ขอขอบคุณภาพจาก Studio Ghibli ถ้าพูดถึงค่ายหนังที่เป็นกระแสอยู่ในเวลานี้ คงหนีไม่พ้นค่าย Studio Ghibli แน่ ด้วยค่ายนี้ได้เคยสร้างอนิเมะที่มีความหลากหลายสอดแทรกไปด้วยแนวคิดปรัชญาไว้มากมายให้เรารับชมกันอยู่น้อยเลย ไม่ว่าจะเป็น Spirit Away, Ocean Wave และอื่น ๆ อีกมากมาย บอกเลยว่าทุก ๆ เรื่องของค่ายพลาดไม่ได้เลยซักฉากจริง ๆ แต่วันนี่ผู้เขียนจะมาแนะนำอีกเรื่องที่เป็นกระแสอยู่ในตอนนี้เลยกับ ศึกเทพมังกร พิภพสมุทร หรือ Tales from Earthsea นับว่าเป็นเรื่องแรกเลยของผู้กำกับ โกะโระ มิยะซะกิ ผู้เป็นลูกชายของ ฮายาโอะ มิยาซะกิ ที่เป็นผู้กำกับระดับตำนานในค่าย Studio Ghibli ตอนนี้ลูกชายของเขาได้มาขึ้นแท่นเป็นผู้กำกับอย่างเต็มตัวกับเรื่องนี้ ที่ได้เค้าโครงเรื่องจาก 'The Farthest Shore' หนังสือเล่มที่สามในซีรีส์ เอิร์ธซี ที่ชื่อ The Farthest Shore ของ เออร์ซูลา เค. เลอกวิน เดี่ยววันนี้ผู้เขียนจะมารีวิวเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้ทุกคนได้ลองคิดตามพร้อมกัน ถ้าพร้อมแล้ว ตามกันมาเลยค่าขอขอบคุณภาพจาก Studio Ghibli โดยเนื้อเรื่องจะกล่าวถึง ณ ดินแดนแห่งโลกทะเล มีมังกรสองตัวกำลังต่อสู้กัน ในขณะที่ธรรมชาติเริ่มอยู่ในภาวะขาดแคลน ฝูงสัตว์น้อยใหญ่กำลังจะตาย ด้วยเหตุการณ์นี้ทำให้สมดุลของโลกกำลังจะสูญสิ้นระหว่างการสืบหาสาเหตุของเหตุการณ์นี้ เกด พ่อมดผู้ยิ่งใหญ่ได้บังเอิญมาพบกับเจ้าชาขอาร์เรน ผู้พลัดหลงขณะกำลังต่อสู้กับเงาลึกลับของตน ทั้งคู่เดินทางมาด้วยกันจนถึงเมืองฮอร์ต เมืองที่ทาสสามารถซื้อได้เงินตรา ผู้ติดยาเสพเดินเร่ร่อนตามท้องถนน ขณะที่พวกเขาเดินไปถึงบ้านพักอาศัยของเพื่อนเกด ก็ได้ไปเจอกับเทรุ หญิงสาวกำพร้าหน้าเป็นรอยแผลที่เกิดจากการถูกไฟคลอก เกดเดินทางมาที่นี่ แล้วรู้ว่าพ่อมดค็อบ ผู้เป็นศัตรูเก่าของตนเมื่อครั้งก่อนกำลังจะเปิดประตูระหว่างดินแดนแห่งความเป็นและความตาย และพ่อมดค็อบก็ได้สัญญากับตัวเองไว้ว่าจะต้องชำระแค้นกับพ่อมดเกดให้ได้ ไม่รู้ว่าพ่อมดเกดจะหยุดพ่อมดค็อบได้หรือไม่ ชีวิตของเจ้าชายอาร์เรนจะต่อสู้กับเงาลึกลับของตนเองได้อย่างไร ต้องลองไปติดตามที่ Tales from Earthsea กันได้เลยค่าขอขอบคุณภาพจาก Studio Ghibli จากความคิดเห็นของผู้เขียน คิดว่าเป็นอนิเมะที่ดีอีกเรื่องหนึ่งเลย ถึงแม้จะโดนกระแสวิจารณ์ค่อนข้างหนักเกี่ยวตัวเนื้อหาของอนิเมะก็ตาม มีความเข้าใจยากถ้าไม่ได้อ่านนิยายต้นฉบับมาก่อน เพราะผู้กำกับตัดเพียงเนื้อหาในต้นฉบับมาทำเป็นอนิเมะเท่านั้น แต่ถ้าชมกันแล้ว เราจะสามารถเห็นได้ว่าเรื่องมีการสอดแทรกแนวคิดปรัชญาต่าง ๆ ไว้อยู่มากเลยทีเดียว เช่น สัจธรรมชีวิต กิเลสตัณหาต่าง ๆ รวมกันอยู่ในเรื่องนี้อย่างลงตัว แถมมีการสอดแทรกการมีชีวิตอย่างมีความสุขอีกด้วย โดยรวมแล้วถือว่าเป็นอนิเมะอีกเรื่องเลยที่อยากแนะนำให้คนดู แต่ถ้าเด็กเล็กดู ควรมีผู้ใหญ่ค่อยรับชมด้วยกันพร้อมสอนข้อคิดของเรื่องนี้ตามไปด้วย เพราะมีฉากที่ไม่ควรเอาแบบอย่างอยู่มากเลยทีเดียว เช่น เจ้าชายอาร์เรนฆ่าพ่อตัวเองตาย เป็นต้น ส่วนด้านภาพถือว่ายังคงเอกลักษณ์ของค่ายนี้ไว้ดีเลยขอขอบคุณภาพจาก Studio Ghibli เป็นยังไงบ้างกับบทความที่เราได้เสนอกันไปในวันนี้ หวังว่าเรื่องนี้จะเป็นตัวเลือกสำหรับชาวอนิเมะเก็บไว้ดูกันนะคะ โดยผู้ชมสามารถหาดูได้แล้วทาง Netflix ผ่านกล่อง TrueID ได้แล้ววันนี้ สำหรับวันนี้ขอตัวลาไปก่อน บายค่า