นเมืองท่าที่มีกลุ่มพ่อค้ามาค้าขาย นักบวชที่มาเผยแพร่ศาสนาคริสต์ ทหารอาสา นักสำรวจแผ่นดินในแต่ละประเทศ รวมถึงบางชาติก็อพยพครอบครัวมาอาศัยในรอบเมืองกรุงศรีอยุธยาไม่ว่าจะอยู่ชั่วคราวหรือถาวรก็ตาม ทำให้ได้เจอสาวๆที่ถูกใจ จนเกิดการผสมผสานระหว่างพื้นเมืองอยุธยาและต่างชาติขึ้น แม้ว่าจะมีพ่อเป็นฝาหรั่ง มีข้อได้เปรียบทางด้านภาษา แต่ลูกครึ่งกลับมีข้อยกเว้นที่ไม่สามารถเดินทางกลับประเทศบรรพบุรุษพร้อมบิดาได้ เนื่องจากในสมัยนั้น พระมหากษัตริย์ทรงได้ตั้งตรากฎหมายขึ้นว่า "ชาวต่างชาติชนชาติใดก็ตามเมื่อมาเกิดในอยุธยา ให้ถือเป็นคนไทยโดยแท้จริง" ด้วยเหตุดังกล่าวทำให้สังคมในกรุงศรีอยุธยาจึงเต็มไปด้วยความหลากหลายทางชาติพันธุ์ต่างๆที่อาศัยจำนวนมาก สำหรับนักเขียนแล้ว หลังจากที่ได้ดูตัวอย่างก็รู้สึกตื่นเต้นมาก เพราะไม่มีค่อยมีภาพยนตร์ไทยเรื่องไหนที่เล่าเกี่ยวกับกลุ่มคนต่างชาติในประวัติศาสตร์ไทย อโยธยามหาละลวยจึงเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกๆที่หยิบประเด็นดังกล่าว มาสร้างสตอรี่ ทั้งแต่งเติมสีสัน รอยยิ้ม มิตรภาพของสังคมพหุวัฒนธรรมให้ตัวหนังมีความสนุกและน่าสนใจมากยิ่งขึ้น 4. รอยสัก ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคสมัย สำหรับผู้เขียนมองว่ารอยสักก็ยังเป็นสิ่งยอดนิยมตลอดกาลในหมู่ชายหญิง การสักถือเป็นศิลปะการเขียนลวดลายอักขระต่างๆบนร่างกาย บางคนก็สักเป็นตัวการ์ตูน สัตว์ ข้อความ คนรัก เพื่อความสวยงามหรือคอยเตือนใจ บางคนก็มีจุดประสงค์ที่จะสักยันต์ต่างๆเพื่อให้แคล้วคลาด ปลอดภัยเช่น ยันต์ห้าแถว ยันต์แปดทิศ ยันต์เก้ายอด และอีกหลายยันต์มากมาย ซึ่งในตัวอย่างภาพยนตร์เราจะเห็นตัวละครอย่าง ขวัญ ลูกชายของออกญาคชบาล ซึ่งรับบทโดย ภีม ธนบดี ที่ปล่อยของ อวดรอยสักรอบตัวเต็มไปหมดให้ผู้ชมอย่างเราได้ทึ้งกัน การสักยันต์สันนิษฐานว่าสืบทอดมาตั้งแต่สมัยโบราณกาล แต่เดิมจะนิยมสักเฉพาะผู้ชายเท่านั้น ซึ่งตำแหน่งที่หนุ่มๆนิยมสักก็จะมี หลัง หน้าอก คอ ศีรษะ ไหล่ แขน ชายโครง หน้า มือ และหัวเข่า เป็นต้น การสักยันต์จึงถือเป็นการมูเตลูในอีกรูปแบบนึง ตามความเชื่อทางไสยศาสตร์ที่ว่าเพื่อป้องกันจากศาสตราวุธแหลมคม จากการไปรบ โดนปล้นหรืออุบัติเหตุที่ไม่คาดฝันและสามารถอยู่ยงคงกระพันชาตรีได้ นอกจากป้องกันตัวเองแล้ว สำหรับชายใดที่อยากจีบหญิงติด เห็นหน้าปุ๊บรักเลย ก็ต้องใช้วิธีสักเป็นรูปจิ้งจกหรือนกสาริกา เพราะสามารถเรียกเมตตามหานิยมหรือผูกเสน่ห์ให้กับเพศตรงข้ามได้อีกด้วย ในสมัยกรุงศรีอยุธยา การสักยังมีความหมายสำคัญและจำเป็นมากในการเกณฑ์ไพร่พลทหาร เพราะแสดงถึงสังกัดของบุคคลนั้นๆ ไม่ว่าจะสังกัดกรมกองที่ทำงานอยู่ สังกัดมูลนาย ซึ่งเราจะเรียกลักษณะนี้ว่า "การสักเลก" โดยจะทำเป็นเครื่องหมายรหัสตัวเลขหรือข้อความต่างๆตามจุดที่เห็นชัดที่สุดบนร่างกายคือ ข้อมือ แต่หากเป็นชายชนชั้นนำ ส่วนใหญ่จะไม่มีรอยสักนั้นเอง 5. ไลฟ์สไตล์ ดูดี มีคลาสของชาวอยุธยา เป็นแบบไหน การหลั่งไหลทางวัฒนธรรม หรือ soft power ในแต่ละประเทศแถบเอเชียและตะวันตก ได้เข้ามามีบทบาทต่อวัยรุ่นอยุธยาเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นสีผิว ทรงผม การแต่งกาย จะมีอิทธิพลอะไรบ้างที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงไปไลฟ์สไตล์จากเดิม ตามไปดูกัน เริ่มที่ทรงผม หลายคนคงคิดว่าคนไทยในสมัยก่อนไว้แค่ผมสั้นอย่างเดียว แต่ความจริงแล้วมีการบันทึกหลักฐานทางประวัติศาสตร์กับภาพจิตรกรรมฝาผนังมากมายที่เชื่อว่า ผู้ชายและผู้หญิงอยุธยาก็ไว้ผมยาวเช่นกัน การไว้ผมยาวเริ่มมาจาการติดต่อค้าขายกับจีน ด้วยเหตุเช่นนี้เองก็มีคนบางส่วนไว้ตามแฟชั่นคนจีน ถ้าเป็นผู้ชายผมยาวจะม้วนขึ้นมัดไว้บนศีรษะ ส่วนผู้หญิงจะปล่อยผม จนกระทั่งอารยธรรมชาวคริสต์และอิสลามเข้ามามีอิทธิพล ด้วยสภาพอากาศที่ร้อนจัดในอยุธยา การดูแลรักษาบำรุงผมก็เป็นสิ่งที่ยากขึ้น ทำให้เริ่มกลับมานิยมไว้สั้นเหมือนเดิม คงเหลือชนชั้นสูงที่ยังคงไว้ผมยาวต่อไป เรื่องถัดมาอุดมคติสีผิว ชาวอยุธยาแต่เดิมแล้วจะนิยมผิวสีที่คล้ำเข้ม แน่นอนใครที่มีผิวสีแบบนี้เรียกว่ามีคลาส สวยและหล่อมาก ยืนหนึ่งในอโยธยาทีเดียว ความนิยมเรื่องความงามนี้ได้มาจากอิทธิพลของเขมร แม้กระทั่งพระพุทธรูป หลวงพ่อวัดธรรมิกราชยังถูกทาด้วยสีดำเข้ม แต่เมื่อมีชาวตะวันตกเดินทางมาเยือนกรุงศรีอยุธยามากขึ้น ค่านิยมจึงเปลี่ยนไป การนิยมผิวขาวเริ่มเข้ามาแพร่หลายแทนผิวสีเข้มนั้นเอง ที่เขียนมาไลฟ์สไตล์ยังไม่หมดแค่นี้นะคะ ต้องไปตามชมในภาพยนตร์ยังมีรายละเอียดอีกเพียบที่จะทำให้เราเพลิดเพลินกับแฟชั่นสีสันจัดจ้าน เสื้อผ้าหน้าผมจัดเต็มของนักแสดงทุกคน แถมงานนี้เราจะได้เห็นเจมส์จิลุคมาดเข้มมีหนวดนิดๆ ที่ตลอดทั้งเรื่องเขาเมคอัพทาตัวให้ตัวเองมีผิวสีคล้ำเพื่อความสมจริงตามคนอยุธยาในอดีตค่ะ 6. ดอกชบาสีแดง สัญลักษณ์แห่งการลงโทษผู้หญิงมีชู้ ตัวอย่างบางส่วนของภาพยนตร์ อโยธยามหาละลวย เราจะเห็น ออสร้อย นางเอกของเรื่องถูกคนร้ายจับตัวและมัดกลางลานประหารชีวิต จุดสังเกตเล็กๆ เธอมีมาลัยดอกชบาสีแดงคล้องรอบคออยู่ นี่เป็นบทลงโทษที่โหดร้ายที่สุดสำหรับผู้หญิง ดอกชบาถูกมองว่าเป็นเครื่องมือประจานหญิงแพศยาที่ทำชั่ว ถือว่าเป็นผู้หญิงไม่ดีอีกด้วย ในสมัยกรุงศรีอยุธยาผู้ชายสามารถมีเมียได้หลายคน แต่ถ้าเป็นผู้หญิงแล้วไซร้ มีสามีได้แค่คนเดียวเท่านั้น หากมีความคิดที่จะมีชู้ จะโดนโทษที่รุนแรงมากๆ จนมีการบัญญัติกฎหมายโบราณว่าด้วยเรื่องผัวเมีย ข้อ 90 ว่า หากหญิงใดนอกใจสามี แอบมีชู้ ให้เฆี่ยนหลังมัน 30 ครั้ง ต้องโกนผมเป็นรูปกากบาท ทัดดอกชบาสองหู พร้อมคล้องคอด้วยพวงมาลัยดอกชบาแดงถึง 100 พวง ยังไม่พอต้องขึ้นขาหย่างมัดบนลานตะแกรง และถูกแห่ประจานรอบตลาด ชุมชนให้อับอายถึง 3 วัน ส่วนชายชู้มีโทษที่เบาบางเมื่อเทียบกับผู้หญิงแล้ว จะเสียค่าปรับอย่างเดียว สำหรับผู้เขียนแค่อ่านกฎนี้ก็รู้สึกได้ถึงความโหดร้ายและความเหลื่อมล้ำทางเพศในสังคมสมัยก่อนอย่างเห็นได้ชัด ในส่วนของภาพยนตร์ ผู้ชมอย่างเราต้องเชียร์เอาใจช่วยกันและลุ้นว่าเรียวสึจะสามารถช่วยชีวิตออสร้อย สาวผู้เป็นที่รักของเขา ไว้ทันและรอดชีวิตได้หรือไม่ 7. เวทมนตร์คาถา "โอม...จะเป่าคาถา มหาระรวย ดลหัวใจคนสวย ให้มาหลงเสน่ห์" แค่เกริ่นมาเป็นเพลง หลายคนคงสงสัยว่าเกี่ยวข้องอะไรกับหัวข้อนี้ เพราะว่าอโยธยา มหาละลวยนอกจากจะเป็นหนังพีเรียดแนวโรแมนติก-แอ็กชันที่น่าดูแล้ว จุดเด่นของเรื่องนี้คือการหยิบคาถาเวทมนตร์ต่างๆมาจีบหญิงและไว้ใช้ฟาดฟันสู้กับศัตรูตัวฉกาจ ให้เราได้ตื่นเต้นกันความเชื่อเรื่องผีสางเทวดา เครื่องรางของขลัง โชคลาง รวมถึงเวทมนตร์ ถือว่าอยู่ในแขนงไสยศาสตร์ ซึ่งอยู่คู่กับคนไทยมาช้านาน เวทมนตร์เป็นมูเตลูถ้อยคำอันศักดิ์สิทธิ์ที่ผูกเพื่อเสกเป่าตามวิธีต่างๆตามสิ่งที่ตนต้องการ เช่น ป้องกันตัวเองจากภัยอันตราย โชว์อิทธิฤทธิ์ปาฏิหารย์ เสกทำร้ายศัตรู รักษาโรคภัย ทำเสน่ห์ แก้คุณไสยและอีกหลายเหตุผลมากมาย ในสมัยกรุงศรีอยุธยา ชาวบ้านที่ทำนา แต่ไม่ได้ผลผลิตตามต้องการ ก็จะพากันเชื่อว่าเทวดาบนสวรรค์เป็นต้นเหตุที่ทำให้ฝนแล้ง ราชสำนักในวังจึงเข้ามาจัดการโดยให้พระสงฆ์ร่ายมนตร์คาถาเพื่อเรียกให้ฝนตกทั่วแผ่นดิน เมื่อเวทมนตร์นำมาใช้ในด้านดี ช่วยเหลือต่างๆ ย่อมมีบางคนเอามาใช้ในทางที่ผิด เราเรียกศาสตร์นี้ว่ามนตร์ดำ ซึ่งสามารถพบเห็นได้ในชาวบ้านทั่วไปและในวัง จุดประสงค์หลักคือต้องการเล่นงานชีวิตคนให้ล้มป่วย บาดเจ็บจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ ทำให้ราชสำนักต้องมีกฎหมายควบคุมและลงโทษขั้นรุนแรงประหารชีวิตเพื่อไม่ให้คนที่เล่นศาสตร์นี้ทำลายผู้อื่นได้อีก นอกจากนี้เวทมนตร์คาถายังถูกนำมาใช้เพื่อแสดงอิทธิฤทธิ์และข่มขวัญข้าศึกให้ศัตรูกลัว หรือแสดงถึงบุญบารมีของกษัตริย์เช่นกัน เป็นไงกันบ้างคะ สำหรับเกร็ดความรู้ประวัติศาสตร์ทั้ง 7 ข้อที่ผู้เขียนนำมาฝากในครั้งนี้ เชื่อว่าบทความดังกล่าวจะมีส่วนช่วยให้ผู้อ่านได้เข้าใจเรื่องราวชีวิต วัฒนธรรมของคนอยุธยาในสมัยก่อนได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้นและกระตุ้นต่อมอยากดู ก่อนที่จะได้ไปรับชม อโยธยามหาละลวย ที่จัดเต็มทั้งโปรดักชัน ซีจีสุดตระการตา คู่พระนางเคมีสุดฟิน พร้อมขนทีมนักแสดงสุดต๊าชอีกหลายท่านที่จะมาสร้างสีสันและเรียกรอยยิ้มให้ผู้ชมได้ประทับใจและมีความสุขล้นจอ กับหนังรักสายมูพีเรียดฟอร์มยักษ์ของไทยที่ส่งท้ายปี พ.ศ.2564 เสกมนตร์คาถาดูหนังพร้อมกันได้แล้วตั้งแต่วันที่ 2 ธันวาคม เป็นต้นไป ทุกโรงภาพยนตร์ค่ะ :Dตัวอย่างภาพยนตร์อโยธยามหาละลวย https://www.youtube.com/watch?v=m9s69ZsKL4U ขอขอบคุณเครดิตรูปภาพสวยๆจาก Official Website & Twitter : Mono Film / TrueIDภาพประกอบที่ 1 I ภาพประกอบที่ 2 จากเว็บไซต์ Wikipedia.com I ภาพประกอบที่ 3 I ภาพประกอบที่ 4.1 /4.2 / 4.3 / 4.4 / 4.5 I ภาพประกอบที่ 5 ภาพประกอบที่ 6 I ภาพประกอบที่ 7 ฉากบางส่วนจากตัวอย่างภาพยนตร์ I ภาพประกอบที่ 8 I ภาพประกอบที่ 9 เครดิตวิดีโอประกอบบทความจาก Official Youtube: MrMonoFilmบทความแนะนำจากผู้เขียน- จากนวนิยายสู่ละคร ช่อง 3 จัดขบวนทัพละครใหม่ 8 เรื่อง ขนนักแสดงแถวหน้าประชันบทบาทล้นจอ- ชวนดูหนังสุดปัง"Spencer"สัมผัสอีกแง่มุมชีวิตสุดดราม่าของเจ้าหญิงไดอาน่า ตัวเต็งรางวัลออสการ์- 5 ผลงานสุดต๊าชของ เจมส์ จิรายุ ที่แฟนๆประทับใจไม่รู้ลืม จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !