เหตุผลที่เลือก "The Hunt For Gollum" เป็นเรื่องราวบทต่อไปของ The Lord Of The Rings

การประกาศสร้าง Lord of the Rings: The Hunt for Gollum ถือเป็นเรื่องที่สร้างความแปลกใจให้กับใครหลายคน เพราะว่ายังมีเรื่องราวที่น่าสนใจอีกมายในมัชฌิมโลกอีกมากมายที่ยังไม่ได้ถูกเล่า แต่เรื่องราวของ กอลลัม หรือ สมีกอล ที่ผู้ชมหลายคนไม่ได้ให้ความสนใจมากนักกลับกลายมาเป็นเรื่องราวแรกที่จะถูกนำมาเล่าในภาพยนตร์สองภาคใหม่ในแฟรนไชส์นี้ที่กำลังจะถูกสร้างขึ้น

แล้วเหตุผลอะไรกันที่ทำให้ทีมงานเบื้องหลังตัดสินใจเลือกเอาเรื่องราวของ กอลลัม มาบอกเล่า เหตุผลนั้นได้ถูกเปิดเผยออกมาแล้ว ในการให้สัมภาษณ์ล่าสุดกับสำนักข่าว เดดไลน์ ของ ปีเตอร์ แจ็คสัน ต้นฉบับผู้สร้างแฟรนไชส์ภาพยนตร์นี้มาตั้งแต่ในปี 2001

“ตัวละคร กอลลัม หรือ สมีกอล ทำให้ผมต้องทึ่งอยู่เสมอ เพราะว่า กอลลัม สะท้อนให้เห็นถึงธรรมชาติที่แย่ที่สุดของมนุษย์ ในขณะที่คงจะบอกได้ว่าด้านของ สมีกอล ค่อนข้างที่จะน่าเห็นอกเห็นใจ”

“ผมคิดว่าเขาเชื่อมโยงกับทั้งนักอ่านและผู้ชมภาพยนตร์ เพราะว่ามันมีส่วนเล็ก ๆ ของทั้งสองในตัวของพวกเราทุกคน เราต้องการที่จะออกไปสำรวจเรื่องราวเบื้องหลังของเขาจริง ๆ และเจาะลึกลงไปในการเดินทางหลายครั้งหลายคราวของเขา ที่เราไม่ได้มีโอกาสพูดถึงในหนังภาคก่อน ๆ มันยังคงเร็วเกินไปที่จะรู้ว่าเขาได้พบเจอกับใครบ้าง แต่ก็คงพอจะบอกได้ว่าเราจะใช้ความคิดของ โทลคีน นำทาง”

โดยได้มีการยืนยันแล้วว่า แอนดี้ เซอร์คิส นักแสดงผู้สวมบทบาทเป็น กอลลัม ในไตรภาค Lord of the Rings หรือ เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ และ The Hobbit หรือ เดอะ ฮอบบิท จะกลับมาสวมบทบาทเดิมอีกครั้งใน The Hunt for Gollum แต่ในครั้งนี้นอกเหนือไปจากฐานะของนักแสดงแล้ว เขาก็ยังจะทำหน้าที่เป็นผู้กำกับของภาพยนตร์เรื่องนี้อีกด้วย ซึ่ง แจ็คสัน ก็สนับสนุนความคิดนี้เป็นอย่างมาก และเชื่อว่าเขาจะเป็นคนที่มีความเข้าใจในจักรวาลแห่งนี้มากที่สุดคนหนึ่ง

“แอนดี้ เป็นคนที่ทำงานด้วยสนุกมาก ในบทบาทของผู้กำกับกล้องที่สองในกองถ่าย เดอะ ฮอบบิท”

“เขามีพลังและจินตนาการ และที่สำคัญที่สุด เขามีความเข้าใจโลกของเรื่องราวซึ่งเป็นที่จำเป็นจะต้องใช้ในการกลับไปยังมัชฌิมโลก”

“พวกเราทำงานร่วมกันในหนังถึงแปดเรื่องและในแต่ละครั้งก็เป็นประสบการณ์ที่อัศจรรย์ มันไม่มีใครบนโลกนี้แล้วที่พร้อมจะทำงานในเรื่องราวของ กอลลัม มากกว่า แอนดี้”

ส่วน ฟิลิปปา โบเยนส์ นักเขียนผู้ทำหน้าที่เขียนบทภาพยนตร์ในแฟรนไชส์นี้ทั้งหกภาคร่วมกับ ฟราน วอลช์ ก็ได้ออกมาพูดถึงเหตุผลที่เลือกเราเรื่องราวของ กอลลัม มาสร้างเป็นภาพยนตร์ด้วยเช่นกัน

“เรื่องราวของ กอลลัม เป็นหนึ่งในเรื่องราวที่น่าสนใจที่สุดสำหรับพวกเรา ในประเด็นของตัวละครที่เราไม่สามารถเจาะลึกลงไปได้อย่างที่เราเคยต้องการ ซึ่งเป็นอะไรที่ฟังดูแปลกถ้าหากพูดออกไป หากคิดว่าเขาเป็นตัวละครที่ทุกคนคุ้ยเคยกันเป็นอย่างดี”

“ช่วงชีวิตของ กอลลัม อยู่ในช่วงเวลาที่น่าสนใจของมัชฌิมโลก ในตอนที่คำถามถูกถามเป็นครั้งแรก นี่เป็นเรื่องราวแรกที่เราคิดถึง เพราะว่าฉันสามารถบอกคุณได้และก็อาจจะไม่มีใครเชื่อเลย แต่พวกเราก็ไม่มีความคาดหวังอะไรเลยในการกลับมาทำสิ่งนี้”

“มันไม่ได้เป็นอะไรที่เราตั้งใจที่จะทำกันอย่างเฉพาะเจาะจง ดังนั้นเมื่อมีคำถามถูกตั้งขึ้นมาว่า อะไรที่พาคุณกลับมา? และสิ่งนั้นมันก็คือการทำงานร่วมกับคนที่เราเคยร่วมงานด้วย มันยังเกี่ยวข้องกับโอกาสที่จะได้ทำงานร่วมกับ ไมเคิล เดลูก้า และ พาเมลา แอ็บดี้ อีกทั้ง อลัน เอฟ. ฮอร์น ก็เป็นอีกคนที่กลับมาทำงานที่สตูดิโอ มันแค่รู้สึกว่ามันใช่”

วอลช์ และ โบเยนส์ จะกลับมาทำหน้าที่เขียนบทภาพยนตร์ในแฟรนไชส์นี้อีกครั้ง ร่วมกับ ฟีบี้ กิตตินส์ และ อาร์ตี้ ปาปาจอร์จิโอ ส่วน แจ็คสัน จะทำหน้าที่เป็นออกแบบงานสร้างร่วมกับ วอลช์ และ โบเยนส์

Lord of the Rings: The Hunt for Gollum มีกำหนดการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ในปี 2026

สำหรับแฟนหนังเมเจอร์ ห้ามพลาดกับบัตรดูหนังสุดคุ้ม M PASS ที่จะทำให้คุณคุ้มเต็มอิ่มกับการดูหนังตลอดทั้งปี เตรียมไปมันส์กับกองทัพหนังดังมากมาย สมัครง่าย ๆ เพียงแค่คลิก ที่นี่ 

ขอบคุณข้อมูลจาก Deadline