ชวนชม Twenty Five Twenty One : ยี่สิบห้า ยี่สิบเอ็ด (2022)ปกติผู้เขียนจะไม่ค่อยดูซีรีส์ที่ออนแอร์สด เพราะไม่อยากกระวนกระวายใจเพื่อรอ และอย่างทีทราบๆกันคือ ผู้เขียนจะดูให้ได้หนึ่งในสี่ก่อน แล้วค่อยตัดสินใจว่าจะไปต่อหรือพอแค่นี้ แต่กับเรื่องนี้ต้องสารภาพว่า เป็นข้อยกเว้น ด้วยเหตุผลทางความรู้สึกและหัวใจล้วนๆ เนื่องเพราะเมื่อดูจบสองตอนเมื่อคืนที่ผ่านมา ก็จริงที่มันยังวัดอะไรไม่ได้ว่า เรื่องนี้ จะออกมาทางไหน แต่ เท่าที่ดูก็พอมองเห็น ในเรื่องของภาพสะท้อนของความสุข ผ่านมิติความซับซ้อนของชีวิตตัวละครสองคนหนึ่งคือเด็กนักเรียน ม.ปลาย ที่ไม่ต้องคิดซับซ้อนมากมายในการใช้ชีวิต ด้วยวัยที่มีเอกสิทธิ์ ในการขอความช่วยเหลือจากพ่อแม่ ซึ่งก็คือ นาฮีโด (คิมแทรี) นักกีฬาฟันดาบผู้มีฝัน แต่หยุดอยู่กับที่ไม่พัฒนา ด้วยสาเหตุที่น่าค้นหา กับอีกหนึ่งชายหนุ่ม ที่กำลังจะเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ ที่อยู่ในภาวะล่มสลายของครอบครัว จากสภาพการล่มสลายของเศรษฐกิจประเทศ และต้องมีชีวิตอยู่ให้ได้ด้วยตัวเอง ซึ่งก็คือ แพคยีจิน (นัมจูฮยอก) ที่ด้วยวัยได้เสียเอกสิทธิ์นั้นไปแล้ว และทั้งสองก็ถูกยุคสมัยขโมยบางอย่างไปเช่นเดียวกันณ ตรงนี้จึงมองเห็นภาพสะท้อน ของกระบวนการในหัวใจ อันนำมาซึ่งความสุข ที่อาจบางทีก็เรียบง่าย กับดราม่าจางๆ ที่มองเห็นได้ แต่ไม่รู้สึกว่าบีบ ทว่าเหมือนให้สัมผัสพลิ้วแผ่วด้วยหัวใจ ทั้งมุมมองของครอบครัว เพื่อน แรงบันดาลใจที่แปรมาเป็นพลัง เมื่อแรงบันดาลใจนั้นถูกตอบสนองมาในเชิงลบ และแน่นอน แง่มุมเรื่องของหัวใจ ที่เห็นได้ว่าเริ่มมีจุดแต้มในหัวใจของตัวละคร และด้วยงานด้านภาพที่เสนอในทางสดใส จึงอ่านเกมว่าน่าจะออกมาดูแล้วดีต่อใจแต่ เหตุผลที่ต้องมาชวนชมครั้งนี้คือ นี่คืองานซีรีส์เรื่องยาวเรื่องที่สองของ คิมแทรี หลังจากเปล่งประกายที่สุดใน Mr.Sunshine นี่คือนักแสดงที่ไม่ได้รับงานมากมาย จนกลายเป็นทำให้ตกหลุมรักแล้วก็ทิ้งความคิดถึงไว้ดูต่างหน้า ประกอบกับนักแสดงชายที่มาเล่นคู่ด้วยคือ นัมจูฮยอก ที่พิสูจน์ตัวเองมาแล้วมากมาย และเป็นอีกครั้งที่ นัมจูฮยอก ต้องมาแสดงกับนางเอกที่รับบทเป็นนักกีฬา ที่จะมีมิติที่ต้องแลกหลายอย่างต่างจากคนทั่วไป หลังจาก Weightlifting Fairy Kim Bok-Jooร่วมด้วยมิติรองที่ถึงตรงนี้ เปี่ยมเสน่ห์น่าชมทุกคน ทั้ง โบนา ในบทแรงบันดาลใจและคู่แข่ง ร่วมด้วย ชเวฮยุนอุค จาก Racket Boys และ อีจูมยอง ที่เปิดตัวอย่างน่ามองทุกคน ทำให้มองเห็นมิติทางด้านลึกมาแล้ว แค่ยังไม่ชัด เพราะจะทิ้งให้สัมผัสด้วยใจอีกหรือไม่ ก็ยากจะคาดเดา แถมด้วยบรรยากาศ ชิ้นส่วนของความทรงจำในยุค 90 ที่ทำให้คนที่ผ่านยุคนั้นมา เกิดอาการถวิลหาอดีต แต่จะมีอะไรบ้างก็ลองไปพิสูจน์ดูและเชื่อเหลือเกินว่า ถ้างานด้านบทไม่เจ๋งจริง คนที่ไม่ค่อยรับงานแสดงมากอย่าง คิมแทรี ไม่มีรับเล่นแน่นอน ส่วนจะพัฒนาไปถึงไหน ก็ต้องดูต่อไป ทำให้เรื่องนี้ผู้เขียนอาจดูออนแอร์สดตามไปยาวๆ เพราะแค่เสน่ห์และการแสดงของคู่ คิมแทรี กับ นัมจูฮยอก ที่ปล่อยของสองตอนที่ผ่านมาให้เห็น ก็คุ้มค่าแล้ว เป็นงานที่ไม่ใช่แค่น่าดู แต่สำหรับผู้เขียนแล้ว ต้องดูเท่านั้นเชื้อเชิญให้มารอคอยด้วยความกระวนกระวายไปด้วยกัน โดยดูไปบ่นไปNETFLIXขอบคุณภาพประกอบภาพปก จาก Facebook Netflixภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 จาก Facebook tvN Dramaเกาะติดซีรีส์เรื่องใหม่ ๆ ได้ที่ App TrueID โหลดฟรี !