ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในช่วงนี้หลายๆ คนต้องจมอยู่กับความกลัวการระบาดของเชื่อ Covid-19 ที่คร่าชีวิตคนบนโลกไปจำนวนมาก ประเทศไทยเองก็มีผู้ติดเชื่อนี้จำนวนไม่น้อยและมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่อง รัฐบาลเลยมีคำสั่งให้เหล่าประชาชนอยู่แต่บ้านเป็นหลักเพื่อที่จะหยุดการแพร่กระจายของเชื่อนี้ ตัวผมเองเพื่อที่จะทำตามนโยบายของรัฐบาลก็ต้องยอมอยู่บ้านจนแทบจะไม่ได้ออกไปไหน แต่อยู่บ้านเฉยๆ มันก็น่าเบื่อผมเลยตัดสินใจหาหนังดูเรื่อยๆ มา แต่วันนึงก็ได้คำแนะนำจากเพื่อนมาว่าให้ดูหนังเรื่องนี้เพราะเป็นหนังที่เข้ากับสถานการณ์ในปัจจุบันนี้มาก Contagion “สัมผัสล้างโลก” ดูจากหน้าหนังแล้วน่าสนใจจริงๆ เป็นหนังที่ว่าด้วยเรื่องราวของการแพร่เชื่อของโรคระบาดและปัญหาที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่โรคระบาดหนัก และได้ดาราดังที่คนชอบดูหนังอย่างเราคุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นดีมาแสดงนำอาทิเช่น Matt Damon (มารับบทเป็น Mitch Emhoff) Jude Law (มารับบทเป็น Alan Krumiede) Kate Winslet (มารับบทเป็น Dr. Erin Mears) Marion Cotillard (มารับบทเป็น Dr. Leonora Orantes) และนอกจากนั้นก็ยังมีดาราที่คุ้นหน้าคุ้นตาอีกเพียบเลย ทั้งพล็อตเรื่องทั้งดาราที่น่าสนใจขนาดนี้ทำให้ผมตัดสินใจดูหนังเรื่องนี้โดยไม่ต้องลังเลใจเลย หลังจากที่ผมดูหนังเรื่องนี้จบต้องบอกเลยว่าตัวผู้กำกับ Steven Soderbergh กับคนเขียนบท Scott Z. Burns เหมือนว่าพวกเขาเห็นอนาคตเลยที่ทำหนังเรื่องนี้มาได้ใกล้เคียงกับสถานการณ์ปัจจุบันที่เกิดขึ้นบนโลกมาก แต่ต่างตรงที่ความรุนแรงในตัวหนังจะรุนแรงกว่าในเหตุการณ์จริง แต่ผมก็แอบคิดเหมือนกันว่าถ้าโรคมันแพร่กระจายไปเรื่อยๆ จนควบคุมไม่ได้เหตุการณ์ในชีวิตจริงจะเป็นอย่างในหนังหรือไม่ ที่ต่างคนต่างกลัวการระบาดของโรคจนทำในสิ่งที่ผิดอย่างเช่นทำผิดกฏหมายเพื่อตนมีชีวิตรอด หรือแม้กระทั้งออกปล้นออกไปทุบทำลายข้าวของในห้างสรรพสินค้าเพื่อที่จะกักตุนข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็น ต้องบอกก่อนเลยว่าหนังเรื่องนี้เข้าฉายมาตั้งแต่ปี 2011 แต่ความเป็นมนุษย์กับความหวาดกลัวโรคที่ไม่เคยพบเจอช่างไม่ต่างกับสถานการณ์ปัจจุบันนี้เลย ตัวหนังเล่นประเด็นหลักที่สำคัญค่อนข้างดีเกี่ยวกับโรคระบาด การแพร่เชื่อที่สื่อให้เราได้เห็นกันเป็นทอดๆ ว่าใครเป็นไงไปติดเชื่อมาจากไหน คนที่ติดเชื่อเดินทางไปไหนมาบ้างไปพบใครมาบ้างมีอะไรเป็นพาหะนำโรคบ้าง และการแพร่เชื่อมันเกิดขึ้นอย่างไร ผมดูหนังเรื่องนี้ในช่วงแรกของหนังแทบจะไม่ต่างกับตอนที่ข่าวแพร่เชื่อของโคโรน่ามาใหม่ๆ เลย มันดูเหมือนโรคที่ไม่น่ากลัว แต่แล้วมันก็กลับน่ากลัวอย่างมากเมื่อมันเริ่มคร่าชีวิตคนจำนวนมากจนแทบไม่มีที่ให้ฝังศพอย่างในสหรัฐอเมริกา และที่สำคัญมันเป็นไวรัสสายพันธุ์ใหม่การดูแลการควบคุมเลยดูยุ่งยากไปหมด ประเด็นต่อมาของหนังก็ชวนให้คิดตามจริงๆ ในเมื่อมันเป็นไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่ยังหาวิธีรักษาไม่ได้ รัฐบาลจะจัดการกับจุดนี้ได้อย่างไร มีการรับมือแบบไหน ในตัวหนังสื่อมาให้เราได้เห็นว่าการตัดสินใจที่ผิดพลาดของรัฐบาลที่เลือกจะปิดข่าวทำให้สถาการณ์มันยิ่งแย่ เมื่อรัฐบาลไม่ออกข่าวให้มันชัดเจนและพยายามปิดบังเรื่องราวที่เกิดขึ้น เหล่าประชาชนก็เลยต้องไปเสพข่าวตามที่ต่างๆ จนทำให้เกิดเป็นความกลัวและเหตุการณ์วุ่นวายที่ยากจะรับมือเข้าไปอีก และนอกจากนั้นตัวหนังก็ยังสื่อให้เราเห็นอีกมุมมองก็คือ เมื่อคนที่มีอำนาจคนที่รู้เรื่องราวทุกอย่างที่เกี่ยวกับการระบาดของไวรัสนี้ พวกเขาก็มักจะช่วยเหลือคนข้างเคียงก่อน เพราะไม่มีใครอยากให้คนรักของตนต้องติดโรค ถึงแม้มันจะผิดหลักมนุษยชนของคนทั้งชาติ การสื่อออกมาแบบนี้ของหนังก็ยิ่งน่าสนใจชวนให้คิดตามเข้าไปอีก ส่วนการเดินเรื่องของหนัง ตัวหนังมีประเด็นหลักๆ อย่างที่ผมเล่าไป แต่ก็จะมีการตัดไปตัดมาระหว่างตัวละครต่างๆ ให้เราได้เห็นมุมมองของหลายฝ่ายที่เกิดขึ้นทั้งรัฐบาล หมอ หรือแม้แต่ตัวประชาชนเอง แต่ตัวหนังเรื่องนี้จะเป็นหนังโทนหม่นที่ไม่ได้หม่นมากและมีการเดินเรื่องที่ไม่ได้หวือหวา ผมต้องยอมรับตรงๆ ว่ามันเป็นหนังที่ดีมากก็จริง แต่หากดูตอนที่ไม่ได้เข้ากับสถานการณ์ผมก็อาจจะเบื่อได้ แต่ในเมื่อหนังมันสื่อมาตรงกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ผมเลยแทบจะไม่อยากพลาดสักวินาทีที่เกิดขึ้นในหนังเลยรู้สึกอินและลุ้นตามไปกับตัวหนังอย่างมาก และตัวหนังก็มีการกระจายบทที่ดีที่ให้เราได้ตามติดไปกับเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้อย่างน่าสนใจ บอกตรงๆ ว่าผมชอบหนังเรื่องนี้มาก นี่ก็เป็นความรู้สึกหลังจากที่ผมดูหนังเรื่องนี้จบเลยอยากแนะนำให้เพื่อนๆ ผู้อ่านทุกท่านได้ไปหาหนังเรื่องนี้มาดูกัน ไม่ใช่ว่าผมแนะนำให้ดูแล้วกลัวไปกับโรคระบาดนะครับ แต่ผมอยากให้เพื่อนๆ ดูเพื่อเป็นกรณีศึกษาว่าเราควรทำตัวอย่างไร ใช้ชีวิตอย่างไร จะทำแบบไหนดีจะทำแบบไหนแย่เพราะตัวหนังก็สื่อมาให้เราได้เห็นจุดนี้อย่างชัดเจน และที่สำคัญผมอยากให้ทุกคนตระหนักไว้ว่าเราจะผ่านช่วงเวลานี้ไปได้ พยายามข่มใจทนเบื่ออยู่บ้านกันไปก่อนเพื่อที่จะได้ไม่ต้องไปติดเชื่อไวรัส แล้ววันนึงไวรัสมันก็จะหายไปหรือไม่ก็จะมียาต้านที่จะรักษาเราทุกคนได้ แต่ถ้าใครเบื่ออยู่บ้านเฉยๆ ก็ไม่ต้องห่วงเลย ผมมีหนังดีๆ มาแนะนำอีกเพียบแน่นอนครับภาพ1โปรโมทจาก warnerbrosภาพทั้งหมดจาก Official Trailer จาก WarnerBros Thailand