Series Full Review : Our Blues : เวลาสีฟ้าหม่น เราไม่ได้เกิดมาบนโลกนี้เพื่อทรมานหรือเป็นทุกข์ แต่เกิดมาเพื่อเป็นสุขเท่านั้นNETFLIX : 1 Season 20 Episodes (2022)ในโลกใบนี้มีผู้คนมากมายหลากหลายสถานะทางสังคมอันนำมาซึ่งความหลากหลายแง่มุมชีวิต บ่อยครั้งการดูหนังดูซีรีส์ที่เล่าเรื่องชีวิตในแง่มุมต่างๆก็คือการสะท้อนวิถีของความเป็นมนุษย์ในสังคมให้ออกมาสัมผัสด้วยตา เพราะยังมีเรื่องราวมากมายที่ประสบการณ์ชีวิตยังไม่ได้พบเมื่อได้เห็นได้ประสบก็คือความตื่นเต้นตื่นตา แต่ทว่าบางครั้งหัวใจคนเราก็ต้องการมากกว่านั้นเพราะทุกครั้งที่เห็นอะไรที่ผ่านตามาแต่เป็นสิ่งที่ไกลตัวมันก็คือความบันเทิงที่จับต้องไม่ได้ เป็นเพียงนิยายประโลมโลกซึ่งประสบการณ์ชีวิตอีกเช่นกันที่จะบอกกับคนดูอย่างเราๆว่ามันคือเรื่องในหน้ากระดาษแห่งนวนิยายที่คนอย่างเราท่านไม่สามารถเป็นเช่นนั้นได้ ทางเลือกต่อมาคือการเลือกสัมผัสในสิ่งที่เป็นความจริงที่สามารถเห็นด้วยตาและสัมผัสได้ด้วยใจด้วยพื้นฐานของคนธรรมดาหาใช่คุณชายคุณหนูเจ้าหญิงหรือเจ้าชายแต่การจะเล่าเรื่องคนธรรมดาสามัญกับชีวิตสามัญให้เข้าถึงใจคนธรรมดาๆที่เป็นกลุ่มเป้าหมายก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเรื่องราวในชีวิตแต่ละวันที่แต่ละคนต้องเจอมีมิติมากกว่าที่สายตาได้เห็นจากการแสดงออก ยังมีแง่มุมซ่อนเร้นอีกมากมายที่ไม่อาจเห็นด้วยตาและบางครั้งก็ไม่สามารถอ่านใจได้ การจะสื่อสารหรือเล่าเรื่องให้ใกล้เคียงกับสิ่งที่คนธรรมดามนุษย์สามัญที่อาจเรียกได้ว่าเป็นคนหมู่มากในสังคม ให้ได้ใช้ประสบการณ์ชีวิตมาสัมผัสกับเรื่องราวนั้นจึงยากแต่ก็นับเป็นความท้าทาย เพราะเมื่อใดที่สามารถเล่าได้และคนดูเข้าถึงความเรียบง่ายสามัญในชีวิตที่ต้องพบเจอคนดูก็พร้อมเอาความรู้สึกไปเป็นอารมณ์ร่วมกับเรื่องที่ต้องการจะเล่า เช่นเดียวกับความแพรวพราวบนความเรียบง่ายของชีวิตที่ถูกถ่ายทอดมาหลากหลายแง่มุม แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทุกเรื่องราวที่เล่าคือเรื่องที่สามารถพบเจอได้ในช่วงชีวิตคน Our Bluesเรื่องย่อณ หมู่บ้านพูรึงเกาะเชจูที่สวยงามดั่งสวรรค์วิมาน แต่ความงดงามของสถานที่ก็ยังคงมีสิ่งที่ขับเคลื่อนลมหายใจของเกาะเชจูนั่นคือวิถีชีวิต เพราะคนที่นี่ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย ธรรมดาสามัญเกื้อกูลกันตามวิถีชนบท แต่ทุกชนบทก็จะมีเรื่องเล่าที่สัมผัสกับเมืองใหญ่เสมอพูรึงก็ไม่ต่างกัน เรื่องราวมากมายจึงเกิดขึ้นที่นี่เริ่มที่เรื่องของรักแรกตลอกกาลที่มาพร้อมกับภาระอันหนักอึ้งทั้งทางการเงินและทางใจของชเวฮันซู (ชาซึงวอน) ที่มาสัมผัสกับจองอึนฮี (อีจองอึน) แม่ค้าปลาผู้ร่ำรวย เรื่องของคู่อริที่บาดหมางกันปานแค้นกันมาจากชาติปางก่อนของบังโฮซิก (ชเวยองจุน) กับจองอินกวอน (พัคจีฮวาน) ที่มีกุญแจตัวแปรคือรุ่นลูกคือบังยองจู (โรยูนซอ) ที่ตั้งท้องในวัยเรียนกับชายคนรักจองฮยอน (แบฮยุนซอง) รวมถึงการแบกความเจ็บช้ำมาพร้อมกับอาการป่วยของมินซอนอา (ชินมินอา) เพื่อมาพบกับอีดงซอก (อีบยองฮอน) รักแรกที่หยาบกร้านแต่จิตใจดีที่จะพาก้าวข้ามอาการป่วย หรือเรื่องของจองอึนฮีกับโกมีรัน (อึมจองฮวา) ที่มิตรภาพได้ถูกพิสูจน์จากชีวิตที่ธรรมดาเกินไปจนลืมความรู้ใจ กระทั่งเรื่องความลับของอียองอ๊ก (ฮันจีมิน) ที่มาพบรักกับหนุ่มท้องถิ่นพัคจองจุน (คิมอูบิน) ที่ต้องก้าวข้ามความลับที่หนักหนาสำหรับคนทั่วไปเพื่อพิสูจน์หัวใจว่าจะก้าวข้ามความเป็นมนุษย์ธรรมดากับคนจิตใจดีได้อย่างไร จนถึงเรื่องของฮยอนชุนฮี (โกดูชิม) กับซนอึนกี (กีโซยู) ย่ากับหลานที่ปาฏิหาริย์ได้ทำให้ใครบางคนได้อธิษฐานอีกครั้ง และสุดท้ายความลับอันดำมืดในความสัมพันธ์ของอีดงซอกกับแม่คังอ๊กดง (คิมฮเยจา) ที่รอการปลดเปลื้อง เรื่องราวทั้งหมดได้ถูกร้อยเรียงด้วยพื้นฐานของชีวิตเรียบง่ายและธรรมดาซ้อนทับกันอย่างแน่นหนาจนมองเห็นว่านี่คือชีวิต"เราไม่ได้เกิดมาบนโลกนี้เพื่อทรมานหรือเป็นทุกข์ แต่เกิดมาเพื่อเป็นสุขเท่านั้น" ชัดเจน เรียบง่าย งดงามด้วยเจตนาคือการสื่อให้เห็นถึงการใช้ชีวิตอย่างมีความสุข แต่การจะมีชีวิตที่มีความสุขนั้นจะต้องก้าวผ่านปัจจัยที่ละเอียดปลีกย่อยที่จะมาจัดการความรู้สึกที่จะเป็นตัวกำหนดทุกข์หรือสุข และเหมือนกับไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่ความทุกข์ที่คนทั่วไปมักมองเห็นจะมาจากเรื่องพื้นฐานในการใช้ชีวิต เรื่องเงินๆทองๆ เรื่องการกระทบกระทั่งกันระหว่างเพื่อนบ้านมิตรสหาย หรือกระทั่งเรื่องของความรักที่เป็นเรื่องของมนุษย์ปุถุชนที่เห็นได้ทั่วไป และบทของโนฮีคยองก็ฉลาดเล่าที่เลือกเล่าเรื่องที่มีจุดศูนย์กลางที่ตลาดสด ที่ที่เป็นศูนย์รวมของคนทั้งหมู่บ้าน ที่ที่วุ่นวายที่สุด ที่ที่เป็นจุดเริ่มการกระจายข่าวลือ เพราะตลาดคือที่ที่ธรรมดาที่สุดที่มนุษย์สามัญต้องเคยไปเยือน เรื่องราวที่เกิดขึ้นในตลาดจึงเป็นเรื่องที่เหมือนไม่มีอะไรเพราะมันดูเป็นเรื่องธรรมดาที่พบเห็นในทุกเมื่อเชื่อวัน แต่ในทุกเรื่องธรรมดาที่คนอื่นได้เห็นมักซ่อนมิติที่ไม่ธรรมดาไว้ช้างในเสมอและบทละครเรื่องนี้เล่าได้อย่างจับต้องได้ทั้งทางสายตาทางอารมณ์และทางหัวใจในการเล่าเรื่องที่อาจดูธรรมดาแต่ไม่ธรรมดาผ่านชีวิตที่แสนธรรมดา แต่แม้จะเหมือนกับเล่าหลายเรื่องของคนหลายคนในหลากมุมชีวิต ทุกคนต้องมีความเกี่ยวพันกับกับตลาดและตัวละครศูนย์กลางคือจองอึนฮี และแม้จะเล่าด้วยความต่างแต่ทุกเรื่องที่บทละครเล่ามาก็มีจุดร่วมคือการพาคนดูไปเห็นความทุกข์ดั่งมรสุมที่ทำให้ฟ้าหม่น แต่ในทุกเรื่องราวจะมีบทสรุปที่สวยงามลงตัวด้วยการย้อนกลับไปหาเหตุแห่งปัญหาที่มาจากมิติทางใจที่พาไปหาความทุกข์หม่น แล้วพาหัวใจคนดูไปพบกับการสะสางด้วยการชี้นำคนดูให้หลงทางคิดไปในทางร้าย แต่ลงท้ายหาทางออกมาทางสวยงามจนได้แบบที่คนดูไม่มีทางคิดได้ใน และเมื่อปัญหาในชีวิตมีทางออกท้องฟ้าที่หม่นก็จะกลับมาใสคนที่มีอะไรค้างคาใจก็ได้ปลดพันธนาการ และมีบทสรุปสวยงามชีวิตมีความสุขตามวิถีในทุกเรื่องราวที่น่าชื่นชมคือการวางแง่มุมในสังคมไว้อย่างลงตัวทั้งในภาพเล็กคือเรื่องย่อยๆ และยังปูทางไปสู่มิติที่จับหัวใจในตอนท้ายด้วยการเล่าเรื่องที่สัมพันธ์กันที่ถ้าคิดให้ดีในแต่ละแง่มุมนั้นจะปูทางหรือเชื่อมโยงกันได้อย่างเนียนตา เช่นเรื่องของหนึ่งชีวิตที่เกิดมาเพิ่งเริ่มต้นกับหนึ่งชีวิตที่กำลังจะแตกดับผ่านความตื้นตันของคนชราที่เหลือเวลาไม่กี่วัน หรือแง่มุมความเป็นแม่ที่สะท้อนผ่านจุดเริ่มต้นที่แม่เจ็บเพราะคลอดลูกและได้ต่อสู้เพื่อลูกมา มาสู่เมื่อลูกเจ็บแม่เจ็บกว่าเป็นร้อยเท่า จนสุดท้ายการเริ่มต้นและการจากลากับสามคุณแม่ยองจู,ชุนฮีและอ๊กดง ซึ่งการสอดแทรกเรื่องที่เป็นมิติทางใจที่พาดทับไปยังสังคมชนบทเหล่านี้แม้จะเห็นความหม่นโศกแต่ไม่รู้สึกถูกเร่งเร้าหรือบีบคั้น แต่ค่อยๆเก็บเกี่ยวความรู้สึกเหมือนคนดูอยู่ในเหตุการณ์ในฐานะเพื่อนบ้านที่สนิทมองเข้าไปในเรื่องที่เกิดขึ้นของเพื่อนบ้านแล้วรู้สึกสะเทือนใจ จนมาอิ่มเอิบในตอนท้ายที่ได้เห็นทุกอย่างคลี่คลายลงตัวสวยงามมันจึงเป็นความชัดเจนในเจตนาที่จะสื่อว่าเราทุกคนไม่ได้เกิดมาเพื่อทุกข์แต่เกิดมาเพื่อมีความสุข เมื่อทุกเรื่องย่อยที่สานกันเป็นร่างแหใหญ่ได้มอบภาพที่มองเห็นทั้งรูปธรรมและนามธรรมจัดการอารมณ์คนดูได้เพราะคนดูจะมีความสุขทุกครั้งทั้งที่ได้ผ่านความรันทด เจ็บปวด สงสัย โศกเศร้ามาเพียงใด ไม่ว่าบทละครจะพาคนดูคิดไปไกลเพียงไหนทางออกก็จะมาพร้อมรอยยิ้มหลังคราบน้ำตาเสมอมันจึงเป็นความชัดเจน และเมื่อเล่าเรื่องของคนธรรมดาพ่อค้าแม่ค้าในตลาด เพื่อนบ้านเพื่อนนักเรียนร่วมรุ่นผ่านมิตรภาพน้ำใสใจจริงตามวิถีชนบท แต่เรื่องที่เล่านั้นเหมือนกับเอาหัวใจตนดูกวัดแกว่งไปมาด้วยความแพรวพราว เหมือนกับมีลูกเล่นมากมายแต่ไม่ได้ยากจนเกินเอื้อมถึง ยังเรียบง่ายใสซื่อกับความเกื้อกูลกันในสังคมที่พร้อมช่วยเหลือกัน ที่อาจมีบ้างที่ไม่เข้าใจกันแต่ทุกอย่างก็ย่อมมีวันผ่านพ้นและปลดปลง และต่อให้เป็นเรื่องหนักหนาเพียงใดยังสามารถมีความสุขในชีวิตได้และกลายเป็นความงดงามแม้จะอุดมไปด้วยนักแสดงยอดฝีมือทุกรุ่นแต่ไม่มีใครเกินหน้าใคร แจกจ่ายความสำคัญให้ทุกคนมีเวลาทองของตัวเองมีไม่บ่อยนักที่นักแสดงระดับอีบยองฮอน,ชาซึงวอน,ฮันจีมิน,ชินมินอา,คิมอูบินหรืออีจองอึนที่นับเป็นแถวหน้าของวงการในรุ่นกลาง คิมฮเยจาหรือโกดูชิมแถวหน้าของรุ่นใหญ่ที่มาประชันบทบาทกันแบบจะหาซีรีส์เรื่องไหนที่อุดมไปด้วยนักแสดงชั้นแนวหน้ากันมากมายขนาดนี้ ผลที่ออกมาคือการแสดงของทุกคนที่แต่ละคนมีของกันทั้งนั้นได้มอบมิติที่ล้ำลึกตามบทบาทที่ได้รับออกมาอย่างไร้ที่ติ เพราะแม้จะเล่าเรื่องเป็นเรื่องย่อยๆแบ่งกันเป็นตอนของใครของมันแต่ส่วนมากก็มีเวลาในเรื่องตั้งแต่ต้นจนหยดสุดท้าย อาจมีบ้างที่เหมือนมารับเชิญอย่างชาซึงวอนหรืออึมจองฮวาแต่ก็รับผิดชอบสิ่งที่ต้องทำให้ได้อย่างยอดเยี่ยม และแน่นอนเมื่อนักแสดงระดับนี้มาอยู่ในเรื่องเดียวกันกำไรก็ตกอยู่กับคนดูเมื่อได้เห็นการเข้าฉากที่รับส่งกันอย่างสนุกเช่นระหว่างชาซึงวอนกับอีจองอึน หรือชาซึงวอนกับอีบยองฮอน และแน่นอนการประชันกันอย่างเข้มข้นของคิมฮเยจากับอีบยองฮอนแต่นั่นคือนักแสดงชั้นแนวหน้าที่การันตีความเยี่ยมในระดับหนึ่งได้แล้ว และเมื่อหันมาดูแถวสองอย่างพัคจีฮวานหรือชเวยองจุนในบทอินกวอนกับโฮซิก รวมถึงแบฮยุนซองกับโรยูนซอในบทฮยอนและยองจูที่ถ่ายทอดเรื่องของสองครอบครัวนี้ได้ลึกและหลากหลายจนผู้เขียนคิดว่าไม่มีใครที่สัมผัสไม่ได้เข้าไม่ถึงกับสิ่งที่พวกเขาสื่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรยูนซอที่มีเครดิตการแสดงเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกแต่แสดงได้โดยไม่น้อยหน้ารุ่นพี่รุ่นน้ามากประสบการณ์จนเป็นที่น่าจดจำ กระทั่งแถวสามอย่างโชฮเยจอง (ดัลอี) กับนักแสดงที่บกพร่องทางการได้ยินจริงๆอย่างอีโซบยอล (บยอนอี) หรือแบคซึงโด (กีจุน) และที่ไม่เอ่ยถึงคงไม่ได้กับรุ่นเล็กสุดอย่างน้องกีโซยูรวมถึงนักแสดงที่เป็นดาวน์ซินโดรมที่มาสื่อสารให้คนปกติมองคนพิการหรือคนที่บกพร่องในสายตาที่ปกติมิใช่มองพวกเขาว่าแปลกอย่างจองอึนฮเย (ยองฮี) ที่ขโมยซีนฮันจีมินกับคิมอูบินได้เป็นพักๆและนักแสดงเหล่านี้ที่มีมากมายมีเรื่องเล่าของตนเองที่จับใจในส่วนของเรื่องย่อย แต่ทุกมิติทางหัวใจที่สื่อออกมาผ่านบทที่จะว่าไปก็คือสมทบอย่างสองพี่น้องดัลอีกับบยอนอีที่คนหนึ่งพิการทางการได้ยิน การใส่รายละเอียดเล็กน้อยที่เป็นกลไกสำคัญในตลาดอย่างคนขายกาแฟรถเข็นที่เป็นของมันต้องมีในตลาดเช้าเพราะคือคนที่มอบความกระปรี้กระเปร่ากระชุมกระชวย ยังรวมถึงเนื้อหาที่เป็นรากฐานในการเปรียบเทียบเช่นเรื่องของกีจุนที่ต่อต้านการที่จองจุนพี่ชายจะคบกับยองอ๊กที่มีชื่อเสียงไม่ค่อยดี แต่กีจุนกลับชอบบยอนอีที่เป็นผู้พิการทางหู เรื่องเล็กๆที่เป็นรากฐานแบบนี้ได้กลายเป็นพื้นฐานชองหัวใจในเรื่องใหญ่ในเวลาต่อมาโดยที่มองเห็นว่าละเอียดใส่ใจในการปูพื้นทางมิติที่ทำให้ทุกเรื่องราวและทุกคนมีเวลาทองของตัวเอง โดยเฉพาะเรื่องสุดท้ายของดงซอกกับแม่ที่ได้ปูไว้ตั้งแต่ต้นจนพาหัวใจคนดูไปไกลเพื่อมามีบทสรุปที่น่าจดจำได้อย่างน่าทึ่งแต่ที่ต้องยกย่องคือตัวประกอบเล็กน้อยที่ทำหน้าที่เป็นรองพื้นที่มีความสำคัญกับตัวเรื่อง จนทำให้ทุกเรื่องที่เล่ามาคนดูรู้สึกว่ามันคือเรื่องที่สามารถพบเจอได้ในช่วงชีวิตหนึ่ง บางคนอาจเคยเจอมาแล้วเพราะผ่านโลกมาพอสมควรบางคนก็ยังไม่เคยเจอเพราะยังเยาว์ แต่เชื่อเถอะว่าไม่มีเรื่องไหนที่ดูปรุงแต่งเพราะแม้แต่คนที่เลือกซื้อเสื้อผ้าที่ดงซอกยืนกระทืบเท้าขายยังรู้สึกว่านี่คือคนที่มาจับจ่ายซื้อของในตลาดจริงๆ เพราะเรื่องเล็กน้อยแบบนี้เองที่เป็นองค์ประกอบให้เรื่องใหญ่มีมิติน่าเชื่อถือ ส่วนจะจับใจมากน้อยเพียงใดก็แล้วแต่ประสบการณ์ชีวิตของแต่ละคน ยิ่งเรื่องนี้ถ่ายทำกันในสถานที่ที่สวยงามแต่เรื่องที่เล่าดันเคล้าน้ำตาทุกเรื่องจึงเหมือนจะสื่อความหมายว่าไม่ใช่ท้องฟ้าที่หม่นแต่เป็นฟ้าในใจคนต่างหากที่หมอง มาพร้อมกับเพลงที่ไม่เอ่ยถึงคงนอนไม่หลับเพราะส่งเสริมอารมณ์จนต้องหามาฟังเพื่อรำลึกถึงภาพที่งดงามที่ได้เคยผ่านตาด้วยความที่ได้เขียนบทความย่อยๆไว้กับทุกเรื่องสำคัญแล้ว บทความนี้จึงว่ากันที่ภาพรวมที่สวยงามของเรื่องนี้ส่วนท่านที่ต้องการอ่านมิติที่งดงามของแต่ละเรื่องราวที่ถูกบอกเล่า ผู้เขียนได้แนบลิงค์มาไว้ให้แล้วสำหรับแง่มุมชีวิตและบทเรียนที่คนดูสามารถเรียนรู้จากสิ่งที่ละครเรื่องนี้ต้องการบอกกับพวกเรา ด้วยงานด้านบทที่ใคร่ครวญดูยังไงก็ไม่เห็นอะไรให้ตำหนิ การคุมโทนเรื่องผ่านการกำกับการแสดงที่ดูเป็นชีวิตจริงที่ธรรมดาสามัญแต่เบื้องหลังนั้นมีมิติที่ไม่ธรรมดา งานด้านภาพที่สื่อความหมายของสีฟ้าครามของน้ำทะเลและสีฟ้าสดใสของท้องฟ้าที่ตัดกับชีวิตคนที่หม่นข้างในหัวใจจากการดำรงชีวิต เหมือนกับการใช้ทิวทัศน์มาให้ตัวละครและคนดูคิดว่าไม่ว่าในหัวใจจะหม่นสักเพียงใดโลกยังคงมีความงดงามเสมอ และกับงานเพลงที่ทำหน้าที่กำหนดอารมณ์คนดูได้เป็นอย่างดีที่ลงตัวที่สุดเรื่องหนึ่งเท่าที่ดูมาอาจเพราะเรื่องที่เล่ามันคือเรื่องที่เข้าถึงง่ายกับคนธรรมดาทั่วไป แต่ที่ปฏิเสธไม่ได้คือการแสดงที่อยู่ในระดับสุดยอดทุกคนที่แสดงให้เชื่อทั้งหมดใจว่าพวกเขาและเธอคือตัวละครนั้นๆจริง ทุกองค์ประกอบที่ว่ามารวมถึงแง่มุมทางสังคมและมุมของบทเรียนชีวิตเพื่อการใช้ชีวิตที่หลักแหลมที่ได้แฝงมาให้คนดูคิดตามว่า ถ้าอยู่ในสถานการณ์นั้นจะทำอย่างไรเพราะไม่มีทางเลยที่เมื่อดูไปจะไม่คิดตามตั้งแต่เรื่องแรกของฮันซูกับอึนฮี เรื่อยมาจนถึงบทสรุปปิดท้ายเรื่องของดงซอกกับแม่ แต่...ชีวิตก็ยังต้องเดินต่อไปเพราะมนุษย์เกิดมาเพื่อมีความสุข คราบน้ำตายังไม่ทันหายอารมณ์ก็ถูกปรับให้กลายเป็นรอยยิ้มที่ถ้าจะบอกว่า นี่คือบทสรุปที่ชัดเจนลงตัวและตรงเป้าประสงค์อย่างสวยงามที่สุดเรื่องหนึ่งก็ไม่ละอายแก่ใจตนเอง เมื่อการดูเรื่องนี้ทุกคืนวันเสาร์อาทิตย์ได้มอบทุกอย่างที่หัวใจผู้เขียนพึงรับได้มาทุกมิติ จึงต้องยกไว้บนหิ้งในความประทับใจที่ต้องตีตราว่า "อย่าเพิ่งตายถ้ายังไม่ได้ดู"ดูไปบ่นไปNETFLIXขอบคุณภาพประกอบภาพปก / ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 / ภาพที่ 5 / ภาพที่ 6 / ภาพที่ 7 / ภาพที่ 8 / ภาพที่ 9 / ภาพที่ 10 / ภาพที่ 11 / ภาพี่ 12 / ภาพที่ 13 / ภาพที่ 14 / ภาพที่ 15 จาก Facebook tvN dramaภาพที่ 16 จาก Facebook Netflixบทความทั้งหมดของ Our Blues : เวลาสีฟ้าหม่นชวนชม Our Blues: เวลาฟ้าสีหม่น (2022) "ทุกคนอาจมีเหตุผลของตัวเอง คนดูก็เช่นกัน"ความเห็น(พิเศษ)หลังชม Our Blues : เวลาสีฟ้าหม่น (2022) Ep.1-3 "ฮันซู-อึนฮี เพื่อนและรักแรกตลอดกาล"ความเห็น(พิเศษ)หลังชม Our Blues : เวลาสีฟ้าหม่น (2022) "ยองจู-ฮยอน กุญแจไขมิตรภาพที่ถูกกักขังของ โฮซิก-อินกวอน"strong>ความเห็น(พิเศษ)หลังชม Our Blues : เวลาสีฟ้าหม่น (2022) "ดงซอก-ซอนอา แค่หันหลังมาดู... แค่หันหลังมาก็เจอโลกใบใหม่แล้ว..."ความเห็น(พิเศษ)หลังชม Our Blues : เวลาสีฟ้าหม่น (2022) "อึนฮี-มีรัน ทุกคนล้วนมีเพื่อนแบบนี้"ความเห็น(พิเศษ)หลังชม Our Blues : เวลาสีฟ้าหม่น (2022) "ยองอ๊ก-ยองฮี และจองจุน ความรักที่อาจไม่ใช่การมีเพียงสองเรา"ความเห็น(พิเศษ)หลังชม Our Blues : เวลาสีฟ้าหม่น (2022) "ชุนฮี-อึนกี ลูกเจ็บหนึ่งแม่เจ็บร้อยกับปาฏิหาริย์พระจันทร์ร้อยดวง"ความเห็น(พิเศษ)หลังชม Our Blues : เวลาสีฟ้าหม่น (2022) "อ๊งดง-ดงซอก ร้อยเหตุผลของลูก หนึ่งเหตุผลของแม่ และแกงเต้าเจี้ยว" *STAR COVER"อย่ามัวแต่ดูมาดังกัน"*ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ขอชวนทุกคนมาสนุกโคฟเวอร์ พร้อมลุ้นรับเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 7,000 บาท (5 รางวัล) โคฟคนที่ใช่ ไลค์คนที่ชอบ`ร่วมสนุกได้ที่ ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ห้อง cover บนแอปทรูไอดี`คลิกเลย >> https://ttid.co/UAnK/7y9jfqkqอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://bit.ly/3O1cmUQร่วมสนุกตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2565 - วันที่ 3 สิงหาคม 2565