"มิตร มิตรชัย” แฮปปี้ชีวิตหลังบวช พร้อมเริ่มต้นชีวิตใหม่

พร้อมให้โอกาสตัวเองเริ่มต้นชีวิตใหม่ หลังลาสิขาบท สำหรับหนุ่มมากความสามารถ "มิตร มิตรชัย" น้องชายของ "เอ ไชยา" จากที่บวชเป็นเวลาเกือบ1 เดือน เพื่อตอบแทนคุณพ่อแม่ล่าสุดเจ้าตัวได้เปิดใจกับทีมข่าวว่า ตนเองได้ปล่อยวางซึ่งการบวชในครั้งนี้ยังได้เรียนรู้อะไรมากมาย รวมถึงเรื่องของสติ ที่ได้นำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน

ภาพจาก Facebook : มิตร มิตรชัย

ภาพจาก Facebook : มิตร มิตรชัย

ภาพจาก Facebook : มิตร มิตรชัย

โดย "มิตร มิตรชัย" ได้เผยว่า "ตอนไปบวช จริงผมบวชในระยะเวลที่ไม่นานมาก แต่ในทุกๆวันที่ได้บวชก็ตั้งใจปฏิบัติเต็มที่ ได้เรียนทั้งในตำราบ้าง แล้วก็ได้เรียนรู้จากการวิปัสนา สมาธิ กรรมฐานด้วย จากประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านๆมา มันก็เลยทำให้ตอนที่เราไปบวช มันทำให้เราปล่อยวาง และเรียนรู้ประสบการณ์ชีวิตได้เยอะมาก บอกเลยว่า ครอบครัวทักกันหมดเลย ว่าเปลี่ยนไปเยอะมาก ระยะเวลาที่บวชก็ประมาณเกือบเดือน ด้วยคิวการแสดงที่มีการรับไว้ล่วงหน้า สถานการณ์โควิดขยับมาด้วย ที่นี้เลยได้ระยะเวลาแบบบีบบังคับ ในการบวชไม่ได้ยาวมาก แต่ก็ตั้งใจเต็มที่

เป้าหมายของการบวช จริงๆผมบวชให้พ่อกับแม่ เพราะว่าตั้งใจมานานมากเเล้วพอจังหวะได้พอดี ก็เลยคิดว่ารีบทำให้ท่านก่อน เนื่องจากอย่างที่ผมผ่านเหตุการณ์อะไรมา มันทำให้เราเห็นคุณค่าของสิ่งใกล้ตัว สำคัญที่สุดก็คือพ่อกับแม่ ก็เลยรีบทำตรงนี้ให้ท่านก่อน ช่วงที่บวชพ่อกับแม่น้ำตาไหลแบบรอยยิ้ม ที่ท่านมองว่าตั้งแต่เรื่องราวที่มันเกิดขึ้นจนมาถึงวันบวช ลูกเปลี่ยนไปแล้วก็โตขึ้น พ่อกับแม่ก็ให้เริ่มต้นชีวิตใหม่ และซึ่งผมเองเริ่มต้นชีวิตใหม่มาจากการที่เราได้บวชเรียนใส่ผ้าเหลืองตรงนั้น ผมก็รู้สึกว่ามันปล่อยวางจริงๆ ให้อยู่กับปัจจุบัน กับการบวชอย่างน้อยที่สุดเราได้สติมาใช้กับงานในชีวิตประจำวัน

ภาพจาก Facebook : มิตร มิตรชัย

ภาพจาก Facebook : มิตร มิตรชัย

 คำพื้นฐานให้เราอยู่กับปัจจุบัน  หรือว่าอยู่กับปัจจุบันโดยมีสติ มันเป็นคำพูดพื้นฐานแต่มันทำยาก แต่วันที่ผมได้ไปบวช ผมได้ฝึกอยู่กับลมหายใจ แล้วผมคิดว่ามันเป็นอะไรที่มันติดตัวมา จนสึกมาเเล้วเราก็ยังทำอยู่ แล้วมันทำให้เราสามารถเรียงลำดับการทำงานก็ได้ หรือเรียงลำดับการใช้ชีวิตในครอบครัวก็ได้ รู้สึกเหมือนมันมีสติและแข็งแรงขึ้นเยอะมาก 

สติผมมองว่ามันเป็นพรวิเศษที่สุด เพราะว่าไม่ว่าจะขออะไรก็เเล้วแต่เวลาเราไหว้พระขอพร แต่สติมันเป็นตัวที่อยู่ตอนนั้นตลอด มองว่าเป็นสิ่งที่เราต้องทำตลอด อีกอย่างคือมันได้ปล่อยวาง อย่างที่บอกตอนไปบวชเราแบกทุกข์ไปด้วย แต่พอเราได้เข้าใจทุกข์ เราเห็นสาเหตุของทุกข์ว่าจริงๆตัวเรามันผ่านการชดใช้หรือผ่านการรับเคราะห์กรรมมาเป็นที่เรียบร้อย จริงๆ ถ้ามันจบเเล้วมันต้องวางจากใจเราด้วย ที่นี่มันก็เลยทำให้ผมเลือกที่จะให้โอกาสตัวเอง เดินหน้าเเล้วก็ทำงานต่อ" 

ภาพจาก Facebook : มิตร มิตรชัย

ภาพจาก Facebook : มิตร มิตรชัย