ในยุคที่หนังไทยเริ่มพลิกเกม เน้นคุณภาพ เนื้อหา และการเล่าเรื่องที่แตกต่างจากสูตรสำเร็จเดิม ๆ “ลักกันวันตาย (Everybody Loves Me When I’m Dead)” คืออีกหนึ่งภาพยนตร์ไทยที่กล้าฉีกกรอบ และมุ่งนำเสนอเรื่องราวอาชญากรรมในมุมที่แปลกใหม่ ลึกซึ้ง และสมจริง จนได้รับความสนใจทั้งในไทยและต่างประเทศทันทีที่เปิดตัวบนNetflix ถ้าคุณกำลังมองหาหนังไทยที่ “ไม่ธรรมดา” ทั้งในแง่ของบท การแสดง และสารที่ซ่อนไว้ และวันนี้เราจะชวนเพื่อน ๆ มาดูภาพยนตร์เรื่องนี้กันใน ‘รีวิว ลักกันวันตาย (2025) ภาพยนตร์ดราม่าสุดระทึก ทาง Netflix’ รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! ภาพยนตร์ ลักกันวันตาย (Everybody Loves Me When I'm Dead) ภาพยนตร์เรื่อง “ลักกันวันตาย (Everybody Loves Me When I'm Dead)” บอกเล่าเรื่องราวของ “โต (รับบทโดย ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์)” เขานั้นเป็นพนักงานธนาคารที่ดูเหมือนจะมีชีวิตมั่นคง ทั้งครอบครัวและหน้าที่การงาน แต่เบื้องหลังกลับเต็มไปด้วยความกดดัน ทั้งปัญหาเรื่องเงิน ความเครียดจากค่าใช้จ่าย และอนาคตที่ไม่แน่นอนโดยเฉพาะค่าเทอมโรงเรียนนานาชาติของลูกสาวที่กำลังจะถึงทางตัน ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก โตก็ได้ร่วมมือกับ “เพชร (รับบทโดย วชิรวิชญ์ วัฒนภักดีไพศาล)” เพื่อนร่วมงานหนุ่ม ที่เสนอไอเดียอันตราย คือการแอบถอนเงิน 30 ล้านบาทจากบัญชีธนาคารของลูกค้าที่เสียชีวิตไปแล้ว และไม่มีทายาทโดยเงินจำนวนมหาศาล 30 ล้านบาท จากบัญชีไร้เจ้าของกลายเป็นความหวังของทั้งคู่ แต่เมื่อพวกเขาก้าวล้ำเส้น พวกเขากลับต้องเผชิญกับโลกที่อันตรายเกินคาด! ทั้งอาชญากร ผู้มีอิทธิพล และคนที่พร้อมจะฆ่าเพื่อเงินก้อนนี้ สิ่งที่เริ่มต้นจาก “แผนเล็กๆ” เพื่อช่วยครอบครัว กลับกลายเป็นเรื่องราวความระทึก ที่พาโต และเพชรถลำลึกลงไปในความมืด ที่อาจไม่มีวันได้กลับออกมาอย่างปลอดภัย ลักกันวันตาย | ตัวอย่างอย่างเป็นทางการ | Netflix https://m.youtube.com/watch?v=M1gYbVnvTuU นักแสดง ลักกันวันตาย เคน ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์ รับบท “โต” พนักงานธนาคารวัยกลางคน คนธรรมดาที่ต้องแบกรับความกดดันเรื่องงาน เงิน และครอบครัว ชายที่พยายามเลือกทางรอดในโลกที่ไม่ง่าย แต่ยังมีความหวังและจิตใจดีในใจ ภายนอกดูนิ่ง ขรึม แต่ภายในเต็มไปด้วยความกลัวและความสับสนทางศีลธรรม บุคลิกของเขาคือเป็นหนุ่มหล่อสมาร์ทสุภาพ เป็นคนใจดี มีความรับผิดชอบ แต่เมื่อตกอยู่ในสถานการณ์กดดัน ก็ยอมเสี่ยงทำผิด ริว วชิรวิชญ์ วัฒนาภักดีไพศาล รับบท “เพชร” เพื่อนร่วมงานของโต เขาเป็นคนรุ่นใหม่ที่มองโลกต่างจากโต บางครั้งมีความหวังในชีวิต แต่ยังต้องดิ้นรน เป็นตัวละครที่แสดงความขัดแย้งระหว่างความกล้าหาญและความไม่มั่นคง บุคลิกคือเป็นหนุ่มที่กระฉับกระเฉง คล่องแคล่วกว่าโต มีความกระหายอยากเปลี่ยนแปลงชีวิต มักจะเป็นคนที่ตัดสินใจรวดเร็วกว่า แต่ก็มีความกลัวและความไม่มั่นใจแอบแฝง สำหรับในภาพยนตร์เรื่อง “ลักกันวันตาย” เป็นภาพยนตร์แนวดราม่า ระทึกขวัญ อาชญากรรม มีพล็อตเรื่องคือพนักงานธนาคารวัยกลางคนชื่อ โต กำลังถูกความกดดันในชีวิตถาโถม นั่นคือ งานเสี่ยงโดนเลิกจ้าง เงินไม่พอเลี้ยงดูครอบครัว ลูกต้องการเรียนต่อ ความรู้สึกหมดคุณค่าในตัวเอง จนวันหนึ่งเขาพบว่า ลูกค้าธนาคารคนหนึ่งตายแบบไม่มีญาติ และมีเงิน 30 ล้านบาท ในบัญชี ทำให้เขากับลูกน้องรุ่นน้องชื่อ เพชร จึงตัดสินใจ “ยักยอก” เงินจำนวนนั้น หวังใช้ชีวิตใหม่ให้ดีกว่าเดิม แต่เรื่องราวกลับไม่ง่ายขนาดนั้น เพราะความตายของเจ้าของบัญชีไม่ธรรมดา เมื่อเงินจำนวนนี้เกี่ยวพันกับเครือข่ายอาชญากรรม ทุกอย่างค่อย ๆ พังลงอย่างช้า ๆ และรุนแรง ธีมของเรื่องคือเน้นไปที่เรื่องราวของ ศีลธรรม VS ความอยู่รอด ตัวละครถูกบีบให้เลือกสิ่งผิดเพื่อความอยู่รอด และคนดีเมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวัง ก็อาจกลายเป็นอาชญากรได้ และยังเสริมเรื่อองของ ชนชั้นกลางที่กำลังพังทลาย โดยได้สะท้อนความอึดอัดของชนชั้นกลางยุคใหม่ที่ต้องต่อสู้กับความมั่นคงทางการเงิน เทคโนโลยีที่กำลังมาแทนที่ และความฝันที่ไม่เคยไปถึง โทนเรื่องเน้นไปแนวดราม่าหนัก กดดัน จิตตก มีความหม่นตลอดเรื่อง ผสมอารมณ์ตลกร้ายเล็ก ๆ การดำเนินเรื่องเป็นแบบเส้นตรง เน้นจังหวะค่อย ๆ พาเข้าสู่ความระทึก มีการตัดสลับมุมมองระหว่างตัวละคร เพื่อให้เห็นความเปลี่ยนแปลงของแต่ละคนเมื่อเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง เรียกว่า “ลักกันวันตาย” ไม่ใช่หนังโจรกรรมธรรมดา แต่คือการถ่ายทอดชีวิตของคนที่เหมือนเราทุกคน ที่กำลังจะจม แล้วพยายามดิ้น...แต่ยิ่งดิ้น ยิ่งจมลึก โดยในภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ได้ตั้งคำถามว่า ในโลกที่เอาตัวรอดยากขนาดนี้ ความดีกับความถูกต้อง ยังสำคัญอยู่ไหม? เมื่อเปิดฉากมา คุณจะรู้สึกได้ทันทีถึงบรรยากาศที่อึดอัดและเต็มไปด้วยแรงกดดัน ทุกเฟรมของหนังถูกจัดวางอย่างพิถีพิถันด้วยโทนสีทึบ ๆ หม่น ๆ ที่สะท้อนถึงความหม่นหมองในจิตใจของตัวละครหลัก ภาพถ่ายจากกล้องแบบใกล้ ๆ (close-up) อีกทั้งฉากในภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้เน้นความอลังการ แต่กลับเต็มไปด้วยรายละเอียดเล็ก ๆ ที่จับต้องได้อาทิ เอกสารวางระเกะระกะบนโต๊ะ ธนาคารที่ดูเหมือนสถานที่ทำงานจริง ๆ ความจำกัดของชีวิตตัวละคร ทุกองค์ประกอบถูกออกแบบมาอย่างตั้งใจ เพื่อทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนกำลังยืนอยู่ตรงนั้นกับตัวละคร ไม่ใช่แค่ดูหนัง แถมยังมีเสียงประกอบและดนตรีก็เป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ของหนังเรื่องนี้ เสียงรอบข้างที่ถูกเก็บมาอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เสียงกดคีย์บอร์ด หรือแม้กระทั่งเสียงลมหายใจ ทำให้ความตึงเครียดค่อย ๆ ก่อตัวและขยายตัวขึ้นเรื่อย ๆ ในแต่ละฉาก ดนตรีประกอบที่เลือกใช้มีความหม่นและช้า ๆ ช่วยเน้นย้ำอารมณ์เศร้าสลดและความไม่แน่นอนที่ตัวละครเผชิญ เรียกว่าทำถึงมากเลยละค่ะ หนึ่งในจุดแข็งที่สุดของ ลักกันวันตาย คือการแสดงที่ “ไม่แสดง” ของนักแสดงนำ โดยเฉพาะหนุ่มเคน ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์ ในบทของ โต พนักงานธนาคารที่แบกรับทั้งครอบครัวไว้บนบ่า และค่อยๆ ถูกความกดดันกัดกินจนตัดสินใจเดินทางผิด หนุ่มเคนได้แสดงความเปราะบาง ความสิ้นหวัง และความกลัวได้อย่างละเอียดอ่อน ในแบบที่คนดูสามารถรู้สึกได้ว่า ตัวละครนี้กำลัง “พังลง” ทีละน้อย โดยไม่ต้องพูดคำใด ๆ และหนุ่มริว วชิรวิชญ์ วัฒนภักดีไพศาล ซึ่งรับบทเป็น เพชร ก็ไม่ได้เป็นเพียงตัวละครประกอบ แต่คือคู่หูที่มีมิติเชิงจิตวิทยาซับซ้อน ความเย่อหยิ่ง ความสับสน ความหวั่นไหวที่แฝงอยู่ในรอยยิ้มของเขา ทำให้เราสงสัยตลอดเวลาว่า“เขาไว้ใจได้จริงหรือเปล่า?” โดยการแสดงของทั้งคู่ไม่ได้เพียงพาเนื้อเรื่องให้เดินหน้า แต่ทำให้เรื่องราวทั้งหมด “หนักแน่น” และ ดิบจริง ในแบบที่ไม่ต้องใช้ฉากใหญ่โตหรือดนตรีประกอบเวอร์วัง ก็สามารถกระแทกใจคนดูได้แบบตรง ๆ 10/10 ไปเลยค่า ก็จบลงไปแล้วนะคะสำหรับ รีวิว ลักกันวันตาย (2025) ภาพยนตร์ดราม่าสุดระทึก ทาง Netflix โดยในภาพยนตร์เรื่อง “ลักกันวันตาย“ ฉายทาง Netflix วันที่ 14 ตุลาคม 2025 นี้! เครดิตภาพหน้าปก Netflix ภาพหน้าปก เครดิตภาพประกอบบทความ Netflix ภาพที่1 / ภาพที่2 / ภาพที่3 / ภาพที่4 / ภาพที่5 / ภาพที่6 / ภาพที่7 / ภาพที่8 / ภาพที่9 เครดิตวิดีโอประกอบบทความ Netflix Thailand ลักกันวันตาย | ตัวอย่างอย่างเป็นทางการ | Netflix จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !