Dare to lead คือหนึ่งในหนังสือของ เบรเน่ บราวน์ นักเขียน นักพูด นักวิจัยและนักสังคมสงเคราะห์ของมหาลัยวิทยาลัยฮิวส์ตันของประเทศอเมริกาสำหรับนักอ่านหนังสือภาษาอังกฤษอยู่แล้วสามารถอ่านได้แบบชิว ๆ สำหรับนักอ่านมือใหม่หนังสือเล่มนี้ใช้ภาษาอังกฤษที่เข้าใจง่าย อาจจะมีศัพท์ทางการบ้าง แต่ก็ไม่ยากที่เดาถ้าไม่อยากเปิดดิกชันนารี ในส่วนของสไตล์การเขียนก็ไม่เชิงเป็นภาษาเขียนจ๋าขนาดนั้น จะมีการปนของภาษาพูดเข้ามาด้วย และด้วยความที่เบรเน่เป็นอาจารย์วิธีการสื่อสารของนางจะค่อนข้างเป็นระบบ คือผู้อ่านไม่งงแน่นอนว่านางกำลังจะสื่ออะไร ถึงได้บอกว่าอ่านง่าย ข้อเสียอย่างนึงคือ การพูดเกี่ยวกับเรื่องเดียววนไปวนมาในสถานการณ์ที่แต่งต่างกัน นักอ่านที่อ่านหนังสือจำพวกนี้อยู่แล้วจะรู้สึกเบื่อเพราะพูดถึงแต่เรื่องเดียวที่แค่พูดครั้งเดียวก็เข้าใจแล้ว แต่สำหรับนักอ่านมือใหม่น่าจะชอบแนวเขียนแบบนี้เพราะการที่นางย้ำเน้นจุดหลักของหนังสือจะทำให้มือใหม่หัดอ่านไม่หลงประเด็นและเข้าใจเนื้อหาหลัก ๆ ของหนังสือได้ชัดเจนขึ้น สิ่งที่ผู้อ่านจะได้จากหนังสือเล่มนี้คือ มุมมองที่ว่าผู้นำไม่ใช่แค่สถานะทางสังคมหรืออำนาจจากคำนำหน้าว่าหัวหน้า แต่เป็นบุคคลคนหนึ่งที่สามารถทำให้คนอีกหลายคนเคารพและเชื่อใจ หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือสำหรับทุกคนที่พร้อมที่จะเลือกความกล้าหาญแทนความสบายเพื่อสร้างความแตกต่างและเริ่มที่จะนำคนอื่นให้เดินไปในทางแห่งความสำเร็จข้อคิดอื่น ๆ ที่แทรกเข้ามาที่ผู้อ่านจะสามารถนำไปปรับใช้ได้คือ ผู้นำที่ดีไม่ใช่คนที่มีคำตอบให้กับทุกคำถาม (จริงไม่จริงค่ะ? ) หรือแก้ได้ทุกปัญหา แต่เป็นคนที่ตั้งคำถามที่ถูกต้องเพื่อนำไปสู่การหาคำตอบที่ตรงกับทางแก้ไขปัญหานั้น ๆ ผู้นำที่ดีไม่ใช่พระเจ้าคนที่แสดงออกแต่ความเข้มแข็งแต่กล้าที่จะแสดงถึงความเป็นมนุษย์ธรรมดาที่อ่อนแอเป็น ผิดพลาดได้ กลัวกับการตัดสินใจในบางครั้ง เพราะนี่คือธรรมชาติของมนุษย์ ( อ่านไปก็นึกถึงนายตัวเองไปแน่นอนค่ะ ) และผู้นำที่ดีจะเป็นมนุษย์ที่มีความกล้าหาญมากพอที่จะเข้าใจและยอมรับกับความจริงที่ว่า อะไรที่พลาดไปแล้วคือบทเรียน เพื่อในครั้งหน้าจะได้ไม่ทำผิดอีก และเพื่อที่จะหาทางแก้ต่อไป ใช่คะสิ่งที่แทรกอยู่ในทุก ๆ บทของหนังสือคือจิตวิทยามนุษย์แบบเข้าใจง่ายเพราะเบรเน่จะยกตัวอย่างให้เห็นได้ชัด อ่านไปอ้อไปประมาณนั้นค่ะ ภาพจาก pixabayผู้อ่านท่านใดที่มีตำแหน่งเป็นผู้จัดการหรือสูงไปกว่านั้น หนังสือเล่มนี้เหมาะมากเพราะบางทีการที่เราได้รับฟังมุมมองการบริหารคนแบบใหม่ ๆ ดูบ้าง ก็อาจจะช่วยใหเราบริหารคนได้ดีขึ้น หรือใครที่เพิ่งเปลี่ยนงานและต้องทำงานกับทีมงานใหม่กำลังเครียดว่าจะซื้อใจทีมงามใหม่นี้ยังไงดี ลองหยิบหนังสือเล่มนี้มาอ่านดูDare to lead เป็นเหมือนคัมภีร์ที่ทุกคนสามารถครอบครองและศึกษาเพื่อนำไปปรับใช้กับสถานการณ์ของตนเอง ไม่ใช่แค่ผู้ที่จะเป็นผู้นำเท่านั้น แต่ผู้ที่กำลังจะเป็นพ่อแม่คน หรือแม้แต่ครูอาจารย์ ก็สามารถนำหลักการต่าง ๆ ในหนังสือเล่มนี้ไปปรับใช้ได้ในโลกที่มีความเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วแบบในยุคปัจจุบัน เราไม่ควรหยุดพัฒนาตนเองให้ทันโลก แบบแผนแบบเก่าๆอาจจะไม่สามารถนำมาใช้ในเหตุการณ์ปัจจุบันได้แล้ว เมื่อเวลาเปลี่ยน เราก็ต้องปรับเปลี่ยนไปตามกาลเวลา