รีเซต

แอรอน เทย์เลอร์-จอห์นสัน สยบข่าวลือ ยังไม่เจรจารับบท 007 คนใหม่ ตอนนี้สนใจแต่บทบาทตัวเอง

แอรอน เทย์เลอร์-จอห์นสัน สยบข่าวลือ ยังไม่เจรจารับบท 007 คนใหม่ ตอนนี้สนใจแต่บทบาทตัวเอง
แบไต๋
25 มีนาคม 2567 ( 11:00 )
63

นับตั้งแต่ที่ แดเนียล เครก (Daniel Craig) ได้สั่งลาการรับบทเป็น เจมส์ บอนด์ ไปในภาคที่ 25 ที่ใช้ชื่อว่า ‘No Time To Die’ (2021) หลายคนยังคงจับตามองว่า นักแสดงคนใดจะเหมาะสมที่สุดในการเข้ามารับบทเป็นสายลับรหัส 007 ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีนักแสดงชายมากหน้าหลายตาที่ลือกันว่าจะกลายมาเป็นนักแสดงคนที่ 7 ที่จะได้รับบทนี้ และ 1 ในนั้นก็คือ แอรอน เทย์เลอร์-จอห์นสัน (Aaron Taylor-Johnson) นักแสดงหนุ่มสายแอ็กชันชาวอังกฤษวัย 33 ปี ที่มีข่าวลือหนาหู โดยเฉพาะก่อนหน้านี้ที่มีสื่อออกมาตีข่าวว่าเขาได้รับข้อเสนอให้เป็น เจมส์ บอนด์ คนต่อไป

ก่อนหน้านี้ หนังสือพิมพ์แท็บลอยด์ตัวตึงอย่าง The Sun ได้รายงานข่าวว่า เทย์เลอร์-จอห์นสัน นักแสดงเจ้าของบทฮีโรเกรียนโคตรใน ‘Kick Ass’ ทั้ง 2 ภาค เจ้าของบท จอห์น เลนนอน (John Lennon) ใน ‘Nowhere Boy’ (2009) และบทบาท ปิเอโตร แม็กซิมอฟฟ์ (Pietro Maximoff) หรือ ควิกซิลเวอร์ (Quicksilver) แห่งจักรวาล MCU ได้รับเสนอจากทาง อิออน โปรดักชันส์ (​​Eon Productions) เจ้าของแฟรนไชส์ ให้เข้ามาเซ็นสัญญาเพื่อรับบทเป็น เจมส์ บอนด์ อย่างเป็นทางการ เพียงแต่ยังไม่ได้รับการตอบรับจากฝั่งของนักแสดง

แต่ดูเหมือนว่าแฟน ๆ จะยังคงต้องรอคอยภาคที่ 26 กันต่อไป เพราะล่าสุด ทาง BBC ได้ติดต่อกับทางของ Eon Productions และตัวแทนของเทย์เลอร์-จอห์นสันเกี่ยวกับข่าวลือดังกล่าว แม้ทั้ง 2 ฝ่ายจะยังไม่ได้เปิดเผยหรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ เกี่ยวกับกระแสข่าวดังกล่าว แต่ BBC ได้กล่าวถึงแหล่งข่าววงในที่เกี่วข้องกับการผลิตภาพยนตร์ที่เปิดเผยว่า ข่าวลือดังกล่าวไม่เป็นความจริง

ในขณะที่ฝั่งของเทย์เลอร์-จอห์นสันก็มีแสดงความคิดเห็นไปในทางเดียวกัน ในการสัมภาษณ์ล่าสุดกับ นิตยสาร Rolling Stone UK ฉบับล่าสุดที่ได้เขาเป็นนายแบบหน้าปก ซึ่งในส่วนหนึ่งของบทสัมภาษณ์ฉบับนี้ถือเป็นการสยบข่าวลือที่ว่าเขากำลังจะกลายเป็นนักแสดง เจมส์ บอนด์ คนใหม่ เพราะเขากำลังมุ่งมั่นกับการแสดงในบทบาทที่ตัวเขาเองได้รับ ณ เวลานี้เท่านั้น

“ผมเองคงพูดได้แค่สิ่งที่ผมกำลังจะแสดง และผมสามารถตอบคำถามได้เท่านั้นนะครับ งานตอนนี้ของผมก็มีทั้ง ‘The Fall Guy’, ‘Nosferatu’ และ ‘Kraven the Hunter’ เพราะผมมาที่นี่เพื่อโปรโมตงานเหล่านี้ ผมไม่ได้รู้สึกว่าจำเป็นจะต้องสนใจในอนาคตข้างหน้าเลย ผมแค่รู้สึกว่า อะไรก็ตามที่ผมจะให้ความสนใจ มันก็ควรจะเป็นสิ่งที่แม่-จะทำให้ผมดีขึ้นแค่นั้นล่ะครับ”

นับตั้งแต่ที่เครกสิ้นสุดการสวมบทบาท เจมส์ บอนด์ ตลอดระยะเวลากว่า 15 ปี กับหนัง 007 ทั้ง 5 ภาค ตั้งแต่ ‘Casino Royale’ (2006) จนถึง ‘No Time to Die’ ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา มีข่าวลือว่านักแสดงชายหลายคนสนใจและได้รับการทาบทามให้มารับบทสายลับเจ้าเสน่ห์คนนี้ ตั้งแต่ อิดริส เอลบา (Idris Elba), ทอม ฮาร์ดี (Tom Hardy), เจมส์ นอร์ตัน (James Norton), เฮนรี คาวิลล์ (Henry Cavill) และอีกมากมาย ซึ่งการคัดเลือกนักแสดงที่จะมารับบทเจมส์ บอนด์คนใหม่นั้น ไม่ได้มีความสำคัญแค่การเปลี่ยนนักแสดงคนใหม่เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการสร้างภาพลักษณ์ของเจมส์ บอนด์ รวมทั้งทิศทางที่จะเกิดขึ้นในหนังตอนใหม่ ๆ ของแฟรนไชส์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตด้วย

แม้แต่ บาร์บารา บร็อกโคลี (Barbara Broccoli) ผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ของแฟรนไชส์ 007 เองก็เคยออกมาเปิดเผยโดยตรงถึงความท้าทายและยากลำบาก และแนวโน้มในการเริ่มต้นควานหา เจมส์ บอนด์ คนใหม่ว่า “ไม่มีอะไรที่ฉันจะสามารถบอกคุณเกี่ยวกับหนังบอนด์ภาคต่อไปได้ มันยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น”

นอกจากนี้ บร็อกโคลียังกล่าวอีกว่า “ย้อนกลับไป (ตอนก่อนจะมี) ภาค ‘GoldenEye’ (ภาคแรกของ เพียร์ซ บรอสแนน, Pierce Brosnan) ตอนที่ทุกคนพูดว่า ‘สงครามเย็นจบแล้ว กำแพงถูกทลาย บอนด์ตายแล้ว โลกสงบสุข ไม่มีผู้ร้าย และตอนนี้ก็ไม่ต้องการบอนด์อีกต่อไป’ แต่แล้วก็คิดผิด!”

“สำหรับเครก เราต้องการเน้นไปที่ว่า ฮีโรแห่งศตวรรษที่ 21 จะมีหน้าตาเป็นอย่างไร ซึ่งแดเนียลได้ให้ความสามารถแก่เรา ในการค้นหาชีพจรทางอารมณ์แก่ตัวละครนี้ และโลกก็พร้อมสำหรับสิ่งนี้ ฉันคิดว่า หนังเหล่านี้สะท้อนถึงช่วงเวลาที่พวกเขามีอยู่ และมีถนนใหญ่รออยู่ข้างหน้าในการที่จะสร้างมันขึ้นมาใหม่สำหรับบทต่อ ๆ ไป และเราก็ยังไม่ทันได้เริ่มต้นด้วยซ้ำ”

แน่นอนว่า ณ ตอนนี้คงยังบอกไม่ได้แน่ชัดว่านักแสดงคนใดจะได้เข้ามารับบทเป็นเจมส์ บอนด์ คนต่อไป แต่มุมมองที่น่าสนใจก็คือ หากได้รับบทจริง ๆ เขาจะกลายเป็นนักแสดงเจ้าของบท เจมส์ บอนด์ ที่อายุน้อยที่สุด ด้วยอายุ 33 ปี ในขณะที่เครกรับบทนี้ครั้งแรกตอนอายุ 38 ปี บรอสแนนรับบทนี้ตอนอายุ 42 ปี ส่วน โรเจอร์ มัวร์ (Roger Moore) เป็นนักแสดงที่รับบทนี้ตอนอายุ 45 ปี ซึ่งมากที่สุดในบรรดานักแสดงทั้งหมด

การรับบทของเทย์เลอร์-จอห์นสัน นักแสดงสายแอ็กชันที่มีผลงานโด่งดังจากหนังแอ็กชัน ไม่ว่าจะเป็น ‘Kick Ass’, ‘Tenet’ (2020), ‘Bullet Train’ (2022) รวมทั้งผลงานใหม่ ๆ ของเขาในปีนี้ทั้ง ‘The Fall Guy’ และ ‘Kraven the Hunter’ ก็ล้วนแล้วแต่เป็นหนังแอ็กชันทั้งสิ้น รวมทั้งด้วยวัยและความสมบุกสมบัน ก็อาจจะทำให้ เจมส์ บอนด์ ภาคต่อไปอาจจะมีความเป็นหนังแอ็กชันได้อย่างน่าสนใจ

แต่แม้ว่าข่าวลือนี้จะยังไม่ใช่ความจริง แต่เทย์เลอร์-จอห์นสัน ในฐานะ 1 ในตัวเก็งที่น่าสนใจและดูมีแววที่จะได้เข้ามาเป็น เจมส์ บอนด์ คนต่อไป ก็ยังไม่ได้ถึงกับปิดกั้นโอกาสสำหรับการเข้ามาเป็นสายลับรหัส 007 คนที่ 7 เขาเหมือนคล้าย ๆ จะแอบแง้มกับนิตยสาร Numero ว่า

“ผมคิดว่าการที่ผู้คนมองเห็นผมในบทบาทนั้น มันเป็นสิ่งที่มีทั้งเสน่ห์และความมหัศจรรย์นะครับ ซึ่งผมถือว่ามันเป็นคำชมที่ดีนะ” (หัวเราะ)

ที่มา BBC Screen Rant Rolling Stone UK