มาแล้วจ้า หนังใหม่เข้า Netflix กันอีกแล้ว สำหรับเรื่อง “The Substance” หรือที่มีชื่อว่า “สวยสลับร่าง” ภาพยนตร์แนวดราม่า-แอ็กชัน ที่รับประกันได้เลยว่าปะทะอารมณ์กันแบบเข้มข้น พร้อมถมความดาร์กกันมาเน้นๆ เป็นหนังที่เริ่มต้นด้วยแรงกดดันจบด้วยความบ้าระห่ำ ดีเดือด ของตัวละครแบบสุดๆ เรียกได้ว่าลุ้นจนตัวโก่ง สมองเปิดโล่งในตอนท้าย เหมือนได้เข้าสู่โลกใบใหม่ Into the new world เลยทีเดียว (ฮา) The Substance สนุกไหม เป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร? มาดูกันเลยจ้า รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! รายละเอียดเรื่อง The Substance สวยสลับร่าง ชื่อเรื่อง: The Substance / สวยสลับร่าง แนวภาพยนตร์: ดราม่า, สยองขวัญ (Body Horror) ผู้กำกับ: กอราลี ฟาร์ฌาต์ (Coralie Fargeat) ระบบเสียงและภาษา: ภาษาอังกฤษ มีซับไทย วันที่ออกฉายครั้งแรก: 20 กันยายน 2024 ในสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักร ความยาว: 141 นาที นักแสดงนำ เดมี่ มัวร์ (Demi Moore) รับบทเป็น เอลิซาเบธ สปาร์คเกิล / มาร์กาเร็ต ควอลลี่ย์ (Margaret Qualley) รับบทเป็น ซู / เดนนิส เควด (Dennis Quaid) รับบทเป็น ฮาร์วีย์ เรื่องย่อ The Substance สวยสลับร่าง https://www.youtube.com/watch?v=LNlrGhBpYjc The Substance สวยสลับร่าง เป็นภาพยนตร์ที่ผสมผสานความลึกลับ ดราม่า และความสยองขวัญเข้าไว้ด้วยกันอย่างเข้มข้น เล่าเรื่องราวของ อลิซาเบธ สปาร์คเกิล (รับบทโดย เดมี่ มัวร์) อดีตดาราที่เคยเจิดจรัสในวงการบันเทิง แต่เมื่ออายุของเธอเดินมาจนถึงเลข 5 ก็ถูกผลักไสโดย ฮาร์วีย์ (รับบทโดย เดนนิส เควด) CEO ใหญ่เจ้าของบริษัท ทำให้เธอรู้สึกราวกับว่าโลกใบนี้แปรพักตร์กลายเป็นศัตรู และไม่ยอมรับให้เธอเข้าไปโลดแล่นได้อย่างร่าเริงใจอีกต่อไปเมื่อร่างกายแห้งเฉา ห่อเหี่ยวไปตามกาลเวลา แต่แล้วในวันที่ชีวิตมืดมนที่สุด เธอได้พบกับสารลึกลับที่ถูกขนานนามว่า “The Substance” สารนี้สามารถเปลี่ยนร่างกายของเธอให้กลายเป็น ซู หญิงสาววัย 20 ต้นๆ ที่ทั้งสวยสะกดสายตาและเต็มไปด้วยเสน่ห์ร้ายกาจ อลิซาเบธได้ตกลงปลงใจเซ็นสัญญาเพื่อแบ่งปันร่างนี้กับซู ด้วยหวังว่าเธอจะถูกอ้าแขนรับและกอดอย่างอบอุ่นจากสังคมและโลกใบนี้อีกครั้ง โดยแต่ละคนจะได้ใช้ชีวิตในร่างนี้สลับกันคนละหนึ่งสัปดาห์ ในตอนแรกทุกอย่างดูเหมือนจะสมบูรณ์แบบ อลิซาเบธกลับมาเฉิดฉายในโลกที่เธอเคยเป็นดาวรุ่ง ขณะที่ซูก็เพลิดเพลินไปกับชีวิตใหม่ในร่างที่สวยงาม แต่เมื่อซูเริ่มต้องการครอบครองร่างนี้เพียงลำพัง เมื่อ Balance ของชีวิตที่กลับมาโลดแล่นและสมบูรณ์แบบไม่ได้ถูกรักษาเอาไว้ตามกฎที่ The Substance ได้กำหนดไว้ ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเธอทั้งสองคนจึงกลับกลายมาเป็นเกมอันตรายที่เต็มไปด้วยความโลภ ความหวาดระแวง ความเจ็บปวดที่ค่อย ๆ กัดกินจิตใจระหว่างกัน จนทำให้ปลายทางของการสลับร่างแสนอันตรายนี้ทิ้งร่องรอยไว้ทั้งในจิตใจของตัวละครและผู้ชมจนลืมไม่ลง เกิดอะไรขึ้นกับร่างต้นของอลิซาเบธ? ซูจะได้ใช้ชีวิตท่ามกลางแสงไฟ สปอตไลต์ได้จริงหรือไม่? เรื่องราวของ 2 ร่างสลับสวยจบลงอย่างไร? ติดดามคำตอบกันได้เลย รีวิว เรื่อง The Substance สวยสลับร่าง The Substance เป็นภาพยนตร์ที่เสิร์ฟความระห่ำตามแบบฉบับ Body Horror ได้แบบฉ่ำตา แถมแก่นหลักของเนื้อหายังเปรียบเสมือนยาขมเม็ดเขื่องที่สะท้อนความจริงอันโหดร้ายในสังคมยุคใหม่ เกี่ยวกับผลกระทบของการยึดติดกับมาตรฐานความงาม และการหลงใหลในรูปลักษณ์ที่สมบูรณ์แบบมากเกินไปจนกระทั่งต้องสูญเสียความเป็นตัวเอง จนทำให้ผู้ชมอย่างตัวเราตั้งคำถามกับตัวเองว่า “เรายอมเสียอะไรไปบ้างเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่สังคมเรียกว่าสมบูรณ์แบบ?” เรื่องราวที่สะท้อนสังคมได้อย่างเฉียบแหลม The Substance ไม่ใช่แค่เพียงหนังที่เล่าถึงการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ แต่มันคือกระจกสะท้อนถึงค่านิยมเรื่องความงามและความกดดันทางสังคมในยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะประเด็นที่ว่าผู้หญิงต้องรักษาความงามและความเยาว์วัยเพื่อได้รับการยอมรับในสังคม ตัวละครอลิซาเบธคือตัวแทนของคนที่ถูกสังคมเขี่ยทิ้งไปเพราะไม่สามารถตอบสนองความคาดหวังด้านรูปลักษณ์ที่สวย แซ่บ น่าค้นหาได้อีก ความหวังที่มาจากสารมหัศจรรย์จึงกลายเป็นแค่เพียงตัวเลือกเดียวที่หลงเหลือในชีวิตช่วงใกล้ฝั่งของเธอ นอกจากนี้ความสัมพันธ์ระหว่าง อลิซาเบธ กับ ซู ยังสะท้อนถึงการดิ้นรนระหว่างตัวตนในอดีตและตัวตนในอนาคตของผู้หญิงยุคใหม่ อลิซาเบธไม่ต้องการกำจัดซู เพราะเธอเห็นซูเป็นตัวแทนของสิ่งที่เธอเคยเป็นและสิ่งที่เธอปรารถนาในชีวิต ความขัดแย้งระหว่างทั้งสองตัวละครแสดงถึงการต่อสู้ภายในจิตใจของคนที่ต้องแบกรับความคาดหวังและการยอมรับจากสังคม หนังนำเสนอความจริงอันเจ็บปวดว่าการสร้างสมดุลระหว่างความเป็นตัวเองและการแสวงหาความสมบูรณ์แบบนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย และในท้ายที่สุด บางครั้งการยอมรับความไม่สมบูรณ์แบบอาจเป็นคำตอบที่แท้จริง อีกหนึ่งสิ่งที่เราดูแล้วพลอยตกตะกอนไปได้อย่างแจ่มชัดอีกประเด็นคือ "เก่าไป..ใหม่มา" "สวยแล้ว..ยังมีสวยกว่า" "เด็กแล้ว..ก็ยังมีเด็กกว่า" ทุกอย่างไม่มีอะไรยั่งยืนยาวได้เสมอ ทุกสิ่งในโลกมีแต่หมุนเวียนเปลี่ยนไปตามกาลเวลา การ Hack ระบบเวลาของธรรมชาติอาจไม่ใช่เรื่องที่มนุษย์อย่าเราสามารถทำได้จริงๆ การแสดงที่ดึงดูดสายตา เดมี่ มัวร์ ถ่ายทอดบทบาทของดาราสาวยุคหลังที่กำลังจะถูกปัดทิ้งจากหน้ากระดานได้อย่างยอดเยี่ยม เธอสื่อสารถึงความเจ็บปวดและความโหยหาผ่านสายตาและการเคลื่อนไหวที่เต็มไปด้วยความสับสนได้อย่างตรึงใจ พลอยทำให้คนดูอย่างเรารู้สึกกดดัน อึดอัด และทรมานไปกับความคิดของเธอ ส่วนบท ซู หญิงสาวร่างใหม่ที่อลิซาเบธสลับมาใช้ แสดงโดย มาร์กาเร็ต ควอลลี่ย์ นักแสดงสาวมากฝีมือ ที่เธอถ่ายทอดความเป็นซูออกมาได้อย่างโดดเด่น น่าสนใจ ส่วนตัวเราคิดว่ามาร์กาเร็ตมีคาริสมาที่ทั้งเย้ายวนและมีเสน่ห์ชวนมองแบบละสายตาได้ยาก การแสดงของเธอนั้นถือว่าตีบทของ ซู ที่อยากออกมาโลดแล่นได้แบบแตกกระจาย ซึ่งทั้ง เดมี่ มัวร์ และ มาร์กาเร็ต สร้างเคมีที่น่าสนใจระหว่างกันได้อย่างลงตัว จังหวะการเล่าเรื่องแบบเสิร์ฟไว..ใส่เต็มๆ The Substance โดดเด่นด้วยจังหวะการเล่าเรื่องที่กระชับและรวดเร็ว โดยเฉพาะในช่วงต้นที่เนื้อหาสามารถดึงดูดผู้ชมอย่างเราๆ ให้เข้าสู่โลกของตัวละครหลักอย่างอลิซาเบธได้อย่างรวดเร็ว หนังพยายามเทกระจาดพันล้านเหตุผลที่คนโดนทิ้งในวัย 50 ปี มาแบบแน่นๆ ทำให้เราเข้าใจกราฟขาลงของคนสูงวัยได้อย่างแจ่มแจ้ง พร้อมกับการตัดต่อที่ชาญฉลาดทำให้เรื่องราวมีไดนามิกที่ต่อเนื่องและน่าติดตาม ลีลาการเล่าเรื่องในภาพยนตร์นี้เต็มไปด้วยความดราม่าและการหักมุมที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนได้ผุดลุกผุดนั่งไปพร้อมๆ กับตัวละคร บรรยากาศและการกำกับภาพ งานภาพใน The Substance โดดเด่นด้วยการใช้สีและมุมกล้องที่เป็นเอกลักษณ์ ฉากที่เน้นความเปล่งประกายของตัวละครในร่างใหม่ถูกถ่ายทอดด้วยโทนสีที่ฉูดฉาด ภาพคมชัด สื่อถึงความเย้ายวนและความสมบูรณ์แบบที่ตัวละครใฝ่ฝัน ในทางกลับกัน ฉากที่สะท้อนความเปราะบางและความหวาดระแวงถูกถ่ายทอดผ่านเงามืด มุมกล้องแคบ เพื่อกดดันให้ผู้ชมรู้สึกอึดอัดและลุ้นระทึก การเปรียบเทียบด้วยภาพก็ถูกใช้ได้อย่างน่าสนใจ เช่น กระจกที่แตกร้าวในฉากสำคัญซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการแตกหักทั้งทางกายภาพและจิตใจ หรือการถ่ายภาพในมุมต่ำเมื่อซูกลายเป็นผู้ควบคุมเรื่องราว แสดงถึงอำนาจที่ค่อย ๆ เปลี่ยนมือ งานกำกับภาพในเรื่องนี้จึงไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือเล่าเรื่อง แต่ยังเป็นองค์ประกอบที่ช่วยเพิ่มมิติให้ตัวละครและสร้างความลึกซึ้งให้กับประเด็นที่หนังต้องการนำเสนอ และในฉากดาร์กตอนจบ บอกเลยว่าเรา "เหวอ" แบบสุดๆ ตอนแรกที่ดูหนังเรื่องนี้มาก็เป็นอารมณ์แบบจอยๆ มีซีเรียสบ้างกับบางฉาก และหนังก็พยายามไล่ระดับความ Dark มาเสิร์ฟเราแบบเรื่อยๆ ต้นเรื่องสุกใส กลางเรื่องใจสั่น ท้ายเรื่องอำมหิต ถ้าจะบอกแบบนี้ก็คงไม่เกินจริง เรื่องนี้ต้องยกเครดิตทั้งงานกำกับภาพรวมไปจนถึงงานบทที่ดูแลโดย กอราลี ฟาร์ฌาต์ ผู้กำกับหญิงชาวฝรั่งเศสที่ทำออกมาได้อย่างสุดติ่งจริงๆ ่ส่วนตัวแล้วเราแนะนำเลยค่ะว่า ใครที่ชอบดูแนววิทยาศาสตร์สลับตัว ผสมผสานความเป็น Body Horror เข้าไปด้วย ไม่ควรพลาดเรื่อง The Substance ด้วยประการทั้งปวง ความยาวหนัง 114 นาที แต่ถูกอัดแน่นด้วยความเข้มข้น กดดันและความดาร์กได้เป็นอย่างดี มีช่วงที่เราคิดว่าเป็นน้ำโหรงเหรงน้อยมาก เรียกได้ว่าสาดเนื้อหาใส่หน้าเราแบบไม่ยั้ง งานภาพสวยและอาร์ตมาก เทคนิคการถ่ายทำรวมถึงมุมกล้องต่างๆ ก็แปลกใหม่น่าสนใจสุดๆ เรียกได้ว่าเป็นหนังสยองขวัญที่มีลายเซ็นที่เป็นเอกลักษณ์ และควรค่าแก่การดูแน่นอน ภาพหน้าปก จาก The Substance ภาพในเนื้อหา (1) จาก trythesubstance (2) (3) (4) (5)(10) (6)(8) (7)(9) (11) (12) จาก The Substance คลิปในเนื้อหา (1) จาก MUBI เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !