รีเซต

[รีวิวซีรีส์] "The Brothers Sun" เหมือนไปไม่สุดแต่หยุดดูไม่ได้

[รีวิวซีรีส์] "The Brothers Sun" เหมือนไปไม่สุดแต่หยุดดูไม่ได้
แบไต๋
8 มกราคม 2567 ( 15:00 )
1.2K

ความน่าสนใจของ ‘The Brothers Sun’ 2 ประการได้แก่ นี่คือซีรีส์ที่ชู มิเชล โหย่ว (Michelle Yeoh) เจ้าของรางวัลออสการ์นำหญิงจาก ‘Everything Everywhere All at Once’ ปีที่ผ่านมาในบทแม่ของมาเฟียอั้งยี่ กับชื่อชั้นของโปรดิวเซอร์อย่าง แบรด ฟัลชัค (ฺBrad Falchuk) อดีตโชว์รันเนอร์คู่บุญของ ไรอัน เมอร์ฟี (Ryan Murphy) ที่เคยพาซีรีส์ดัง ๆ ทั้ง ‘American Horror Story’ และ ‘Glee’ ฮิตติดลมบน มาบินเดี่ยวเล่าเรื่องราวครอบครัวเอเซียในลอส แองเจลลิส ที่มีเบื้องหลังเป็น อั้งยี่ ขาใหญ่ในไต้หวันมาแอบกบดานในเมืองแห่งแสงสี

โดยซีรีส์จะเริ่มเรื่องจากเหตุนองเลือดในไทเปที่ทำให้ ชาร์ล (รับบทโดย จัสติน เฉียน, Justin Chein) ต้องเดินทางไปลอส แองเจลลิสเพื่อปกป้อง ไอลีน (รับบทโดย มิเชล โหยว, Michelle Yeoh) กับ บรูซ (รับบทโดย แซมซอง ลี, Sam Song Li) แม่และน้องชาย ตามคำบัญชาของพ่อ แต่การมาครั้งนี้ของชาร์ลกลับนำพาความวายป่วงทั้งต้องหนีการตามล่าจากแก๊งมาเฟียคู่อริและยังต้องเผชิญหน้ากับอดีตหวานใจอย่าง อเล็กซิส (รับบทโดย ไฮดี ควน, Highdee Kuan) ผู้ช่วยอัยการสาวที่ตั้งใจโค่นแก๊งอั้งยี่ให้สิ้นซาก

ด้วยความจัดจ้านของพลอตเรื่องก็อดที่จะคาดเดาและคาดหวังไม่ได้ว่าซีรีส์เรื่องนี้จะต้องสนุกแน่นอน ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าทีมเขียนบทพยายามหาอุปสรรค สถานการณ์แปลกประหลาดหรือไอเดียสดใหม่มากมายมาสร้างความบันเทิงให้คนดูทั้งนักฆ่าในชุดไดโนเสาร์ ตัวละครน้องชายในครอบครัวมาเฟียที่อ่อนด๋อยลูสเซอร์จนน่าหัวเราะ หรือกระทั่งการพูดถึงความขัดแย้งในโลกของมาเฟียที่มีความสลับซับซ้อนไปจนถึงสมาคมแม่บ้านมาเฟียเล่นไพ่นกกระจอกที่ขยันมาขโมยซีนทุกครั้ง

แต่พอมันถูกนำมาปรุงโดยผู้กำกับสองคนที่รับผิดชอบกุมบังเหียนซีรีส์ทั้งสองคนได้แก่ เวียต เหงียน (Viet Nguyen) และ เควิน ตันเจริญ (Kevin Tanchareon) ผู้กำกับอเมริกันลูกครึ่งไทย ภาพรวมของซีรีส์กลับไม่ค่อยกลมกล่อมเท่าที่ควร โดยในตอนที่ เวียต เหงียน กำกับอารมณ์ขันและดราม่าดูลื่นไหลแต่ซีนแอ็กชันกลับอ่อนลง ส่วนตอนที่เควิน ตันเจริญกำกับ ฉากแอ็กชันกลับพอใช้ได้ แต่ในส่วนอารมณ์ดราม่าหรือคอมเมดี้ คือแทบจะไม่ทำงานเท่าไหร่

ทำให้การชม ‘The Brothers Sun’ แบบยาว ๆ นี่กลายเป็นประสบการณ์วัดใจอยู่พอสมควร เพราะพอหนังมีปมที่น่าสนใจตามจำนวนตอนขึ้นไปเรื่อย ๆ แต่เรากลับพบว่าตัวละครและนักแสดงที่สวมบทบาทกลับขาดเสน่ห์ให้เราชวนติดตามไปอย่างน่าเสียดายทั้งที่ได้นักแสดงหล่อสวยทั้งนั้นแต่เรากลับไม่ค่อย “ซื้อ” กับหลายสถานการณ์ที่ซีรีส์พยายามให้เราเชื่อ

ไม่ว่าจะเป็นความเก๋าในฝึมือการต่อสู้ของชาร์ล เพราะงานภาพดันใช้เทคนิคภาพเข้ามาช่วยในฉากมาร์เชียล อาร์ต มากเกินไป หรือฝีมือการเป็นนักแสดงด้นสดของ บรูซ เพราะเนื้อเรื่องให้พื้นที่กับเรื่องการแสดงด้นสดของบรูซแค่ฉากเดียวเท่านั้น หรือที่หนักสุดคือความสัมพันธ์เชิงโรแมนซ์ระหว่าง ชาร์ลกับอเล็กซิส ที่เจือจางและแทบจะไม่มีความสำคัญกับเนื้อเรื่องโดยรวมเท่าไหร่

มิหนำซ้ำพอซีรีส์เล่นเรื่องโลกของอั้งยี่ แต่ซีรีส์กลับไม่ได้เจาะลึกหรือใช้ประโยชน์จากมันเท่าไหร่ ตรงข้ามกับสิ่งที่มันพยายามเป็นอย่าง ‘John Wick’ ที่ใช้แบ็คกราวด์โลกของมือปืนมาเสริมเรื่องราวให้เข้มข้นขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะมีเพียงแค่การมีอยู่ของ มิเชล โหย่ว เท่านั้นที่รู้สึกว่า ‘The Brothers Sun’ คิดถูกแล้วที่ขายชื่อของนักแสดงเจ้าของรางวัลออสการ์รายนี้

เพราะท่ามกลางสถานการณ์ไม่เมคเซนส์ทั้งหลาย โหย่วกลับทำให้คนดูเชื่ออย่างสนิทใจว่าเธอคือหม่าม้าที่รักและห่วงใยลูกของเธอจริง ๆ โดยมีปมบาปในอดีตที่ขับเคลื่อนให้เธอตัดสินใจเป็นคนเย็นชาต่อชาร์ลแต่กลับหวงบรูซเป็นไข่ในหิน ที่สำคัญเธอทำให้ตัวละคร ไอลีน มีเสน่ห์และได้โชว์บทบู๊สไตล์ซือเจ๊ได้สมใจผู้ชมที่รอคอย แม้จะมีแค่ไม่กี่ฉากแต่กลับน่าจดจำกว่าบทบู๊ส่วนใหญ่ในซีรีส์ซะด้วยซ้ำ