Short CommentThe Flash เดอะ แฟลช (2023)หยิบชิ้นส่วนความทรงจำมาเล่าได้อย่างสนุกเล่นได้อย่างบันเทิงแต่แค่เหมือนเคยเห็นแบบนี้มาก่อนสารภาพมาไม่รู้กี่ครั้งว่าดูไปบ่นไปไม่ใช่แฟนหนังซุปเปอร์ฮีโร่แต่ก็ติดตามดูเพราะหนังซุปเปอร์ฮีโร่คือหนังที่การันตีความบันเทิง แล้วด้วยความที่ผู้เขียนมีซุปเปอร์ฮีโร่ในดวงใจคืออัศวินรัตติกาลมนุษย์ค้าวคาวมะนาวค้างคืนหรือ Batman ที่คงต้องยกเว้นเพราะนี่คือฮีโร่ที่ไม่มีพลังวิเศษ ในความทรงจำของผู้เขียนนับตั้งแต่ชอบมนุษย์ค้างคาวมาตั้งแต่ Batman (1989) ทำให้ต่อให้มีหนังแย่ๆมาแทรกบ้างแต่ก็ยังดูสนุก อีกประการหนึ่งที่ผู้เขียนดูหนังซุปเปอร์ฮีโร่เสมอมาก็คือผู้เขียนมีลูกชายคนเล็กที่เกิดมาและโตมากับหนัง Marvel และแน่นอนเมื่อเขาโตมากับหนังซุปเปอร์ฮีโร่ทางฝั่ง DC ก็ไม่มีข้อยกเว้นแล้วก็มีตัวละครหนึ่งที่คนรักหนังตัวเล็กชอบมากและดูฉบับซีรีส์ทุกซีซันก็คือ The Flash แล้วการพยายามรังสรรจักรวาลซุปเปอร์ฮีโร่จากฝั่ง DC ก็ย่อมไม่รอดพ้นสายตาคนรักหนังตัวเล็กที่ต่อให้หนังบางเรื่องออกมาเละเทะเขาก็ยังดูสนุกตามประสา แล้วเมื่อมีหนัง The Flash ที่เขาชื่นชอบมาเขาก็ตั้งตารอแต่ข้อจำกัดของการอยู่โรงเรียนประจำทำให้พลาดไป จนได้มาเห็นใน TrueID เลยไม่รีรอขอให้พ่อแลก Point ดูในวันหยุดเรื่องราวของฮีโร่ความเร็วเหนือเสียงแห่งเมือง Central City นามว่า The Flash ที่มีตัวตนที่แท้จริงคือ Barry Allen (Ezra Miller) หลังจากไปเยือนเมือง Gotham เพื่อช่วย Batman หรือ Bruce Wayne (Ben Affleck) ปราบเหล่าร้ายแล้วก็กลับมาทำงาน แล้วเมื่อเขาพบเบาะแสใหม่ที่จะช่วยพ่อของเขาในคดีฆาตกรรมแม่ของเขาได้แต่ยังไม่มีใครสนแล้วความช้ำใจทำให้เขาออกวิ่งด้วยความเร็วสูงสุดจนไปหยุดที่การพบว่าเขาสามารถย้อนเวลาได้ จนกระทั่งการมาของเพื่อเก่าที่เร้าใจ Iris West (Kiersey Clemons) แล้วเกิดผุดไอเดียที่จะช่วยพ่อของเขาได้โดยที่ไม่ให้แม่เขาตายด้วยการกลับไปเปลี่ยนอดีต ทว่าในระหว่างย้อนเวลาก็มีตัวประหลาดปริศนาตะบันหน้าให้เขาหลุดไปสู่โลกคู่ขนานที่แม่และพ่อเขายังมีชีวิตอยู่แต่ดันกลายเป็นว่าเขามีเขาอีกคนอยู่ แล้วความบรรลัยก็มาเยือนโลกนั้นเมื่อนายพล Zod (Michael Shannon) ที่เคยบุกโลกของเขาได้มาเพื่อทำลายโลกนี้ ทั้งสอง Barry จึงต้องไปพบกับ Bruce Wayne (Michael Keaton) ในโลกนี้เพื่อตามหา Superman เพื่อมาจัดการกับ Zod แต่ดันไปเจอ....ผูกเรื่องเล่าเรื่องได้ดีทำให้หนังมีความสนุกมีที่มาที่ไปแต่ก็คล้ายกับไม่เหลือทางไปของตัวเอง เพราะเรื่องนี้ผู้เขียนดูกับคนรักหนังตัวเล็กที่ปัจจุบันเป็นวัยรุ่นตอนต้นที่เป็นแฟน The Flash และได้ดูฉบับซีรีส์มาตลอดจึงต้องอิงความเห็นของเขามาบ้าง ซึ่งจากการคุยกันก็เห็นตรงกันว่าในเรื่องของการผูกเรื่องเล่าเรื่องโดยรวมอยู่ในระดับมีบทภาพยนตร์ที่ดีพอที่เหมือนออกมามั่วแต่กลับร้อยเรียงที่ควรจะมั่วให้เป็นรูปแบบที่เข้าใจง่าย ซึ่งเส้นเรื่องหลักก็ไม่มีอะไรฮีโร่ปราบผู้ร้ายการรวมทีมที่ไม่น่าจะเข้ากันได้ซึ่งในที่นี้คือสอง Barry Allen ซึ่งหนังก็แค่เดินหน้าไปเรื่อยๆตามขนบหนังซุปเปอร์ฮีโร่ไม่มีอะไรพลิกผันหรือมีอะไรเหนือการคาดเดาแค่ว่าพยายามมีหัวใจด้วยการบอกให้รู้ว่าการเล่นกับเวลาไม่ใช่เรื่องดีอดีตที่เคยผ่านมาก็ควรให้ผ่านไปไม่ควรเปลี่ยนแปลงเพื่อให้ตัวละครเรียนรู้และปล่อยวาง ซึ่งถ้ามองแบบนี้หนังไม่ได้มีอะไรที่สดใหม่หรือเป็นที่น่ายกย่องเชิดชูให้ทะลุฟ้าเมื่อทางไปของหนังซุปเปอร์ฮีโร่ในปัจจุบันไม่ว่าจากค่ายไหนก็เริ่มตีบตัน แน่นอนเรื่องนี้ก็เจอชะตากรรมที่ไม่ต่างกันเมื่อไม่ค่อยเหลือทางให้ไปเป็นของตัวเองฉลาดในการหยิบชิ้นส่วนในความทรงจำเล็กบ้างใหญ่บ้างมาเล่นจนเป็นความบันเทิงสุดๆ กระนั้นหนังก็ยังมีส่วนที่ประเสริฐสุดติ่งนั่นคือการหยิบเอาชิ้นส่วนในความทรงจำของ DC มาขึ้นจอได้อย่างสนุก แรกเลยคือการกลับมารับบท Bruce Wayne หรือ Batman อีกครั้งของ Michael Keaton ที่ทำให้แฟนรุ่นเก๋าต้องมีขนลุก ซ้ำยังมีมาให้ตื่นเต้นได้เรื่อยๆตลอดเวลาที่ความทรงจำเกี่ยวกับจักรวาล DC ที่เคยผ่านมาตั้งแต่อดีตที่เอามาขึ้นจอได้อย่างมีพลังทั้งที่บางเรื่องยังไม่ได้สร้างด้วยซ้ำ ยังไม่นับการมาของตัวละครฮีโร่สมทบแบบรับเชิญให้ประหลาดใจเล่นที่ต้องบอกว่าเข้าใจเล่นจนกระทั่ง End Credit ซึ่งสิ่งเหล่านี้เองที่ทำให้เรื่องที่เหมือนไม่ใหม่กลับมีอะไรให้ลุ้นว่าจะมีชิ้นส่วนไหนโผล่มาให้เซอร์ไพรส์อีก แล้วก็เป็นแบบนี้ไปตลอดทางจนกระทั่งกลายเป็นความพลิกผันที่คนที่ติดตามดูงานในจักรวาล DC มาจะรู้ว่าคืออะไรและสิ่งเหล่านี้เองที่กลายเป็นความบันเทิงที่สุดๆไปเพราะบางครั้งก็เหมือนได้พบเพื่อนเก่า แม้ว่าบทสรุปจะออกมาแบบเป็นทางแยกออกไปไม่สะใจแต่ก็ขมในคอเล็กๆเมื่อเพื่อนเก่ากำลังจะจากลาแต่กลับคล้ายเคยเห็นที่ไหนมาก่อนกับการทำลายเส้นเวลาจนหายนะมาเยือนแบบนี้ อย่างที่บอกคือหนังซุปเปอร์ฮีโร่ในปัจจุบันชักไม่เหลือทางไปเท่าไหร่เมื่อยิ่งทำออกมาก็เหมือนพิมพ์เขียวเดียวกันไม่ว่าจะจากค่ายไหนหรือข้ามค่าย อย่างเรื่องนี้เอาแบบไม่เกรงใจเลยคือเคยเห็นมาแล้วกับการพยายามเปลี่ยนแปลงเพื่อแก้ไขบางอย่างเพื่อตัวเองแต่กลับกลายเป็นหายนะ แล้วต้องไปผนึกกำลังกับตัวเองในมิติคู่ขนานเพื่อแก้ไขข้อผิดพลาดนั้นจนต้องแลกกับบางอย่างที่ทำร้ายจิตใจตัวเองใช่แล้วผู้เขียนกำลังเอ่ยถึงหนังจากอีกค่ายที่ฮีโร่ปล่อยใยไม่มีทางกลับบ้าน ทำให้แม้บทหนังจะออกมาดีมีอะไรเชื่อโยงกันดีมีเหตุมีผลมีแรงจูงใจมีความสนุกเร้าใจมีฉากแอ็กชันที่เถิดเทิงบันเทิงได้ตามสมควรที่หนังซุปเปอร์ฮีโร่พึงมี แต่สิ่งที่ไม่มีทางหลุดจากหัวคนดูคือโครงเรื่องที่เหมือนเคยเห็นมาแล้วยังมาพร้อมกับบุคลิกช่างจ้อเกรียนแบบจัดๆจนบางครั้งก็ดูน่ารำคาญที่เคยเห็นมาจากเรื่องที่ว่าหรือจากฮีโร่ชุดแดงใช้ดาบคาตานะ แล้วความที่ไม่ฉีกทางออกไปจนคล้ายเห็นที่ไหนมาก่อนเลยดึงความดีที่ควรไปสุดให้หยุดอย่างน่าเสียดายไม่ว่าพฤติกรรมส่วนตัวจะเป็นอย่างไรแต่ก็เป็น The Flash ที่น่าจดจำ สำหรับนักแสดงนำ Ezra Miller ที่คอหนังรู้ดีว่าพฤติกรรมส่วนตัวเป็นอย่างไรทำให้อาจมีผลอยู่บ้างกับรายได้ กระนั้นถ้าแยกออก Ezra Miller ก็คือ Barry Allen ที่ใช่สำหรับผู้เขียนทั้งที่เคยดูฉบับซีรีส์มาก่อนอาจเป็นเพราะในหนังสองสามเรื่องที่ผ่านมากลายเป็นภาพติดตาที่เห็น Barry Allen ช่างจ้อเกรียนและกวนสุดๆ จนกระทั่งเมื่อมีหนังของตัวเองที่คนดูซีรีส์มาจะรู้ว่าเบื้องหลังอย่างละเอียดของ Barry Allen เป็นเช่นไรทำให้ได้ Barry Allen ที่ทั้งเกรียนทั้งหม่นในคนเดียวกันจนกลายเป็น The Flash ที่น่าจดจำไปอีกนาน ส่วนที่ผู้เขียนสมใจเหลือเกินคือ Michael Keaton กับบท Bruce Wayne วัยชราที่หัวใจสลายซ้ำซ้อนจากการไม่มี Alfred จนใช้ชีวิตเป็นมนุษย์ถ้ำ จนมาได้เจอกับสอง Barry ทำให้ไฟในใจคุโชนอีกครั้งและการเปลี่ยนผ่านครั้งนี้ได้ความเก๋าของ Michael Keaton มายกระดับ หนังยังได้เพลงประกอบที่ชวนขนลุกเพราะทุกการหยิบชิ้นส่วนเล็กใหญ่มาใช้จะมาพร้อมเพลงธีมของส่วนนั้นๆทำให้ภาพที่เห็นมีพลังขึ้นอีกโขนี่คือหนังที่ดูสนุกเป็นความบันเทิงที่มาพร้อมคุณภาพแต่กลับไม่ให้ความรู้สึกประทับใจในบางแง่มุม ในแง่ความสนุกเรื่องนี้คือหนังที่ดูสนุกแน่นอนและสนุกพอที่จะให้คนที่เป็นแฟนฮีโร่ตัวนี้หรือคนที่อิ่มเอมกับชิ้นส่วนแห่งความทรงจำได้ดูซ้ำ เพราะหนังออกมาเป็นหนังซุปเปอร์ฮีโร่จ๋าที่มาพร้อมความบันเทิงเต็มที่ไม่มีพยายามดิ่งดาร์คทั้งที่ไม่ควรเพราะออกมาสดใสปานนั้นเหมือน Black Adam กระทั่งไม่พยายามเป็นเด็กในร่างผู้ใหญ่จนเกินงามลามปามไปจนน่ารำคาญเหมือน Shazam 2 หนังตั้งใจมาเล่าเรื่องของ Barry Allen ในมุมที่ทุกคนก็รู้แต่ก็ชัดเจนที่จะเล่าเพราะนี่คือหนัง The Flash ทำให้ต่อให้มีตัวละครสมทบที่น่าจดจำทั้ง Batman และ Supergirl แต่ไม่มีใครขโมยซีนได้ แต่ถ้าจะเอาในแง่ความประทับใจคงต้องโทษที่ทางไปของหนังซุปเปอร์ฮีโร่เหมือนน้อยจริงๆแล้วเพราะไม่ว่าจะพยายามฉีกขนาดไหนก็ยังไม่พ้นความรู้สึกว่าเคยเห็นที่ไหนมาก่อน ซึ่งก็น่าเสียดายที่หนังออกมาดีเลยแต่กลายเป็นความสนุกที่ง่ายเหมือนบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่แม้จะพยายามซื้อรสแปลกๆมาเทน้ำร้อนใส่แต่ไม่ว่ายังไงมันก็คือมาม่าดูไปบ่นไปhttps://www.youtube.com/watch?v=uQaB7a2eDOA&ab_channel=WarnerBros.Thailandขอบคุณภาพประกอบ ภาพปก / ภาพที่ 1 / ภาพที่ 8 จาก Instagram dctheflashภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 / ภาพที่ 5 / ภาพที่ 6 / ภาพที่ 7 จาก Facebook Major GroupVDO ตัวอย่าง จาก YouTube Warner Bros. Thailandถ้าคุณชอบเรื่องนี้ คุณจะชอบเรื่องเหล่านี้https://entertainment.trueid.net/detail/90Dn9PaP3vpkhttps://entertainment.trueid.net/detail/gRwv4bqVMYgWhttps://entertainment.trueid.net/detail/kDJ9yayopLa3คอมมูนิตี้ “โลกคนรักหนัง” ห้องหวีดซีรีส์ดังออกใหม่มาแรง ป้ายยาหนังดีหนังโดน