Movie Review Past Lives (2023) ครั้งหนึ่ง...ซึ่งคิดถึงตลอดไป เกาหลีวิถีฝรั่งที่เงียบ เรียบ ง่ายแต่สยบทุกความรู้สึกที่จิตสำนึกให้อดกลั้นแม้ใจต้องการจนลุ้นแทบตายสุดต้องยอมรับความจริง รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! เชื่อเถอะว่าเราทุกคนต่างมีใครสักคนที่ถูกตอกตรึงในความทรงจำไม่อาจลบเลือนได้ต่อให้เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่หรือชีวิตได้ผ่านอะไรมากมายก็ยังไม่อาจลบใครคนนั้นจากความทรงจำ แน่นอนในชีวิตคนหนึ่งคนอาจมีความรักได้หลายครั้งและอาจไม่ใช่ว่ารักแท้มีแค่ครั้งเดียวเพราะบางครั้งความรักที่ผ่านเข้ามาหลายครั้งก็ยังเป็นรักแท้สำหรับบางคน แต่แม้จะเรียกได้ว่ารักแท้แต่มีบ้างบางครั้งที่ไม่สามารถสานต่อความรักนั้นด้วยเหตุผลและความจำเป็นและนั่นอาจเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ใครสักคนติดอยู่ในห้วงคำนึงของใครอีกคน เพราะในหนึ่งชีวิตของคนจะผ่านปัจจัยมากมายให้สร้างความทรงจำทั้งดีทั้งร้ายความรักก็เช่นกันที่มันเป็นได้ทั้งเทพที่มาจุติในหัวใจและเป็นได้ทั้งซาตานที่เผาผลาญหัวใจและพลังชีวิตที่จะติดในความทรงจำ แต่ถ้าจะคิดค้างจนคิดถึงคนึงหาไม่มีวันลืมเลือนได้นั้นอาจเป็นความเสียดายที่ได้ทำหรือไม่ได้ทำอะไรเพื่อความรักครั้งนั้น มันจึงเป็นที่มาของชีวิตที่ไม่อาจเป็นได้ดังประสงค์ทุกอย่างเพราะชีวิตจริงไม่มีคำว่าถ้าและนี่คือเรื่องราวของเรื่องที่ว่านั้น Past Lives หรือแต่ปางก่อนในภาษาเกาหลีเรียกว่าอินยอนคือเรื่องพรหมลิขิตที่จะพาคนสองคนที่เคยรักกันได้มาพบกันในชาตินี้ และนี่คือเรื่องของมุนนายองหรือนอรา มุน (เกรตา ลี) หญิงสาวชาวเกาหลีที่ย้ายถิ่นฐานจากบ้านเกิดมาอยู่ในแคนาดาตามครอบครัวและปัจจุบันเธอคือนักเขียนบทละครเวทีในนิวยอร์ค แต่เมื่อยี่สิบสี่ปีก่อนนอราหรือนายองได้เดตกับแฮซอง (ยูแทโอ) ที่ตอนนั้นทั้งคู่ยังเป็นเด็กวัยสิบสองแต่แม้จะเป็นเช่นนั้นนี่คือรักแรกของกันและกันก่อนที่ทั้งสองจะแยกย้ายจากกันอยู่คนละซีกโลก สิบสองปีหลังจากนั้นเธอและเขาได้ติดต่อกันอีกครั้งทางโซเชียลมีเดียและเหมือนว่าความสัมพันธ์จะเป็นไปด้วยดีแต่ชีวิตและความฝันก็พรากเขาและเธออีกครั้ง และสิบสองปีให้หลังที่เป็นปัจจุบันนอราแต่งานกับอาเธอร์ (จอห์น มากาโร) และแฮซองเลิกกับแฟนแต่แล้วคำสัญญาที่ว่าเขาจะมาหาเธอในนิวยอร์คก็ได้สานต่อ แน่นอนการมานิวยอร์คของแฮซองคือการมาเพื่อเจอกับนายองของเขาที่ตอนนี้คือนอราที่รู้ทั้งรู้ว่าเธออาจไม่ใช่นายองคนเดิมแต่สิ่งที่ยังเหมือนเดิมนั้นคือ... เกาหลีวิถีฝรั่งที่ละเมียดละไมในการเล่าเรื่องจากฐานรากจนถึงชั้นสุดโดยไม่มีสะดุดพร้อมกับความโรแมนติกที่มีภาวะเป็นจริง อาจเพราะนี่คือเรื่องของคนเกาหลีทั้งเกาหลีแท้และเกาหลีโพ้นทะเลบทหนังของเซลีน ซองผู้กำกับควบเขียนบทที่เป็นเกาหลีโพ้นทะเลจึงมี DNA เกาหลีที่ถ้าอ่านประวัติของเธอจะเหมือนเธอเอาชีวิตตัวเองมาดัดแปลง แล้วบทหนังเรื่องนี้ออกมามีความละเมียดในแบบที่หนังเกาหลีเป็นที่จะเรียบเรื่อยดราม่าเล็กใหญ่ใส่เข้ามาแต่การเล่าเรื่องออกมาเป็นฝรั่งเพราะบริบทใหญ่อยู่ในนิวยอร์ค ทำให้เหมือนเป็นส่วนผสมที่ลงตัวเพราะคนดูหนังเกาหลีก็คุ้นชินแต่ก็ดูง่ายไม่ต้องระแวงชั้นเชิงเหมือนหนังเกาหลีคือง่ายๆสไตล์ฝรั่ง แต่ในความง่ายนั้นกลับเต็มไปด้วยรายละเอียดที่เป็นฐานรากของเรื่องราวเพราะการเล่าเป็นสามช่วงเวลาที่เป็นปัจจัยในปัจจุบันที่เป็นชั้นบนสุดของเรื่องราวที่เกิดขึ้นในนิวยอร์ค แล้วรายละเอียดเล็กน้อยยิบย่อยเต็มไปด้วยสัญญะให้คิดตามก็คือความลื่นไหลไม่มีสะดุดทำให้ในความสัมพันธ์ครั้งนี้ที่ควรเป็นอย่างที่ต้องการแต่เลือกไม่ เล่นกับอารมณ์ความรู้สึกเต็มไปด้วยความครุ่นคิดคำนึงอยากให้เป็นดังใจหวังลุ้นและเอาใจช่วยแต่สุดท้ายต้องยอมรับความจริง รู้ว่าคนสองคนรักกันไหมก็รู้รู้ว่าคนสองคนคิดถึงกันไหมก็รู้รู้ว่าคนสองคนโหยหากันหรือไม่ระหว่างที่อยู่ในนิวยอร์กก็รู้แต่ต้องหักห้ามและรักษาระยะห่าง เพราะหนังเล่าเรื่องได้จนรู้สึกรักตั้งแต่แรกและโยนความครุ่นคิดคำนึงถึงให้กับแฮซองที่ยึดติด หนังฉลาดเหลือที่ใช้บริบททางสังคมในการเติบโตและการใช้ชีวิตระหว่างตะวันตกกับตะวันออกมาใช้ได้อย่างแนบเนียนในการกำหนดความรู้สึกของตัวละคร แน่นอนคนดูรู้ไม่ใช่ไม่รู้และคนดูก็ลุ้นไม่ใช่ไม่ลุ้นเพราะหนังเปิดหน้าท้าดวลมโนธรรมในใจแถมยังบอกใบ้กลายๆว่าการแต่งงานของนอรามีอะไรอยู่เบื้องหลัง และเพราะหนังบอกมาตั้งแต่ต้นในสามช่วงเวลาทำให้คนดูรักตัวละครแน่นอนว่าการเอาใจช่วยให้สมหวังก็มาเต็มแต่นั่นคือความหวังของใคร? จนฉากสุดท้ายที่ลุ้นสุดใจว่าจะมีอะไรมากกว่านั้นจนถึงซีนสุดท้ายก็ต้องยอมรับความจริงที่ไม่ใช่ความจริงที่โหดร้ายแต่มันคือความถูกต้องหาใช่ถูกใจ การแสดงที่ยอดเยี่ยมจนทำให้คนดูมีความรู้สึกร่วมเต็มร้อยคือรู้สึกอย่างที่ตัวละครรู้สึกคือโหยหาแต่ต้องหักห้าม ในหนังที่เล่นกับความรู้สึกหรือจัดการความรู้สึกแบบนี้สิ่งที่ต้องทำให้ได้คือการสื่อสารความรู้สึกกับคนดูจึงเป็นหน้าที่ที่สำคัญยิ่งในการถ่ายทอดโดยนักแสดง และหนังเรื่องนี้มันคือรักแรกที่ตอกตรึงในใจที่เมื่อเวลาผ่านไปปัจจัยมากมายจะมารบกวนความรู้สึก หนังจึงเต็มไปด้วยความโหยหาแม้ยามหลับและยามตื่นแต่มีความจริงที่เป็นอยู่ในปัจจุบันทำให้ต้องกดความรู้สึกนั้นไว้ และอาการกับอารมณ์ที่มาจากความรู้สึกข้างในคนดูสามารถจับต้องได้ไม่ใช่แค่สัมผัสจากการแสดงของเกรตา ลีและยูแทโอที่ในสายตาทุกการสนทนาจะรู้สึกถึงความโหยหาอยู่ข้างในแต่ต้องสะกดมันเอาไว้ ในขณะเดียวกันกับที่คนดูเอาใจช่วยสองคนนั้นก็ไม่ลืมสงสารความกระอักกระอ่วนแต่ทำอะไรไม่ได้เพราะสองคนนั้นก็ไม่ได้ทำผิดอะไรของจอห์น มากาโร ทำให้หนังมีฉากจบที่ทั้งเจ็บปวดทั้งผิดหวังตั้งแต่ยืนรอแท็กซี่ที่ลุ้นแทบตายจนถึงซีนสุดท้ายแต่กลายเป็นตอนจบที่ยอดเยี่ยม เป็นงานดีที่คู่ควรต้องดูเพราะเงียบงัน เรียบง่ายแต่สยบทุกความรู้สึกในทุกห้วงคำนึงและดูแล้วไม่มีทางไม่คิดถึงใครสักคน ถ้าว่ากันที่ความยอดเยี่ยมในที่นี้จะมองข้ามการเข้าชิงรางวัลออสการ์ของหนังไปแล้วมาว่ากันที่ความรู้สึกส่วนตัวล้วนๆ และถ้าเอาตามนี้นี่คืองานดีที่คู่ควรเพราะมันคือความรู้สึกนึกคิดที่หลากหลายเอาง่ายๆคือการดูเรื่องนี้ไม่มีทางไม่คิดถึงใครสักคนที่อยู่ในห้วงคำนึงเสมอมา ดูแล้วไม่มีทางไม่โหยหาหรือถวิลหาความทรงจำที่ดีเมื่อครั้งเก่าก่อนแม้ว่าวันนี้จะผ่านเวลานั้นมานานขนาดไหน ดูแล้วไม่มีทางไม่รู้สึกกระอักกระอ่วนใจเมื่อภรรยาสุดที่รักต้องมาพบกับรักแรกของเธอโดยที่รู้ทั้งรู้ว่าเธอไม่เคยลืมเขาและทุกอย่างที่ว่ามาถูกร้อยเรียงอย่างเรียบง่าย การเล่าเรืองอารมณ์ที่เต็มไปด้วยอารมณ์เพราะหนังมาพร้อมความเงียบงันที่เปิดช่องให้คิดไปต่างๆนาๆกับเรื่องของคนสองคนแถมอีกคนที่เป็นเรื่องความรู่สึกล้วนๆ สุดท้ายคำว่าถ้าจะมาเต็มสมองเมื่อตัวละครคิดคนดูก็คิดตัวละครรู้สึกคนดูจะรู้สึกและนั่นทำให้หนังสามารถสะกดและสยบทุกอารมณ์เพราะนี่คือเรื่องชีวิตจริง ดูไปบ่นไป ขอบคุณภาพประกอบ ภาพปก,ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2,3,4,5 / ภาพที่ 6 / ภาพที่ 7 จาก Instagram pastlivesmovie จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !