สวัสดีค่าทุกคน ห่างหายกันไปนานมากกับคอนเทนต์รีวิวหนังของซามะ วันนี้ซามะมีหนังแนวมาเฟียน้ำดีอีกหนึ่งเรื่องที่บอกเล่าถึงการไต่เต้าสู่วงการมาเฟียจนได้เข้าไปสู่แวดวงการเมือง เป็นคนใหญ่คนโตที่ทุกคนต้องเกรงกลัว แต่แล้วเขากลับต้องพบกับการหักหลังที่แสนเจ็บปวด และฝังใจเขามาตลอด หนังที่ว่านั้นก็คือ Once Upon a Time in America เมืองอิทธิพล คนอหังการ์ (1984) ผลงานการกำกับของเซอร์จิโอ เลโอเน และมีโรเบิร์ต เดอ นีโร นักแสดงสายมาเฟียมาแสดงนำในหนังเรื่องนี้ ใครพร้อมอ่านแล้วเลื่อนนิ้วเลยจ้า (การรีวิวนี้เป็นความเห็น และความรู้สึกส่วนตัวของซามะนะคะ ผิดพลาดประการใดขออภัยล่วงหน้าจ้า) ตัวอย่างคลิปตัวอย่าง Once Upon a Time in America Trailerขอบคุณคลิปจาก Youtube : Warner Bros.เรื่องย่อเรื่องราวชีวิตของ ‘นู้ดเดิ้ลส์’ และผองเพื่อนซึ่งเป็นเด็กสลัมชาวยิวอาศัยอยู่ในแผ่นดินอเมริกาในช่วงปี 1920 พวกเขาร่วมกันก่ออาชญากรรมตั้งแต่ยังเป็นวัยเยาว์ ไม่ว่าจะลักลอบค้าของเถื่อนและลักทรัพย์เล็กๆ น้อยๆ ทุกคนต่างตั้งมั่นว่าจะเป็นมาเฟียที่มีอิทธิพลกว้างขวาง แต่แล้วเพื่อนของนู้ดเดิ้ลส์คนหนึ่งโดนกลุ่มอันธพาลสังหารจนเสียชีวิต เขาจึงฆ่าคนที่สังหารเพื่อนของเขา ทำให้นู้ดเดิ้ลส์ต้องเข้าไปอยู่ในคุกเพื่อรับโทษเมื่อนู้ดเดิ้ลส์ออกจากคุก เขาก็เริ่มเป็นมาเฟียรับงานอาชญากรรมร่วมกับแก๊งค์เพื่อนในวัยเด็กของเขา ทั้งการปล้นธนาคาร การค้าของเถื่อน การจ้างวานฆ่า นอกจากนี้เขายังได้หวนมาพบกับ ‘เดโบราห์’ หญิงสาวหน้าตางดงามที่เขาหลงรักมาตั้งแต่เด็ก ทุกคนได้เข้าไปมีเอี่ยวกับแวดวงการเมือง และสหภาพแรงงาน ชีวิตในช่วงรุ่งโรจน์ในการเป็นมาเฟียของนู้ดเดิ้ลส์ดำเนินต่อไป จนกระทั่งเขาต้องมาพบกับจุดจบอันแสนเศร้าที่มาจากการทรยศหักหลัง ความผิดหวัง และความรู้สึกผิดผลงานการกำกับครั้งสุดท้ายของเลโอเนOnce Upon a Time in America คือภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายของผู้กำกับชาวอิตาลี ‘เซอร์จิโอ เลโอเน’ ก่อนที่อีก 5 ปีต่อมาจะเสียชีวิตด้วยอาการหัวใจวาย ซึ่งหนังเรื่องนี้อ้างอิงจากนวนิยาย The Hoods ที่เขียนโดย แฮร์รี่ เกรย์ หลังจากที่เลโอเนได้อ่านนิยายเล่มนี้ เขาจึงพยายามจะติดต่อขอพูดคุยเรื่องการสร้างหนัง เพื่อให้กลายเป็นหนึ่งในหนังไตรภาคอเมริกาของเขา (หนังก่อนหน้านี้คือเรื่อง Once Upon a Time in the West และ Duck, You Sucker!) โชคดีที่เกรย์เคยดูหนังไตรภาคบุรุษไร้นาม (Dollar Trilogy) ของเลโอเนแล้วชอบมาก เขาเลยตอบตกลงที่จะเข้ามาคุยเรื่องโปรเจกต์หนัง และได้นักแสดงแนวมาเฟียอย่าง ‘โรเบิร์ต เดอ นีโร’ มารับบท นู้ดเดิ้ลส์ชีวิตดั่งฝันของผู้อพยพในอเมริกาเรื่องนี้มีการพูดถึงความใฝ่ฝันและไขว่คว้าชีวิตสวยหรูตามสไตล์อเมริกันดรีมหรือความฝันที่ทุกคนจะมีชีวิตที่ดีขึ้น มีเงินใช้ไม่ขาดมือ มีรถหรูราคาแพงขับ รายล้อมไปด้วยสาวสวย หรือแม้แต่การแต่งงานกับคนที่รักก็เช่นกัน ตลอดทั้งเรื่องเราจะเห็นได้ว่าแก๊งค์ของนู้ดเดิ้ลส์เป็นชาวยิวที่อพยพเข้ามาในอเมริกา ไต่เต้าตัวเองขึ้นมาอยู่ในโลกสีเทาเพื่อหลบหนีความแร้นแค้นในฐานะผู้อพยพชนชั้นแรงงาน ดังนั้น ทางเลือกที่จะไปถึงเป้าหมายของความเป็นอเมริกันดรีมเร็วที่สุด คือ ทางเดินสีเทา อย่างไรก็ตาม เส้นทางสีเทาที่นู้ดเดิ้ลส์และผองเพื่อนเลือกเดินก็มิอาจมั่นคงอยู่รอดไปชั่วนิรันดร์รักกันมากแค่ไหน ก็แพ้ให้อำนาจและเงินหนังมาเฟียทุกเรื่องจะมีการเล่าตัวละครตั้งแต่วัยเด็ก ช่วงรุ่งโรจน์ และจุดจบของตัวละคร แต่ Once Upon a Time in America เลือกที่จะเล่าแบบสลับอดีต-ปัจจุบัน หรือก็คือการนึกถึงความทรงจำในอดีต ณ กาลปัจจุบันนั่นเอง วัยเด็กของนู้ดเดิ้ลส์และผองเพื่อนทำให้เห็นว่าเส้นทางสีเทาคือทางเดินที่พวกเขาเลือกอย่างไม่ลังเล พอมาถึงช่วงรุ่งโรจน์ในวัยหนุ่ม (หลังนู้ดเดิ้ลส์ออกจากคุก) พวกเขาก็ยังขยายธุรกิจสีเทาเช่นเดิม เพิ่มเติมคือความแน่นแฟ้นของกลุ่มเพื่อนและชีวิตหรูหราตามปราถนา ทว่าความเชื่อใจและมิตรภาพถูกทำลายจากการทรยศของคนในแก๊ง จนในวันที่นู้ดเดิ้ลส์แก่ชรา เขาก็รู้ความจริงของเรื่องทั้งหมดว่าใครเป็นสาเหตุให้ชีวิตของทุกคนเปลี่ยนไปตลอดกาล ทำให้เห็นว่าแม้คนเราจะผ่านร้อนผ่านหนาวมากับเพื่อนฝูงมากแค่ไหน แต่มิตรภาพก็พ่ายแพ้ให้เงินทองและอำนาจได้เช่นกันรีวิวจากซามะเป็นเหมือนกับหนังแนวมาเฟียหลาย ๆ เรื่องที่วัยเด็กแร้นแค้นจนเริ่มอยากเป็นใหญ่ในวงการมาเฟีย และจะต้องจบด้วยความโศกเศร้า หรือความไม่จีรังของอำนาจที่ได้มา แต่ในเรื่อง Once Upon a Time in America นอกจากจะมีจุดต่างกับเรื่องอื่นตรงที่เล่าสลับอดีต-ปัจจุบัน ยังพบว่าบางฉากมีองค์ประกอบที่ให้คนดูตีความได้มากกว่าสิ่งที่เห็น อาทิ การสูบฝิ่นในตอนต้นเรื่องและท้ายเรื่อง หมอกควันและอาการเมากัญชาทำให้คนดูแยกไม่ออกว่าสิ่งที่นู้ดเดิ้ลส์นึกถึงมีความจริงอยู่ในนั้นมากน้อยเพียงไร หรือแม้แต่การตายของแม็กซ์ ภาพที่เห็นคือสาเหตุการเสียชีวิตของเขาจริงหรือ และยังมีอีกหลายอย่างที่ทำให้คนดูคิดต่อมากกว่าแค่ชมภาพยนตร์แล้วจบ นี่อาจเป็นเสน่ห์อีกอย่างของเซอร์จิโอ เลโอเนที่ทำให้หนังดูมีมิติขึ้นมากกว่าแค่การฉายภาพชีวิตมาเฟียคนหนึ่ง จบกันไปแล้วกับการรีวิวหนังเรื่อง Once Upon a Time in America เมืองอิทธิพล คนอหังการ์ (1984) ใครที่ยังไม่เคยดู ซามะก็อยากชวนให้ทุกคนลองเปิดใจกับหนังเรื่องนี้ ขอบอกเลยว่าตอนจบมันช่างจึ๊กที่หัวใจเหลือเกิน แล้วก็ขอขอบคุณทุกคนที่อ่านบทความของซามะจนจบค่ะ ใครอยากอ่านบทความอื่นๆ คลิ๊กชื่อ ซามะ และลิงก์ด้านล่างนะคะ ต่อไปจะรีวิวหนังแนวไหน หนังเรื่องอะไรต้องรอดูกันต่อไป สำหรับวันนี้ลาไปก่อน สวัสดีค่า บ๊ายบายบทความอื่นๆ:มูฟวี่รีวิว :: The Godfather เดอะ ก็อดฟาเธอร์ (1972) เบื้องหลังโชคมหาศาลคืออาชญากรรมมูฟวี่รีวิว :: Ocean Waves สองหัวใจ หนึ่งรักเดียว (1993) แอนิเมชันรักสามเศร้าของวัยรุ่นยุค 90s จากสตูดิโอจิบลิ!มูฟวี่รีวิว :: Final Score 365 วัน ตามติดชีวิตเด็กเอ็นท์ (2550) หนังสารคดีย้อนวันวานสอบเอนทรานซ์เรื่องแรกของไทยอนิเมะรีวิว :: ยาสึเกะ ซามูไรแอฟริกา (Yasuke) อนิเมะแอ็กชันไซไฟแฟนตาซี กราฟิก CG คุณภาพเยี่ยมเครดิตรูปภาพภาพปก : Canva จาก ผู้เขียน (ซามะ) I ภาพประกอบโดย Facebook: Once Upon A Time In America (1) (2)ภาพที่ 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9, 10 จาก Facebook: Once Upon A Time In AmericaเครดิตคลิปYouTube: Warner Bros.คลิปตัวอย่าง Once Upon a Time in America Trailerเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !