รีเซต

ใกล้แล้วแหละ! ได๋ ไดอาน่า เผยแม่อยากให้แต่งงานแล้ว เพราะอยากมีหลาน!

ใกล้แล้วแหละ! ได๋ ไดอาน่า เผยแม่อยากให้แต่งงานแล้ว เพราะอยากมีหลาน!
Entertainment Report_2
8 มกราคม 2564 ( 15:30 )
2.1K

ข่าวบันเทิงวันนี้

ถ้าพูดถึงพิธีกรตัวท็อปของวงการที่มีทั้งงานอีเวนต์และงานพิธีกรรายการโทรทัศน์มาโดยตลอดหนึ่งในนั้น ต้องมีชื่อของสาว "ได๋ ไดอาน่า จงจินตนาการ" อยู่อย่างแน่นอน เพราะต้องยอมรับจริง ๆ ว่าสาวได๋ เป็นพิธีกรมืออาชีพหลายคนให้การยอมรับ ทำให้สาวคนนี้แทบไม่เคยหายหน้าไปจากวงการบันเทิงเลย เพราะงานเยอะเวลาเลยน้อยแต่เพียงรายการ ต้มยำอมรินทร์ ผลิตโดย CHANGE2561 ยกหูหา สาวได๋ ก็รีบเคลียร์คิวว่างให้ทันที เพื่อที่จะมานั่งพูดคุยเปิดเรื่องราวชีวิตการก้าวเข้ามาเป็นพิธีกร กับเรื่องราวหัวใจที่เจ้าตัวพร้อมเปิดยอมตอบแล้วเรื่องแต่งงาน ไม่ได้แต่งฟ้าแลบ แต่แต่งแน่ปีนี้!

 

ได๋ ไดอาน่า : คือจะบอกว่าอยู่ในวงการมานานมากจริง ๆ เพราะเป็นผู้ที่ตัดสายสะดือให้กับ อั๋น ภูวนาท คือ ดิฉันเอง เพราะวันแรกที่คุณภูวนาท ประกวดร้องเพลงก็เป็นงานแรกที่ดิฉันเป็นพิธีกรครั้งแรกในชีวิตเหมือนกัน (ตอนที่เราเข้าวงการคือ อายุประมาณ 13 ย่างเข้า 14 ปีนี้อายุ 40 แล้ว) แต่อย่าไปสนเรื่องอายุเลยเนอะคะ เพราะอายุเป็นเพียงตัวเลข 

เป็นคนจีนที่ฟิวชั่นมาก
ได๋ ไดอาน่า : เพราะคนจะถามเราเยอะมากเราก็บอกเขาว่าเราเป็นคนจีนฟิวชั่นคะ เพราะคุณตามาจากเชี่ยงไฮ้ คุณยาย เป็นคนกวางตุ้ง คุณปู่เป็นคนจีน คุณย่าเป็นคนจีน(มาเลเชีย) ส่วนตัวเราเกิดที่ฮ่องกงแต่เรามาโตที่เมืองไทย (และจริง ๆ แล้วเราคือคนจีนที่พูดภาษาไทยได้) เพราะตอนแรกที่เราเข้ามาในวงการใหม่ ๆ เราจะพูดภาษาไทยไม่ชัดเลย เราเรียนโรงเรียนไทยถึงป.4 จากนั้นเราก็เรียนโรงเรียนนานาชาติ แต่ภาษาที่เราพูดกับภาษาพิธีกรไม่เหมือนกัน อย่างเช่น ประสบการณ์ โลกาภิวัตน์เราได้เรียนรู้คำพวกนี้จากการที่เราเป็นพิธีกร 

ได๋ ไดอาน่า เปิดใจเรื่องความรัก 

เป็นคนที่มีงานเยอะมากในหนึ่งวันรับกี่งาน
ได๋ ไดอาน่า : เคยรับงานเยอะที่สุดคือ 1 วันรับงาน 1 โลเคชั่นคือ 5 งาน อย่างเราอยู่งานที่เซ็นทรัลเวิลด์ก็จะรับตั้งแต่ชั้น 1 ถึงชั้น 4 แล้วกลับมารับที่ชั้น 1 ใหม่ เพราะเวลาที่งานได้เลยรับเพราะอยู่ที่เดี๋ยวกันด้วย (แต่เราก็เปลี่ยนชุดและหน้าผมด้วยนะคะให้เข้ากับงานที่เราทำหน้าที่พิธีกร) วันนั้นสนุกมากอยากให้เป็นแบบนั้นทุกวัน แต่ถามว่าเราเหนื่อยไหมก็เหนื่อยนะคะ แต่พอเราเห็นเงินเราก็หายเหนื่อย

แต่ก็มีคนเมาท์มานะว่า ได๋ เป็นคนที่แบบรักในการทำงานมากไม่เคยหวังดังแต่อยากได้เงินอย่างเดียว
ได๋ ไดอาน่า : ใช่ค่ะ เข้าวงการมาตอนที่เขาชวนมาเป็นพิธีกรเพราะเราอยากได้กางเกงยีนส์ตัวหนึ่งมากแค่นั้นเองเพราะกางตัวนั้น 1800 บาทค่าพิธีกร 3000 บาท แต่พอเราได้เงินมาคือเราไม่ซื้อเราก็เก็บเป็นโรคจิตมาก เก็บตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงตอนนี้ก็ยังชอบเก็บอยู่ แต่เห็นว่าเราเป็นคนชอบเก็บแบบนี้แต่ชอบลืมรับเช็คจนลูกค้าต้องโทร.มาตาม จนบางครั้งก็หมดอายุไปเลย 

และอีกเรื่องคือ เป็นพิธีกรที่ดูแลเสื้อผ้า หน้าผมคือดีมาก จนบางครั้งมากกว่าพรีเซ็นเตอร์อีก 
ได๋ ไดอาน่า : เพราะเราเป็นคนที่เป๊ะ! กับการบลีฟของลูกค้ามากถ้าลูกค้าบลีฟเราจะต้องเป๊ะ หรือมากกว่าเพราะเรารู้สึกมันเป็นหน้าที่ของเราที่ต้องทำออกมาให้สมบูรณ์แบบที่สุด จนบางทีไปเป๊ะ เกินพรีเซ็นเตอร์ไป (หัวเราะ) 

 

 

แต่มีเรื่องอีกว่า ได๋ เป็นคนหยิ่ง 
ได๋ ไดอาน่า : คืออย่างนี้เราเป็นคนที่เต็มที่กับการทำงานมากถึงมากที่สุดแล้วใครที่มาเจอเราก่อนขึ้นเวทีมันมีหลายอย่างที่เราต้องโฟกัสเราต้องจำรายละเอียดงานให้แม่น เรื่องชื่องานขื่อผู้บริหาร แล้วเวลาที่เราโฟกัสอยู่กับพวกนี้แล้วมีคนเดินมาคุยกับเราเราจะไม่ได้ยินอะไรเลยแล้วคนก็จะชอบบอกเราว่าเรายิ่ง (แต่จริง ๆ สมองเราตอนนั้นคือ โฟกัสอยู่กับสิ่งที่เราทำอย่างเดียวคือ สคริปต์) ทำให้ตัดสิ่งรอบตัวออกไป

เป็นคนจริงจังกับงานทุกเรื่องแต่มีอีกงานที่ทำไมยังไม่จริงจังสักทีในเรื่องแต่งงาน
ได๋ ไดอาน่า : ทุกครั้งที่ ได๋ เจอคุณภูวนาท คือจะถามเราทุกครั้งเจอกัน 100 ครั้งคือ ถามทุกครั้ง ว่าถ้าใช่แล้วรออะไร (คือ เดี๋ยวแต่งแล้วแต่งเลย) อย่างที่บอกเราเป็นคนที่จริงจังทุกอย่าง หน้าที่ของการเป็นลูกเราต้องทำให้ดีที่สุด หน้าที่ของการเป็นพิธีกร แต่ ณ ตอนนี้เรายังคงต้องดูแลครอบครัว ผ่อนบ้าน ผ่อนรถอยู่ เราคิดว่าถ้าเราแต่งงานไปแล้ว เราต้องมานั่งขอเงินแฟน (เพราะแต่งเราอยากท้องเลย) เพราะเราคิดว่าถ้าเราแต่งงานเราต้องทำหน้าที่ของการเป็นภรรยาที่ดี หน้าที่ของแม่ที่ดี หมายความว่าเราต้องให้ลูกและสามีเป็นอันดับหนึ่ง เราก็ถามตัวเองทุกวันนะว่าพร้อมหรือยัง ถามว่าอยากแต่งไหม เฉย ๆ เพราะเรื่องของการมีคู่ไม่ได้สำคัญเท่ากับการมีลูก เพราะทุกวันนี้เแม่จะพูดตลอดเวลาเลยว่าหน้าเราโบท็อกซ์ได้นะแต่มดลูกเราโบท็อกซ์ไม่ได้นะ แล้ว 40 แล้วรออะไรก็คงเร็ว ๆ นี้เพราะเราตั้งใจว่าถ้าแต่งแล้วเราจะมีน้องเลยก็น่าจะปีนี้ค่ะ จะได้ไม่ต้องพาดหัวข่าวว่า ได๋ แต่งงานฟ้าแลบ เพราะนางคิดมานานแล้ว แต่นางไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ดี เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้นจบ แล้วงานแต่งที่เราคิดไว้นะ แต่งเงียบ ๆ ไม่บอกใคร ตัวเองก็ไม่บอก (หัวเราะ) คือ งานแต่งมันฟุ่มเฟือยนะ เราก็คิดนะพ่อกับแม่เขาเลี้ยงเรามาน่าจะเป็นวันเดียวที่เขาน่าจะได้ส่งลูกสาวถ้าเราจะจัดงานเราต้องจัดให้พ่อกับแม่ ส่วนตัวเรายังไงก็ได้สบาย ๆ